บุคลากรครูโรงเรียนรัฐบาล ตลอดจนพนักงานขับรถไฟและรถประจำทางหลายพันคนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ร่วมหยุดงานประท้วงเรียกร้องแก้ปัญหาค่าจ้างและสภาพการทำงาน
วันนี้ (7 ธ.ค.) โรงเรียนรัฐบาลราว 400 แห่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง บางโรงเรียนยังคงเปิดทำการโดยมีเจ้าหน้าที่จำนวนจำกัดคอยดูแลนักเรียนระหว่างที่ครูอาจารย์ร่วมหยุดงานประท้วง
สหภาพครูกล่าวหารัฐบาลว่าล้มเหลวในการแก้ปัญหาปริมาณงานล้นมือ ค่าจ้างไม่เหมาะสมเพียงพอ ทั้งยังขาดแคลนบุคลากร รวมถึงเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้างสูงสุดร้อยละ 7.5 ต่อปี เพื่อพลิกกลับแนวโน้มค่าจ้างครูที่ลดลงเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น
บุคลากรครูจากนครซิดนีย์ เมืองนิวคาสเซิล (Newcastle) เมืองวูลลองกอง (Wollongong) และพื้นที่บลูเมาเทนส์ (Blue Mountains) รวมตัวเดินขบวนในนครซิดนีย์ จากสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก (Hyde Park) ผ่านถนนแมกควารี (Macquarie Street) ไปยังรัฐสภานิวเซาท์เวลส์
นับเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษของบุคลากรสายอาชีพครูในรัฐนี้
นายแองเจโล กาวรีลาทอส (Angelo Gavrielatos) ประธานสมาพันธ์ครูแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Teachers Federation) กล่าวว่า รัฐบาลไม่ยอมรับความจริงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาด้านการจัดหาบุคลากรในโรงเรียนรัฐบาล
ทั้งยังขาดยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานว่าง 3,000 ตำแหน่ง รวมทั้งจัดหาบุคลากรครูรองรับความต้องการของรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้าราว 11,000 ตำแหน่ง
“เราขาดบุคลากรครูที่เราจำเป็นต้องมี ถ้าเราไม่จ่ายค่าจ้างให้สมค่าของพวกเขา เราก็จะหาครูมาทำงานไม่ได้” นายกาวรีลาทอสกล่าวกับสำนักข่าวเอบีซีเมื่อวันอังคาร (7 ธ.ค.)
นางซาราห์ มิตเชลล์ รัฐมนตรีด้านการศึกษาของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า มีการยื่นข้อเสนอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 2.5 แก่บุคลากรครู ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่รัฐบาลสามารถให้ได้ภายใต้นโยบายค่าจ้างภาครัฐ และรัฐบาลประสงค์ทำงานร่วมกับสหภาพเพื่อรับมือปัญหาขาดแคลนครู
ขณะเดียวกัน พนักงานขนส่งสาธารณะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อบริการรถไฟและรถประจำทางทั่วนครซิดนีย์ รวมถึงเส้นทางเดินรถไฟมุ่งหน้าปลายทางฮันเตอร์แวลีย์ (Hunter Valley) พื้นที่บลูเมาเทนส์ (Blue Mountains) และเซ็นทรัลโคสต์ (Central Coast) โดยร้อยละ 70 ของขบวนรถไฟงดออกวิ่ง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) เเมื่อพนักงานขับรถประจำทางในพื้นที่ชั้นในด้านตะวันตกหยุดงานประท้วง พร้อมกับที่สหภาพออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ให้บริษัททรานสิต ซิสเต็มส์ (Transit Systems) ผู้ประกอบการขนส่งมวลชนซึ่งเป็นคู่สัมปทานของรัฐ เจรจาปรับระบบค่าจ้างที่ทำให้ผู้ปฏิบัติงานบางคนได้ค่าจ้างน้อยกว่าคนอื่นที่ทำงานประเภทเดียวกัน
พนักงานขับรถประจำทางในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์เข้าร่วมประท้วงในวันอังคาร ก่อนที่พนักงานจากทั้งสองท้องที่เตรียมนัดหยุดทำงานเป็นเวลาสองชั่วโมงช่วงบ่ายวันศุกร์นี้ (10 ธ.ค.)
ผู้โดยสารรถประจำทางที่มองหาวิธีเดินทางอื่นอาจมีทางเลือกไม่มากนัก เนื่องจากพนักงานขับรถไฟออกมาปฏิเสธไม่วิ่งรถไฟขบวนที่ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งใช้งานอยู่ราว 3 ใน 4 ของบริการเที่ยวรถไฟทั้งหมด
สหภาพรถไฟ รถราง และรถประจำทาง (Rail, Tram and Bus Union: RTBU) ดำเนินการเจรจาข้อตกลงเจรจาวิสาหกิจ (enterprise bargaining agreement) ฉบับใหม่ตั้งแต่ฉบับเก่าสิ้นสุดลงเมื่อเดือนพฤษภาคม
นายแมตต์ ลองแลนด์ (Matt Longland) ประธานผู้บริหารการรถไฟนครซิดนีย์ (Sydney Trains) กล่าวว่า การหยุดงานประท้วงนี้เป็นเรื่องน่าผิดหวัง หลังจากการรถไฟนครซิดนีย์ เทรนลิงก์ นิวเซาท์เวลส์ (NSW TrainLink) และสหภาพพนักงานร่วมประชุมกันมากว่า 40 ครั้ง แม้ฝ่ายสหภาพจะแย้งว่าคณะผู้บริหารที่ทางสหภาพต้องการเจรจาด้วยนั้นเพิ่งเริ่มมาเข้าร่วมโต๊ะประชุม
ข้อเรียกร้องของสหภาพรวมถึงขอให้ยุติการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คงระดับมาตรฐานความปลอดภัย และให้คำมั่นรักษามาตรฐานสุขอนามัยที่ใช้อยู่ขณะนี้โดยไม่ขึ้นอยู่กับผู้รับเหมา
นายลองแลนด์กล่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 2.5 แก่พนักงาน รวมเงินสมทบเข้ากองทุนเงินเกษียณ (เงินซูเปอร์)
หน่วยงานขนส่งมวลชนรัฐนิวเซาท์เวลส์ (Transport for NSW) ระบุว่า การหยุดงานประท้วงครั้งนี้ส่งผลให้ต้องลดความถี่บริการเที่ยวโดยสารในเส้นทางการเดินรถส่วนใหญ่ รวมถึงหยุดจอดรถที่สถานีเพิ่มเติม และใช้เวลาเดินทางสู่ปลายทางนานขึ้น
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
อะไรคือการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน และคุณควรทำอย่างไรเมื่อตกเป็นเหยื่อ