EXPLAINER: คำว่า 'ถูกกล่าวหา' หมายถึงอะไรในการรายงานข่าว? และทำไมการรายงานข่าวอย่างเป็นกลางจึงสำคัญ?

นักข่าวจำนวนมากไม่เพียงแต่ต้องต้องเปิดเผยตัวตนแค่นายจ้างและแหล่งที่มาของข่าวที่อาจสร้างผลกระทบตามมาเมื่อทำการรายงานข่าวประเด็นสำคัญทางกฎหมาย ซึ่งในความเป็นจริง ผลกระทบเหล่านั้นอาจเกินกว่าจะควบคุมไว้ภายในชั้นศาลได้

Male TV reporter

เคยได้ยินคำว่าถูกกล่าวหาในข่าวไหม? นี่คือเหตุผลว่าทำไมสื่อถึงใช้คำนี้เมื่อรายงานการดำเนินคดีในศาล Credit: bluecinema/Getty Images

การรายงานข่าวการดำเนินคดีในศาล เราต่างล้วนแต่เคยได้ยินคำว่า กล่าวหา (allege) ถูกกล่าวหา (alleged) และกำลังกล่าวหา (alleging) ให้พบเห็นอยู่ทั่วไป

มีการตั้งคำถามว่าสื่อมีความยุติธรรมหรือไม่เมื่อมีการใช้คำนี้ แต่คำนี้มีบทบาทสำคัญในการรายงานข่าวสาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีหรือการโน้มน้าวในการตัดสินคดีได้

สิทธิของสื่อในการรายงานในห้องพิจารณาคดีเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย และนี่คือวิธีการที่การใช้คำว่า 'ถูกกล่าวหา' ในการนำเสนอข่าว

'ถูกกล่าวหา' คำนี้หมายความว่าอย่างไร?

คำว่า กล่าวหา ถูกกล่าวหา หรือกำลังกล่าวหามักถูกใช้โดยสื่ออยู่บ่อยครั้งเพื่อ "บ่งชี้ว่ามีคนถูกต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการกระทำบางอย่าง" ผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายสื่อสารมวลชนแห่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น รองศาสตราจารย์เจสัน บอสแลนด์ (Associate Professor Jason Bosland) กล่าว

แต่มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายในทางอาญาหรือความประพฤติมิชอบ

"มันเป็นคำที่มักจะถูกใช้เมื่อมีคนถูกตั้งข้อหา... และมันถูกใช้เพื่อบ่งชี้ว่าพวกเขาถูกต้องสงสัย" เขากล่าวกับ SBS Examines

"มันอาจบ่งชี้ว่ามีเหตุผลอันสมควรที่จะสงสัยว่าบุคคลนั้นได้กระทำการบางอย่าง แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน หรือถูกตัดสินว่ามีความผิด"

สื่อระมัดระวังที่จะทำการเผยแพร่ข่าวสาว่าบุคคลนั้นกระทำพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่ง เพราะมันอาจส่งผลกระทบในทางอาญาและสร้างความเสียหายในทางการเงินอย่างร้ายแรงกับตัวนักข่าวและสื่อสำนักนั้นได้ในภายหลัง

"สองประเด็นที่มีบทบาทเมื่อเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับผู้ที่อาจมีส่วนร่วมในความประพฤติมิชอบหรือกิจกรรมทางอาญานี้ คืออาจเข้าข่ายการหมิ่นประมาทและความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล" ศ.ดร. บอสแลนด์อธิบาย

ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

"ถ้าสื่อได้ทำการเผยแพร่ว่ามีคนกระทำความผิดเมื่อพวกเขายังไม่ได้รับการพิจารณาคดีในข้อหาดังกล่าว ก็อาจแทรกแซงกระบวนการให้เหตุผลของคณะลูกขุนได้"

ในศาลเขตนิวเซาท์เวลส์ (District Court of New South Wales) ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลอาจรวมถึงการติดต่อคณะลูกขุนและการแทรกแซงพยานหรือเจ้าหน้าที่ศาล
ผู้ที่กระทำความผิดอาจถูกส่งต่อไปยังกรมอัยการหรือส่งเรื่องไปยังข้าราชการฝ่ายกฎหมายของศาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ศาลที่อาจทำหน้าที่เป็นอัยการในการดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาล


"พวกเขาจะต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีอาญาในข้อหากระทำความผิดทางอาญา และอาจมีบทลงโทษทางอาญาสั่งลงโทษสำหรับการเผยแพร่สิ่งนั้น" ศ.ดร. บอสแลนด์อธิบาย



ส่วนบทลงโทษต่อตัวผู้สื่อข่าวนั้นอาจรวมถึงค่าปรับหรือจำคุก

การหมิ่นประมาท

การหมิ่นประมาทคือการกระทำ "การเผยแพร่สิ่งที่อาจด้อยค่าผู้อื่น" ตามคำกล่าวของ ศ.ดร. บอสแลนด์

"เมื่อมีคนถูกตั้งข้อหา คุณจะสามารถเผยแพร่ได้ว่าพวกเขาถูกกล่าวหาว่ากระทำการฉ้อโกง หรือตำรวจกล่าวหาว่าพวกเขาได้กระทำการฉ้อโกงและกำลังจะเผชิญกับการดำเนินการส่งฟ้อง" เขาอธิบาย

"ตัวอย่างเช่น การพูดว่ามีคนกระทำการฉ้อโกงและเผยแพร่ในลักษณะนั้นจะเป็นไปตามสิ่งที่เรียกว่าสาเหตุของการฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท"

เขากล่าวว่าการใช้คำว่า 'ถูกกล่าวหา' ในกรณีนี้จะทำให้นักข่าวได้รับการป้องกันความจริง (defence of truth) การป้องกันความจริงเป็นหนึ่งในการป้องกันมากมายต่อการเรียกร้องค่าเสียหายจากการหมิ่นประมาท

เขากล่าวว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการดำเนินการ "เพื่อประโยชน์ของสื่อ"

"เหตุผลที่คุณจะใช้ 'ถูกกล่าวหาว่ากระทำการฉ้อโกง' แทนที่จะพูดว่ามีคนทำสิ่งเหล่านี้และดังนั้นจึงมีความผิดฐานฉ้อโกงคือเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีการป้องกันตัวเองว่าคุณกล่าวตามจริง" เขาอธิบายเพิ่มอีกว่า ยังเป็นการปกป้องนักข่าวที่เผยแพร่รายงานเชิงสืบสวน ก่อนการตั้งข้อหาหรือการตัดสิน

BRUCE LEHRMANN DEFAMATION COURT
Media personnel are seen as Lisa Wilkinson speaks to the media outside the Federal Court of Australia in Sydney after winning the defamation lawsuit brought against Network 10. Credit: Bianca De Marchi/AAP Image
เขากล่าวว่ามันต้องถูกกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวหาเและไม่ใช่ด้วยใจความว่าว่าตัวผู้สื่อข่าวเองเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

เพราะหากไม่มีการแยกความแตกต่างให้ชัดเจนในการรายงานข่าว อาจทำให้นักข่าวต้องรับผิดด้วยข้อหาการหมิ่นประมาทได้ โดยพิจารณาจากการไม่ปฏิบัติตาม "การรายงานข่าวอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible journalism)"
ในขณะที่บางคนอาจกล่าวหาว่านักข่าวไม่ได้ให้การรายงานที่เป็นธรรมและเป็นกลางในการดำเนินคดีในศาล แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบทางกฎหมายและจริยธรรม ในฐานะสมาชิกของสื่อที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามเพื่อจำกัดความเสี่ยงของผลกระทบทางกฎหมาย

การใช้คำว่า 'ถูกกล่าวหา' ในการรายงานไม่ได้หมายความว่านักข่าวเข้าข้างจำเลยหรือโจทก์ แต่เป็นการเคารพกระบวนการทางอาญาและปกป้องตัวเองและสำนักข่าวของพวกเขา อีกทั้งยังเป็นการปกป้องแหล่งข่าวและทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องราวอีกด้วย
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวที่พบว่ากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลอาจถูกลงโทษทางอาญา ผู้ที่พบว่าหมิ่นประมาทจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับองค์กรสื่อที่เผยแพร่เนื้อหา โดยทั้งสองฝ่ายอาจต้องรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหายให้กับบุคคลและสถาบันที่พวกเขาหมิ่นประมาท

ความสำคัญของการรายงานข่าวศาลอย่างประชาธิปไตย

ในขณะที่มีสิ่งที่ต้องระวังในการรายงานข่าวศาล ศ.ดร. บอสแลนด์ยังคงยืนยันว่าทั้งสื่อและศาลได้สร้างระบบที่เคารพซึ่งกันและกัน

"คุณสามารถเผยแพร่สิ่งที่คุณต้องการเมื่อพูดถึงการรายงานคดีในศาล สิ่งใดก็ตามที่เปิดเผยในศาล ตราบใดที่คุณทำรายงานที่เป็นธรรม ถูกต้องและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น....คุณก็สามารถทำการเผยแพร่ตามความเป็นจริงได้อย่างมีอิสระ" เขากล่าว

Share
Published 6 February 2025 5:08pm
Updated 7 February 2025 9:48am
By Rachael Knowles
Presented by Wanvida Jiralertpaiboon
Source: SBS


Share this with family and friends