ประเด็นสำคัญ
- มีความกังวลว่าการไม่ลบข้อมูลให้ดีก่อนทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจเสี่ยงถูกขโมยข้อมูล
- พบข้อมูลส่วนบุคคลบนมือถือมือสองที่ซื้อจากร้านค้าปลีกในรัฐ ACT
- ผู้เชี่ยวชาญแนะผู้บริโภคควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ากำจัดอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของออสเตรเลียกำลังถูกคุกคามจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยประมาท ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
โทรศัพท์มือถือเก่าและอุปกรณ์อื่นๆ จากที่ทำงานในออสเตรเลียถูกกำจัดทิ้งทุกๆ ปี เป็นจำนวนหลายพันตัน บางส่วนถูกส่งไปต่างประเทศ บางส่วนถูกส่งไปรีไซเคิลหรือขายต่อ บริษัทที่ปรึกษาพีดับบลิวซี (PwC) ระบุ
อย่างไรก็ตาม ขยะอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกกำจัดอย่างเหมาะสม ข้อมูลมากมายยังทิ้งไว้กับเครื่อง ทำให้อาชญากรสามารถหารายได้ด้วยการนำไปขายบนเว็บมืด
เหตุใดอุปกรณ์ราคาถูกเหล่านี้ถึงมีค่า เมื่ออยู่ในมือคนผิด
บริษัท PwC ได้ซื้อแท็บเล็ต (Tablet) และโทรศัพท์มือถือในราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์จากร้านค้าขายปลีกมือสองยอดนิยมในรัฐเอซีที (ACT) เพื่อจุดประสงค์ในการรายงาน
แท็บเล็ตยังคงมีสติ๊กเกอร์ของบริษัทหนึ่งติดอยู่และยังมีบันทึกการเข้าฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนได้กว่า 20 ล้านรายการ
และยังสามารถกู้คือข้อมูลส่วนบุคคลได้กว่า 60 รายการจากโทรศัพท์มือถือ ด้วยการใช้วิธีวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ข้อมูลดังกล่าวได้แก่เอกสารส่วนตัวและรูปถ่าย ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองนี้อาจมีมูลค่ามหาศาลในตลาดมืด บริษัท PwC กล่าว
ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง

คุณรีไซเคิลถูกต้องหรือไม่?
SBS Thai
18/07/202206:51
บริษัท PwC ผลักดันพระราชบัญญัติความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (Security of Critical Infrastructure Act) หรือการแก้ไขคำแนะนำในการกำหนดให้องค์กรต้องกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย
ซึ่งจะทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเสียค่าปรับอย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์สำหรับการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรงหรือทำซ้ำ ภายใต้บทลงโทษใหม่ที่นำมาใช้เมื่อปีที่แล้ว
“ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์เหล่านี้และส่วนประกอบของมันอาจมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขององค์กรและทรัพย์สินทางปัญญา เช่นเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล” คุณร็อบ ดิ ปิเอโตร (Rob Di Pietro) ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความน่าเชื่อถือทางดิจิทัลของ PwC กล่าว
หากข้อมูลไปตกอยู่ในเงื้อมมือของคนร้าย ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะ
สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของออสเตรเลีย เช่น หน่วยงานดูแลสุขภาพ ขนส่ง พลังงานและการป้องกันต้องกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย นายดิ ปิเอโตรกล่าว
คุณฌอน ดูกา (Sean Duca) หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยระดับภูมิภาคของบริษัทพาโล อัลโต เน็ตเวิร์ก (Palo Alto Networks) มีความกังวลเช่นกัน โดยกล่าวว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นภัยอันตรายที่คุกคามองค์กรต่างๆ
“อาจมีบางสิ่ง เศษเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้ร้ายอาจสาวไปสู่สิ่งอื่นได้ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ร้ายสามารถเข้าถึงองค์กรได้ง่ายขึ้น” คุณดูกากล่าวกับสำนักข่าวเอเอพี (AAP)
“แน่นอนว่าพวกเขาอาจต้องพยายามทำบางอย่าง อาจต้องคุ้ยขยะในถังขยะเลยก็ได้ แต่ท้ายที่สุด พวกเขามีเวลาและความพยายามที่จะทำและหาบางสิ่งในนั้น”

มือถือวางบนแล็ปท็อป Credit: Pexels/Joseph Redfield
รายงานระบุว่า การโจมตีระบบโรงเรียน เช่น ไวซ์ โซไซตี (Vice Society) แสดงให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์เต็มใจที่จะยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้เงิน
การโจมกรรมข้อมูลเป็นวิธีการขู่กรรโชกที่นิยมใช้โดยกลุ่มเรียกค่าไถ่ออนไลน์ และการจ่ายค่าไถ่มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ (521,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) ในปี 2022 ต่ำกว่าค่าไถ่ที่เรียกซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ
แล้วผู้บริโภคควรทำอย่างไร?
คุณวิลเลียม โหย่ว (William Yeoh) รองศาสตราจารย์ภาควิชาระบบข้อมูลและการวิเคราะห์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยดีคิน (Deakin University) กล่าวว่า เช่นเดียวกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้บริโภคควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กำจัดอุปกรณ์ของตนอย่างถูกต้อง
ศจ.โหย่วกล่าวว่าหากไม่ทำเช่นนั้น จะมีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกกู้ได้ หากยังเก็บไว้ในอุปกรณ์ ซึ่งยังคงเป็นไปได้ แม้ว่าจะรีเซ็ตอุปกรณ์แล้วก็ตาม
“ผู้คนสามารถซื้อซอฟต์แวร์ (software) กู้คืนฮาร์ด ไดร์ฟ (hard drive) ได้ และมันมีราคาถูกมาก” ศจ.โหย่วกล่าว
“ดังนั้นการลบซอฟแวร์หรือลบไฟล์จากถังขยะรีไซเคิล (recycle bin) ในแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ของคุณยังไม่เพียงพอ”
วิธีเดียวที่จะทำให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกล้างออกจากอุปกรณ์แล้วคือการทำลายฮาร์ด ไดร์ฟ
ทุบฮาร์ดไดร์ฟด้วยค้อนหรือขันตะปูเข้าไปศจ.โหย่วอธิบาย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

"ออปตัส" ถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ คาดข้อมูลลูกค้านับล้านรั่ว
เมื่อคุณจะกำจัดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ศจ.โหย่วแนะนำให้ถอดฮาร์ดไดร์ฟออก ทำลายมัน และนำไปใส่ไว้ในถังขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เหมาะสมพร้อมกับส่วนประกอบอื่นๆ
รองศจ.โหย่วกล่าวว่า หลีกเลี่ยงการทิ้งอุปกรณ์ทั้งหมดกับบริการรับรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เว้นแต่จะระบุว่าข้อมูลจะถูกทำลายอย่างปลอดภัย
ศจ.โหย่วยังเสริมว่า หลายๆ ธุรกิจมีถังขยะเฉพาะเพื่อทิ้งเอกสารเพื่อนำไปทำลายอย่างปลอดภัย และควรมีระบบที่คล้ายกันนี้สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกจะเกิน 70 ล้านตันภายในปี 2030
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมข้อมูล

การโจรกรรมข้อมูลในภาคอสังหาริมทรัพย์อาจเลวร้ายกว่าที่เกิดกับออปตัส ผู้เชี่ยวชาญเผย