เมืองเมลเบิร์นแซงหน้าซิดนีย์ในฐานะเมืองที่น่าอยู่อาศัยที่สุดในออสเตรเลีย โดยอยู่อันดับที่ 4 ของโลกในดัชนีความน่าอยู่อาศัยทั่วโลกของ Economist Intelligence Unit ประจำปีนี้
แบบสำรวจนี้สำรวจเมือง 173 แห่งและประเมินปัจจัยต่างๆ เช่น เสถียรภาพ การดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน โดยไม่ได้ประเมินความสามารถในการซื้อ
เมืองแต่ละแห่งได้รับคะแนนดัชนีรวมจาก 100 คะแนน
ทั้งสองเมืองได้รับคะแนนเต็มในด้านการศึกษาและการดูแลสุขภาพ แต่เมลเบิร์นได้คะแนนแซงหน้าในหมวดหมู่ของวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ด้วยคะแนน 95.8 ขณะที่ซิดนีย์ได้ 94.4
เมลเบิร์นร่วงลงหนึ่งอันดับจากปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่สี่ของปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยอยู่ในอันดับที่สามในด้านความน่าอยู่ ขณะที่ซิดนีย์ร่วงจากอันดับที่สี่มาอยู่ที่อันดับที่เจ็ดจากผู้ตอบแบบสอบถาม
เวียนนาในออสเตรียยังคงครองตำแหน่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
นอกจากนี้จากผลการสำรวจระบุ ดามัสกัสในซีเรียยังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่น้อยที่สุดของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงและการดูแลสุขภาพ
Vienna in Austria was ranked the most liveable city in the world for the third year in a row. Source: Getty / Alexander Spatari
ความน่าอยู่อาศัยภายใต้แรงกดดัน
เทลอาวีฟตกอันดับลงอย่างน่าตกตะลึงที่สุด จากอันดับที่ 92 ลงมาอยู่ที่ 112 หลังจากสงครามฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมืองต่างๆ ในยุโรปตะวันตกกลับเป็นเมืองที่มีอันดับลดลงอย่างเห็นได้ชัดที่สุด
เมืองใหญ่ 5 เมืองของเยอรมนี ได้แก่ เบอร์ลิน มิวนิก ฮัมบูร์ก สตุ๊ตการ์ท และดุสเซลดอร์ฟ อยู่ในกลุ่มเมืองที่มีอันดับลดลงอย่างรวดเร็วที่สุด โดยเสียคะแนนด้านเสถียรภาพหลังจาก "เหตุการณ์ประท้วงที่เพิ่มมากขึ้น" และ "นโยบายตั้งแต่ด้านการเกษตรไปจนถึงการย้ายถิ่นฐาน"
เสถียรภาพเป็นตัววัดที่ลดลงมากที่สุดในดัชนีทั้งหมด
การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้เคียฟอยู่ใน 10 อันดับสุดท้าย
รายงานระบุอย่างชัดเจนว่าความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยและอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับในเมืองต่างๆ ในออสเตรเลียและแคนาดา
ตามรายงานของ Economist Intelligence Unit ระบุว่าความสามารถในการอยู่อาศัยทั่วโลกเพิ่มขึ้น "เพียงเล็กน้อย" ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่าการลดลงของการวัดเสถียรภาพนั้นถูกชดเชยด้วยการปรับปรุงด้านการดูแลสุขภาพและการศึกษาในเมืองต่างๆ ในยุโรปและอเมริกาเหนือบางแห่ง
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ชาวออสเตรเลียทำมากกว่าหนึ่งงานเพื่อใช้จ่ายกับค่าดูแลสุขภาพ