ศูนย์ความปลอดภัยบนท้องถนน ขององค์การขนส่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยว่า กล้องจรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถที่เริ่มใช้งานแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. คือเมื่อวานนี้เป็นต้นมานั้น จะเป็นต้องที่มีทั้งติดตั้งไว้ประจำจุดต่างๆ และกล้องเคลื่อนที่ที่ติดตั้งไว้บนหลังคารถของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะทำให้กล้องเหล่านี้สามารถตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถได้ทุกที่และทุกเวลา
กล้องเป็นกล้องที่มีความคมชัดสูง (High Definition) สามารถทำงานได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ในทุกสภาพอากาศ และใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ในการตรวจจับภาพผู้ขับรถที่ละเมิดกฎหมาย จากนั้นจะส่งภาพของผู้ขับรถที่ใช้โทรศัพท์มือถือให้เจ้าหน้าที่ลงความเห็นอีกทอดหนึ่ง
จากวันที่ 1 ธ.ค.2519 นี้เป็นต้นไปเป็นเวลา 3 เดือน จะมีการออกจดหมายเตือนไปยังผู้ขับขี่ที่กระทำผิด แต่หลังจาก 3 เดือนผ่านไปแล้ว ผู้ที่กระทำความผิด จะได้ถูกหักแต้มจากใบขับขี่ 5 แต้ม และจะถูกปรับ 344 ดอลลาร์ แต่หากกระทำความผิดบนถนนที่อยู่ในเขตโรงเรียน (school zone) จะถูกหักแต้มเช่นเดียวกัน และปรับ 457 ดอลลาร์ นอกจากนี้ การถูกหักแต้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 แต้ม หากกระทำความผิดในช่วงที่มีการประกาศจะหักแต้มผู้ละเมิดกฎหมายเป็น 2 เท่า
ในระหว่างที่กล้องตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือนี้เริ่มเปิดใช้งาน และมีการส่งจดหมายเตือนให้แก่ผู้ละเมิดกฎหมายตั้งแต่ 1 ธ.ค. เป็นเวลา 3 เดือน ในระหว่างนี้ ตำรวจนิวเซาท์เวลส์จะยังคงตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และจะสั่งปรับผู้กระทำความผิดตามปกติ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ทดลองใช้กล้องตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2019 กล้องดังกล่าวสามารถตรวจพบผู้ขับรถที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่กว่า 100,000 ราย
ศูนย์ความปลอดภัยบนท้องถนน ขององค์การขนส่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า จากการวิจัยพบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถนำไปสู่การมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 4 เท่าสำหรับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ขณะการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้นไปอีก
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจวิกตอเรียส่ง จนท.นอกเครื่องแบบจับคนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ