มีการเชื่อมโยงว่า การใช้แอปพลิเคชันเพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะช่วยให้เศรษฐกิจออสเตรเลียฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ท่ามกลางคำเตือนว่าการว่างงานในออสเตรเลียจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา
สถาบันแกรทแทน ที่ศึกษาและวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ ได้เผยแพร่รายงานล่าสุด ที่คาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 16 แม้ว่ารัฐบาลจะให้เงินชดเชยค่าจ้างเป็นวงเงินรวม 130,000 ล้านดอลลาร์ก็ตาม
รัฐบาลมอร์ริสัน ได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานที่จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ เพื่อชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ ซึ่งผู้นำของรัฐและสหพันธรัฐมีกำหนดจะต้องแถลงเรื่องนี้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้
หนึ่งในเป้าหมายที่จะต้องเกิดขึ้นคือ มีประชากรอย่างน้อยร้อยละ 40 ใช้แอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามตัวและแจ้งเตือนบุคคลที่อาจได้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
นายสจ๊วต โรเบิร์ต รัฐมนตรีด้านบริการรัฐบาล กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะช่วยให้รัฐบาลสามารถอนุญาตให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ เริ่มกลับมาเกิดขึ้นได้อีกครั้ง
“มันจะช่วยเราให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น” นายโรเบิร์ต บอกกับ สถานีโทรทัศน์เอบีซี ในวันจันทร์ (20 เม.ย.)
“มันจะช่วยให้เราสามารถกลับไปมีการแข่งขันฟุตตี้ได้เร็วขึ้น มันจะช่วยให้เราสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น”
ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ต ได้ตำหนินายบาร์นาบี จอยซ์ ที่แสดงความวิตกเรื่องความเป็นส่วนตัวสำหรับแอปพลิเคชันใหม่เพื่อติดตามหาตัวผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นี้
นายจอยซ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายลิว โอ ไบรอัน เพื่อนร่วมพรรคเนชันแนลของนายจอยซ์ ปฏิเสธที่จะร่วมใช้แอปพลิเคชันนี้ โดยบอกว่าเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา
แต่นายโรเบิร์ต รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องแอปพลิเคชันนี้ แย้งว่า นายจอยซ์และนายโอ ไบรอัน ไม่เข้าใจการทำงานของแอปพลิเคชันนี้
“ผมคิดว่าชาวออสเตรเลียทั้งหมด เช่นเดียวกับผม ที่ไม่ได้วิตกเท่าใดนักว่านายบาร์นาบีจะอยู่ที่ไหนมาบ้าง” นายโรเบิร์ต บอกกับ รายการนิวส์ เบรคฟาสต์ ของเอบีซี ในวันจันทร์วันนี้ (20 เม.ย.)
“นายบาร์นาบีเป็นห่วงว่าจะมีคนเฝ้าติดตามหรือคอยสอดส่องความเคลื่อนไหวของเขา ซึ่งไม่สามารถทำได้เลยในกรณีนี้”
ขณะที่ นายจอยซ์ เกรงว่า รัฐบาลจีนจะว่าจ้างคนให้โจมตีทางไซเบอร์ต่อออสเตรเลีย เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล
“เรื่องหลักที่ผมเป็นห่วง มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพูด แต่มันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจมีคนแอบเจาะระบบต่างหาก” เขาบอกกับ รายการ ซันไรส์ ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ของออสเตรเลีย
การประเมินด้านความเป็นส่วนตัว
นายโรเบิร์ตให้สัญญาว่า จะดำเนินการประเมินด้านความเป็นส่วนตัว และเผยแพร่หลักเกณฑ์ด้านความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันนี้ เพื่อขจัดความหวาดกลัวต่างๆ
“นี่เกี่ยวกับการดูว่าคุณได้พบปะกับใครบ้าง ไม่ได้ดูว่าคุณไปที่ไหนมา” นายโรเบิร์ต กล่าว
ต้องมีประชากรอย่างน้อยร้อยละ 40 ที่ใช้แอปพลิเคชันนี้ จึงจะมีประสิทธิภาพในการช่วยชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้
รัฐบาลได้กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา หากมีประชาชนจำนวนมากพอใช้แอปพลิเคชันนี้
“เราคิดว่าชาวออสเตรเลียจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพวกเขาจะร่วมใจกันเพื่อก้าวข้ามความท้าทายนี้ได้” นายโรเบิร์ต กล่าว
ด้านนายโจล ฟิตซ์กิบบอน โฆษกฝ่ายค้าน ตกลงที่จะใช้แอปพลิเคชันนี้ หากมีการตรวจสอบเรื่องความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันนี้ โดยคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองและความมั่นคงของรัฐสภา
“เราอาศัยอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุดโต่ง และผมจะทำทุกอย่างที่สมเหตุสมผลและเป็นไปได้ เพื่อช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นภาวะนี้ไปได้ และช่วยให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้อีกครั้ง” นายฟิตซ์กิบบอน กล่าว
นายโรเบิร์ต กล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แอปพลิเคชันนี้จะใช้งานได้ เช่นเดียวกับแอปให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ที่ให้ข้อมูลสำคัญแก่ชาวออสเตรเลีย”
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร และห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 2 คน นอกจากว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับคุณหรืออยู่ในครัวเรือนเดียวกัน
หากคุณเชื่อว่าคุณอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา ให้โทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ (อย่าเดินทางไปที่คลินิก) หรือให้ติดต่อโทรศัพท์สายด่วนด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ที่หมายเลข 1800 020 080
หากคุณเริ่มมีปัญหาหายใจติดขัด หรือกำลังประสบสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพ ให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000 เพื่อเรียกรถพยาบาล
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
โควิด-19 ทำชาวเอเชียในออสเตรเลียถูกเลือกปฏิบัติเพิ่มขึ้น