ใบเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าแต่ละรายนั้นแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ท่านสามารถมองหาข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ได้จากใบเรียกเก็บเงินทุกใบ
สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งท่านจำเป็นต้องมองหาคือ ท่านจะต้องชำระเงินเป็นจำนวนเท่าไร และเมื่อไรที่เป็นกำหนดวันชำระเงิน
ใบเรียกเก็บเงินยังแสดงให้เห็นถึงวันแรกและวันสุดท้าย ของช่วงเวลาเรียกเก็บเงิน ว่าท่านใช้กระแสไฟฟ้าไปเท่าไร อัตราเรียกเก็บสำหรับท่านนั้นอยู่ที่เท่าไร ท่านมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ และจะติดต่อกับผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่านได้อย่างไร
ใบเรียกเก็บเงินของท่านยังสามารถใช้เพื่อดูข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่ท่านจะต้องอ่านใบเรียกเก็บเงินโดยถี่ถ้วน
ท่านควรจะได้รับใบเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าทุกเดือนหรือทุกสามเดือน ท่านมีเวลา 13 วันนับจากวันออกใบเรียกเก็บเงินที่จะชำระเงิน ผู้ค้าปลีกบางรายมอบส่วนลดให้กับท่านหากท่านชำระเงินตรงเวลา เพราะฉะนั้นท่านจะต้องแน่ใจว่าท่านไม่ชำระล่าช้ากว่าวันที่กำหนด หากท่านต้องการจะรับส่วนลดดังกล่าว
Source: AAP Image/Brendan Esposito
จะชำระใบเรียกเก็บเงินได้อย่างไร?
มีหลายวิธีแตกต่างกันในการชำระใบเรียกเก็บเงิน
- ท่านสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์
- ท่านสามารถเข้าไปชำระด้วยตัวเองที่สำนักงานไปรษณีย์ของ Australia Post โดยท่านยังสามารถใช้ระบบบัตรจ่ายเงิน ซึ่งท่านได้รับมาจากผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่าน เพื่อทำการชำระเงินอย่างสม่ำเสมอในจำนวนไม่มากนักได้ที่สำนักงานไปรษณีย์
- หากท่านรับเงินผลประโยชน์ต่างๆ จากเซ็นเตอร์ลิงค์ ท่านสามารถจัดตั้งระบบ เซ็นเตอร์เพย์ (Centrepay) เพื่อให้มีการตัดเงินโดยอัตโนมัติออกจากเงินที่ท่านได้รับจากเซ็นเตอร์ลิงค์ได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่สามารถชำระใบเรียกเก็บเงินได้ตามกำหนดเวลา?
ไม่ต้องวิตกกังวล หากท่านไม่สามารถชำระใบเรียกเก็บเงินได้ตามกำหนดเวลา ท่านจะมีทางเลือกหลายทาง แต่ท่านจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่านโดยทันที
“ผู้ค้าปลีก(กระแสไฟฟ้า)รายต่างๆ นั้น ถูกกำหนดให้ช่วยเหลือลูกค้าซึ่งประสบปัญหาในการชำระใบเรียกเก็บเงินต่างๆ ของพวกเขา โปรดโทรไปหาผู้ค้าปลีกของท่านเพื่อสอบถามว่า ท่านอาจได้รับความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง” คุณ พอลลา คอนบอย ประธานของหน่วยงานผู้ตรวจการด้านพลังงานแห่งออสเตรเลีย (The Australian Energy Regulator) อธิบาย “อาจรวมไปถึงการยืดเวลาชำระเงินออกไป อาจให้ท่านสามารถผ่อนจ่ายด้วยแผนผ่อนจ่ายที่ท่านสามารถรับภาระได้ หรืออาจมีการพิจารณาเพื่อลดภาระจากใบเรียกเก็บเงินให้ท่าน และยังมีโครงการสำหรับผู้ที่ประสบความเดือดร้อน เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าท่านมีความยากลำบากในการชำระใบเรียกเก็บเงินของท่าน อย่าปล่อยให้มันลุกลามจนคุมไม่อยู่ ท่านต้องแน่ใจว่าได้โทรศัพท์ไปหาผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
Source: Getty Images/MultifacetedGirl
ใบเรียกเก็บเงินมีความผิดพลาด ควรทำอย่างไรดี?
หากใบเรียกเก็บเงินของท่านนั้นสูงกว่าปกติและท่านคิดว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น สิ่งแรกที่ท่านควรทำคือถามตัวเองว่ามีเหตุผลใดที่ทำให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ท่านซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ที่กินไฟมากกว่าเดิมหรือเปล่า? ท่านกำลังใช้เครื่องทำความร้อนอยู่หรือเปล่าเพราะขณะนี้อากาศกำลังเย็นลง? ท่านมีสมาชิกในครอบครัวมาอาศัยอยู่ด้วยบางสัปดาห์หรือเปล่า?
หากท่านไม่สามารถหาเหตุผลที่ทำให้ราคาแตกต่างออกไปได้ โปรดติดต่อกับผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่านแล้วขอให้เขาอธิบาย หากพนักงานท่านแรกที่ท่านติดต่อไม่สามารถช่วยเหลือท่านได้ ให้ขอพูดกับผู้จัดการ โปรดจำชื่อของผู้ที่ท่านพูดคุยด้วยไว้ทั้งหมด และจำด้วยว่าเขาบอกให้ท่านนั้นทำอย่างไร
หากปัญหายังไม่หมดไป ท่านสามารถติดต่อกับผู้ตรวจการด้านพลังงานประจำรัฐของท่าน โดยที่บริการต่างๆ ของผู้ตรวจการฯ นั้นฟรีและเป็นอิสระ “เราปฏิบัติงานโดยเป็นตัวแทนของผู้บริโภค และเราไม่ปฏิบัติงานโดยเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม(พลังงาน) เราพยายามอย่างมากที่จะทำงานร่วมกับทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล” คุณซินเธีย เจอเบิร์ต จากหน่วยงานผู้ตรวจการด้านพลังงานและน้ำแห่งรัฐวิกตอเรีย อธิบาย
ท่านสามารถติดต่อล่ามแปลภาษาได้ฟรี เมื่อใดก็ตามที่ท่านโทรศัพท์ไปหาผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้าของท่าน และเมื่อท่านโทรไปหาผู้ตรวจการด้านพลังงานประจำรัฐของท่าน โดยโทรไปที่ ก่อน ที่หมายเลข 13 14 50
ต่อไปนี้เป็นเว็บไซต์ของผู้ตรวจการด้านพลังงานประจำรัฐต่างๆ: , , , , , , และ
Anonymous hands using digital tablet to surf the net for better deals Source: Getty Images
การเฝ้าระวังการใช้กระแสไฟฟ้า
หากท่านไม่ต้องการจะได้รับใบเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าที่แพงลิบลิ่ว มันจะช่วยได้หากท่านคอยเฝ้าดูการใช้กระแสไฟฟ้าของท่าน ผู้ค้าปลีกกระแสไฟฟ้ารายหลายมีแอพส์โทรศัพท์และเครื่องมือออนไลน์ซึ่งท่านสามารถใช้เพื่อเฝ้าดูการใช้กระแสไฟฟ้ารายวันของท่านได้
หากท่านไม่มีเครื่องมือช่วยเหลือทั้งหลายดังกล่าว ท่านก็สามารถที่จะเฝ้าระวังการใช้ไฟฟ้าได้ด้วยตัวท่านเอง “ท่านสามารถทำการติดตั้งอุปกรณ์ไว้ที่บ้านของท่านเพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจการใช้กระแสไฟฟ้าของท่านได้ อีกสิ่งที่ท่านสามารถทำได้ก็คือ ดูที่มิเตอร์ของท่าน ว่าในวันหนึ่งนั้น ขึ้นตัวเลขเท่าไร แล้วก็ดูซ้ำในวันรุ่งขึ้น แล้วจดบันทึกไว้ว่าท่านใช้ไฟฟ้าไปเท่าไร แล้วใช้ตัวเลขดังกล่าวนั้นเพื่อบ่งชี้คร่าวๆ ว่าท่านจะใช้ไฟฟ้าเท่าไร” คุณซินเธีย เจอเบิร์ต กล่าว
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าของท่าน เกี่ยวกับผู้ค้าปลีกกระไฟฟ้า และการประหยัดพลังงานได้ โดยไปที่ เว็บไซต์ ของผู้ตรวจการด้านพลังงานแห่งออสเตรเลีย
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องจากเอสบีเอสไทย
บริษัทจากไทยสร้างชื่อในวงการพลังงานหมุนเวียน
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอสไทย
Settlement Guide: เลือกใช้บัญชีธนาคารที่ประหยัดค่าใช้จ่าย