Feature

เพราะภัยพิบัติและอากาศที่แปรปรวน ชาวออสเตรเลียเหล่านี้เริ่มคิดแผนสำรองสำหรับวันสิ้นโลกกันแล้ว

อุณหภูมิสูงทำลายสถิติ ความขัดแย้งระดับโลก โรคระบาด และความไม่มั่นคงทางการเงิน ชาวออสเตรเลียเหล่านี้เลือกที่จะเตรียมตัวรับมือกับสิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น

three people in a farm

เนริดา (Nerida) วิกกี (Vicki) และเจค (Jake) กับการตัดสินใจเป็น 'เพรปเปอร์ (preppers)' Source: Supplied

วิกกี้ อดีตครูใหญ่โรงเรียน ไม่เคยจินตนาการเลยว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณไปกับการเรียนรู้ทักษะการเอาชีวิตรอด

ตอนนี้ในวัย 60 ปี เธอได้เข้าร่วมกับกลุ่มคนออสเตรเลียที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเป็นหายนะ เช่น การขาดแคลนอาหาร การโจมตีทางไซเบอร์ หรือสงครามโลกครั้งใหม่

คนกลุ่มนี้ที่เรียกว่า "เพรปเปอร์" (Preppers) จะสะสมทรัพยากรและเรียนรู้ทักษะเพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน

สำหรับวิกกี้ จุดเปลี่ยนเริ่มต้นขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 "โลกที่เราอยู่ตอนนี้จะไม่ใช่โลกที่ดำเนินต่อไป มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้" เธอกล่าวกับ Insight
a man out in the bush
Jake Cassar teaches survival skills. Source: Supplied

'เพรปเปอร์ (preppers)' คืออะไร?

แม้ภาพลักษณ์ของพรีปเปอร์จะมักถูกมองว่าเป็นพวกที่เก็บอาหารกระป๋องในบังเกอร์ แต่วิกกี้มองว่าความพยายามของเธอคือการปรับตัว

เธอซื้อรถบ้านและเข้ารับการฝึกฝนการเอาชีวิตรอดจนได้พบกับเจค คาสซาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเอาชีวิตรอดในป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์
เจค ซึ่งสอนทักษะการเอาชีวิตรอดมากว่า 20 ปี เน้นย้ำถึงความสำคัญของความรู้มากกว่าอุปกรณ์ "บางคนมีอุปกรณ์ครบ แต่กลับไม่มีความรู้" เขากล่าว ตั้งแต่ช่วงโควิด เขาเห็นคนธรรมดาเข้าร่วมเรียนรู้มากขึ้น

"การเอาชีวิตรอดคือเรื่องของชุมชน" เขากล่าว "มันไม่ใช่การเอาชีวิตรอดของคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันคือการเอาชีวิตรอดร่วมกัน"

ความอยู่รอดขึ้นอยู่กับความร่วมมือ

เจคเน้นย้ำว่าการเป็นพรีปเปอร์ไม่ใช่เพียงการเตรียมพร้อมในด้านทรัพยากร แต่ยังรวมถึงการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง

“มันคือการอยู่รอดของผู้ที่ร่วมมือกัน ไม่ใช่แค่คนที่แข็งแกร่งที่สุด” เขากล่าว

เจคยังบอกด้วยว่า การเตรียมพร้อมแบบนี้ช่วยให้เขามีสุขภาพจิตและกายที่ดีขึ้น “มันทำให้เราออกไปสนุก ออกกำลังกาย และเชื่อมโยงกับธรรมชาติอีกครั้ง”

เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก

เดวิด คริสเตียน นักประวัติศาสตร์ กล่าวว่า มนุษย์มักถูกดึงดูดโดยสถานการณ์ที่เกี่ยวกับจุดจบของโลกเพราะมันน่าตื่นเต้น

แต่เขายังเตือนถึงผลกระทบที่เป็นลบ

“โลกของสื่อมักสร้างมุมมองเชิงลบอย่างไม่จำเป็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ซึ่งอันตรายที่สุดคือมันทำลายความหวัง” เขากล่าว

“และความหวังเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการทำงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า”

แม้ว่าหลายคนอาจถลำลึกไปในทฤษฎีสมคบคิดหรือรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเราถูกดึงดูดโดยข่าวร้ายเพราะกลไกการเอาตัวรอดของเราเอง

a woman wearing glasses
Dr Evita March is an expert in Cyberpsychology

โลกดิจิตอลส่งผลกระทบต่อเราอย่างไร?

อีวิตา มาร์ช (Evita March) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาไซเบอร์ เธอศึกษาว่าสื่อดิจิทัลส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเราอย่างไร

เธอกล่าวว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเสพข่าวร้าย เนื่องจากเป็นกลไกการเอาชีวิตรอดที่วิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ อีวิตาอธิบายว่าเราถูกตั้งโปรแกรมให้ไวต่อ "ข่าวร้าย" และอคติต่อความเป็นลบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอยู่รอด

“เรามักจะมองหาและระวังภัยคุกคามในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งช่วยให้เรารอดชีวิตได้” อีวิตากล่าว

เธอระบุว่ามีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างสื่อที่เราบริโภคกับมุมมองต่อโลกของเรา
“ยิ่งคุณเสพข้อมูลหรือข่าวที่พูดถึงสงคราม อาชญากรรม การขาดแคลนอาหาร หรือโรคระบาดมากเท่าไร คุณก็อาจเริ่มรู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับอนาคตได้มากขึ้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้” เธอกล่าว

แต่อีวิตาเน้นว่าเราควรมองภาพรวมให้ชัดเจนกว่านี้

“ถ้าไม่นับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดขึ้นในโลกตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

“เราเคยผ่านสงคราม โรคระบาด และผู้นำการเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาแล้วในอดีต”
a woman holding a baby goat
Nerida and her partner Abraham are homesteaders, they say the key is to be self-suffient enough to withstand whatever disaster may come their way.

โฮมสเตดเดอร์ vs เพรปเปอร์

เนริดา เฟิร์ธ วัย 41 ปี และคู่ชีวิตของเธอ อับราฮัม วัย 35 ปี เรียกตัวเองว่า "โฮมสเตดเดอร์"

พวกเขากล่าวว่าความแตกต่างระหว่างโฮมสเตดเดอร์กับพรีปเปอร์ (preppers) คือโฮมสเตดเดอร์มุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองอย่างสมบูรณ์ มากกว่าการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์วันสิ้นโลก

พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ดินขนาดใหญ่และปลูกอาหารเองถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของที่พวกเขาบริโภค

อับราฮัมทำงานเป็นวิศวกร และเนริดาเป็นเภสัชกร

ที่บ้าน ทั้งคู่ใช้ทักษะด้านพืชสวน การชำแหละเนื้อสัตว์ และงานช่าง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในชีวิตจริง
เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาเผชิญกับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับนานเกือบหนึ่งสัปดาห์ แต่เนริดาและอับราฮัมยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายที่บ้าน ในขณะที่คนอื่นขาดแคลนอาหาร น้ำ และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ

สำหรับพวกเขา วันสิ้นโลกไม่ได้อยู่ในความคิด แต่พวกเขาต้องการเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน

“เรากังวลแค่เรื่องการเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติมากกว่าเรื่องที่โลกจะแตก” เนริดากล่าว

การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมาถึง

ในขณะที่วิกกี้ยังไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด เธอเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ไกลเกินเอื้อม

เธอกล่าวว่าวิกฤตค่าครองชีพในปัจจุบัน อาจทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมมากขึ้น

“เรามีหลายสิ่งที่อยู่ในจุดวิกฤต ฉันรู้ว่าบางคนมองว่าการเตรียมพร้อมเหมือนการเตรียมรับมือกับวันสิ้นโลก ซึ่งมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้” วิกกี้กล่าว

แต่เธอบอกว่านั่นอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป

“ท้ายที่สุด ฉันคิดว่ามันจำเป็นต้องมีบางสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เรายึดถืออยู่ เพราะมันกำลังทำลายทั้งโลกและผู้คน

“แต่ฉันจึงบอกเสมอว่า อย่ากลัว เราเพียงแค่เตรียมพร้อมรับมือ” วิกกี้กล่าว

หากคนสนใจเนื้อหาในเรื่องนี้ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ , พ็อดแคสต์ซีรีส์ใหม่จาก SBS โดยคูมิ ทากุชิ (Kumi Taguchi) ได้ทั้งทางช่องทาง และช่องทางที่คุณใช้ฟังพ็อดแคสต์เป็นประจำ
READ MORE

Insightful

Stream free On Demand

Thumbnail of End Of Days?

End Of Days?

episode Insight • 
Current Affairs • 
52m
episode Insight • 
Current Affairs • 
52m

Share
Published 23 January 2025 5:26pm
By Connor Webster
Presented by Wanvida Jiralertpaiboon
Source: SBS


Share this with family and friends


Recommended for you