Feature

อากาศร้อน ค่าไฟแพง? นี่คือสถานที่คลายร้อนที่คุณไปพักผ่อนได้ฟรี

ในปีนี้ที่คลื่นความร้อนส่งผลกระทบกับชีวิตผู้คนยาวนานเป็นพิเศษ หากคุณไม่มีเครื่องปรับอากาศที่บ้าน หรือกังวลเกี่ยวกับค่าไฟจากการเปิดแอร์นาน ๆ แล้วคุณจะไปที่ไหนเพื่อคลายร้อนเมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนเกินทน? ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งพื้นที่คลายร้อนในเมืองเหล่านี้เพื่อช่วยให้ผู้คนรับมือกับความร้อนได้ดีขึ้น

Children doing activities at a table in Rockingham Central Library

ผู้ใช้บริการที่ห้องสมุดกลางย่านร็อกกิงแฮมในเพิร์ธสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้โดยไม่ต้องหาข้ออ้างเพื่อหนีร้อน เพราะพื้นที่เหล่านี้มีไว้เพื่อ 'สร้างความเย็น' แก่ชุมชนเพื่อได้บรรเทาจากอากาศร้อนจัด Source: Supplied / WACOSS

Key Points
  • พยากรณ์อากาศยังคาดว่าอุณหภูมิจะยังคงสูงในบางพื้นที่ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WA) และควีนส์แลนด์
  • มืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ได้จัดตั้งพื้นที่คลายร้อนให้กับชุมชน
  • ในซิดนีย์ พื้นที่คลายร้อนในสวนสาธารณะหลายแห่งช่วยบรรเทาความร้อนให้กับคนไร้บ้าน
สภาพอากาศร้อนจัดกำลังส่งผลกระทบรุนแรงต่อชาวออสเตรเลียจำนวนมาก และพยากรณ์อากาศยังคาดว่าอุณหภูมิจะยังคงสูงในบางพื้นที่ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WA) และควีนส์แลนด์

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย (BoM) กำลังแนะนำให้ผู้คนหาวิธีคลายร้อน

แต่ในช่วงที่ค่าครองชีพสูงลิ่ว ผู้คนจะไปที่ไหนได้โดยไม่ต้องเสียเงินกับการดูหนังมาราธอนทั้งวันที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้าน?

มีสามเมืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ได้จัดตั้งพื้นที่คลายร้อนเพื่อรับมือกับปัญหานี้

ฟรีและเย็นสบาย

เมื่ออุณหภูมิในเมืองบริดจ์ทาวน์ (Bridgetown) แตะ 42.5 องศาเซลเซียสเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งใกล้เคียงกับวันที่ร้อนที่สุดที่เคยบันทึกไว้ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากเพิร์ธไปทางใต้ประมาณ 270 กิโลเมตร ชาวเมืองก็รู้ดีว่าพวกเขามีทางเลือกไม่กี่ทางในการหนีความร้อนระอุนี้ได้

มีการจัดตั้งพื้นที่คลายร้อนในเมืองบริดจ์ทาวน์ เมืองกรีนบุชเชส (Greenbushes) ที่อยู่ใกล้เคียง และเขตมหานครร็อกกิงแฮม (Rockingham) ซึ่งอยู่ชานเมืองเพิร์ธ เพื่อให้ผู้คนได้พักผ่อนคลายร้อนจากคลื่นความร้อนโดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋า
ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ Heat Vulnerability Project ที่สมาชิกในชุมชนเทศบาล Bridgetown-Greenbushes สามารถเข้าใช้พื้นที่คลายร้อนในห้องสมุดท้องถิ่นและศูนย์ชุมชนอีก 3 แห่งในช่วงเวลาที่กำหนด ในขณะที่ชาวเมืองร็อกกิงแฮมได้รับเชิญให้ใช้ห้องสมุดของเมืองใดก็ได้เพื่อพักผ่อนคลายร้อน

ราเชล ซีเวิร์ต จากสภาบริการสังคมแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WACOSS) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการ กล่าวว่า การมีพื้นที่เฉพาะที่ผู้คนรู้สึกสบายใจที่จะใช้เพื่อจุดประสงค์ในการคลายร้อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ

"บางคนอาจกำลังลำบากกับความร้อน และไม่สามารถทำอะไรได้เพราะพวกเขาไม่มีเครื่องปรับอากาศ หรือไม่สามารถจ่ายค่าไฟในการเปิดแอร์ได้" เธอกล่าว

ซีเวิร์ตกล่าวว่า แม้จะมีพื้นที่คลายร้อนแบบไม่เป็นทางการ เช่น ห้องสมุดท้องถิ่นกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่เธอเชื่อว่าการจัดตั้งพื้นที่อย่างเป็นทางการจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในอนาคต
"โดยการทำงานร่วมกับห้องสมุดและศูนย์ชุมชนที่มีอยู่ โครงการนี้ทำให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถใช้พื้นที่ได้ และพื้นที่นั้นจะมีทั้งกิจกรรมและทรัพยากรที่ทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและรู้สึกเย็นสบาย" เธอกล่าว

ด้วยเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ โครงการนี้ดำเนินงานควบคู่กับรัฐบาลท้องถิ่นและองค์กรชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรับมือความร้อนในพื้นที่นำร่องเหล่านี้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน

ในชุมชน Bridgetown-Greenbushes นี่ยังรวมถึงการส่งข้อความเตือนหรือโทรศัพท์พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้คนในพื้นที่เมื่อเกิดความร้อนจัด

จากคำเตือนคลื่นความร้อนจาก BoM สำหรับควีนส์แลนด์ ได้แนะนำให้ประชาชนใช้พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศหากมี เพื่อช่วยคลายร้อน

ทางด้านโฆษกจากกระทรวงสาธารณสุขควีนส์แลนด์บอกกับ SBS News ว่าผู้ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศควรมองหาสถานที่เย็นเพื่อช่วยบรรเทาความร้อนในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้องสมุด หรือสระว่ายน้ำ

"วิธีคลายร้อนอื่น ๆ ได้แก่ การแช่เท้าในน้ำเย็น และสวมผ้าเปียกพันรอบคอ"

"สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก ๆ ระหว่างช่วงคลื่นความร้อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวันระหว่าง 10.00 น. ถึง 15.00 น." โฆษกกล่าวเพิ่มเติม

คลื่นความร้อนทั่วออสเตรเลีย

กระทรวงสาธารณสุขควีนส์แลนด์ได้เตือนประชาชนในพื้นที่ที่เผชิญกับคลื่นความร้อนให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ อยู่ในที่ร่มในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก

ความเครียดจากความร้อนอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง รวมถึง ตะคริวจากความร้อน อ่อนเพลียจากความร้อน และลมแดด

องค์การอนามัยโลกระบุว่า คลื่นความร้อนคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าภัยพิบัติธรรมชาติชนิดอื่น ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความร้อนจัดสามารถ "ทำให้อาการของโรคที่เป็นอยู่แย่ลง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน สุขภาพจิต โรคหอบหืด และยังเพิ่มความเสี่ยงของอุบัติเหตุและการแพร่กระจายของโรคติดต่อบางชนิด"
A small tin shed on stilts amid a red dirt landscape
เบิร์ดสวิลล์ (Birdsville) พื้นที่นอกเมืองในรัฐควีนส์แลนด์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ร้อนที่สุดในออสเตรเลีย Source: AAP / Darren England

ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่สุดจากคลื่นความร้อน?

ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ทารก และเด็กเล็ก เป็นกลุ่มที่เปราะบางต่อความร้อนจัดมากที่สุด แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมก็เพิ่มความเสี่ยงของบางคนต่อภาวะเครียดจากความร้อนเช่นกัน

ปีเตอร์ แคร้งค์ (Peter Crank) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลูในแคนาดา และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศในเมือง ให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ SBS Examines ว่าผู้ที่มีปัญหาทางการเงินมักได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนมากกว่า
Senior man trying to cool down
กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่เปราะบางมากที่สุดกับอากาศร้อนจัด Credit: simarik/Getty Images
"ยิ่งใครร่ำรวยหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีต้นไม้เยอะมากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งสามารถเปิดแอร์ได้ง่ายขึ้น และสามารถเดินทางออกนอกเมืองเพื่อหาสถานที่เย็นกว่าได้ เพราะพวกเขามีทรัพยากรมากกว่า" เขากล่าว

ในซิดนีย์ มีการจัดตั้งจุดพักคลายร้อนแบบชั่วคราวในสวนสาธารณะบางแห่งในวันที่อากาศร้อน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ไม่มีสถานที่เย็นพักผ่อน จุดพักคลายร้อนเหล่านี้ถูกจัดในพื้นที่ที่มีอาศัยอยู่
กลยุทธ์คลายร้อนที่ใช้ในจุดเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงพัดลม น้ำเย็น และขวดสเปรย์สำหรับพ่นละอองน้ำ ได้รับการทดสอบในห้องปฏิบัติการโดยศูนย์วิจัยความร้อนและสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์

"เรามักจะเริ่มใช้งานจุดพักเหล่านี้เมื่อระดับความเครียดจากความร้อนในดัชนี HeatWatch อยู่ในระดับรุนแรงหรือมากกว่านั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า" ทิโมธี อิงลิช หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว

ผู้ดำเนินโครงการกล่าวว่า จุดพักคลายร้อนไม่ใช่แค่การตอบสนองต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางที่แสดงถึงความช่วยเหลือต่อสมาชิกของสังคมที่เปราะบางที่สุดอีกด้วย

Share
Published 17 April 2025 11:45am
By Aleisha Orr
Presented by Wanvida Jiralertpaiboon
Source: SBS


Share this with family and friends