ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงทะลุสถิติของประเทศ

ในปี 2020 เมืองเพนริธ (Penrith) ขึ้นอันดับเป็นเมืองที่ร้อนที่สุดบนโลกด้วยอุณหภูมิแตะ 48.9 องศา เป็นจุดชนวนของการตั้งคำถามว่าอะไรทำให้เป็นเช่นนั้น จนไปถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มอุณหภูมิหรือไม่?

Climate Change, Global Warming, Global Boiling from the Climate Crisis and the Catastrophic Heatwave, the Sun, and the Burning Heatwave Hot Sun

The lack of green spaces and increasing infrastructure is contributing to the 'heat island' effect that's cooking Western Sydney in summer. Source: Moment RF / chuchart duangdaw/Getty Images

วันอังคารที่ผ่านมา แถบตะวันตกของซิดนีย์บันทึกอุณหภูมิที่ 41 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นวันที่ร้อนที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023

“มันน่าตลกมาก” ชาวเมืองเพนริธกล่าว

“มันร้อนขึ้นทุกปี รู้สึกเหมือนอยู่บนดวงอาทิตย์”
ความร้อนนี้ได้จุดชนวนการพูดคุยเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางภูมิอากาศของเมือง

“เนื่องจาก [ซิดนีย์] ตั้งอยู่ใกล้กับมหาสมุทรและแหล่งน้ำ มีพื้นที่ทางทิศตะวันออกของเมืองที่ได้รับประโยชน์จากลมทะเลจริงๆ” ดร.เนกิ้น นาซาเรียน (Negin Nazarian) นักอุตุนิยมวิทยา กล่าวกับ SBS Examines

“อุณหภูมิในพื้นที่เหล่านั้นมักจะต่ำกว่าฝั่งตะวันตกของซิดนีย์เสมอ”
เธอเชื่อว่าการพัฒนาเมืองอย่างมากและการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็วเมื่อผู้คนย้ายไปทางตะวันตกเพื่อหาที่อยู่อาศัยที่มีราคาถูก กำลังเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้เกิดความร้อน

นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ศาสตราจารย์ไนเจล แทปเปอร์ กล่าวกับ SBS Examines ว่าพื้นที่ที่ร้อนที่สุดในเมืองมักจะมีประชากรที่ “เปราะบางที่สุด”

เขากล่าวว่าพื้นที่เหล่านี้ “ขาด” พืชพรรณและพื้นที่สีเขียว ซึ่งหมายความว่า ความร้อนจะถูกกักเก็บอยู่ที่ระดับพื้นดินทั้งกลางวันและกลางคืน
LISTEN TO
COST OF LIVING MON image

Is the cost of living affecting social cohesion?

SBS English

26/08/202404:58
การขาดลมทะเลที่ชาวชานเมืองชายฝั่งของซิดนีย์ได้รับยิ่งทำให้ปัญหานี้เลวร้ายขึ้นไปอีก โดยทำให้ภูมิภาคนี้ไม่สามารถเย็นลงได้

ดร.ไล เฮง ฟุง (Lai Heng Foong) แพทย์ฉุกเฉินอาวุโสที่โรงพยาบาลแบงค์สทาวน์ เชื่อว่า การออกแบบเมืองของแถบตะวันตกของซิดนีย์ไม่เหมาะสมกับภูมิภาคที่มีอุณหภูมิสูงเช่นนี้

“แถบซิดนีย์ตะวันตกได้รับผลกระทบจากความร้อนอย่างไม่สมส่วนเมื่อเทียบกับชานเมืองชายฝั่งอื่นๆ” เธอกล่าว

“บ้านเหล่านั้นอยู่ใกล้กันมากโดยไม่มีพื้นที่สีเขียวเลย และแน่นอนว่าไม่ได้มีการพิจารณาถึงการลดความร้อนในการสร้างบ้านเหล่านั้นที่มีกระเบื้องหลังคาสีดำ”

อะไรคือ ‘เกาะแห่งความร้อน’?

การออกแบบเมืองเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ผลกระทบเกาะความร้อน’

ตามที่ปีเตอร์ ครานค์ จากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู กล่าวว่า เกาะความร้อนเกิดขึ้นจากการขาดแคลนพื้นผิวธรรมชาติ

“สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหานี้พื้นฐานคือการที่เรากำลังแทนที่พื้นผิวธรรมชาติกับวัสดุต่างๆ เช่น แอสฟัลต์และคอนกรีต, กระจกและโลหะ ซึ่งจะกักเก็บความร้อนและปล่อยความร้อนในอัตราที่แตกต่างจากพื้นผิวธรรมชาติ” เขากล่าว
ผลที่ตามมาคือ ชาวตะวันตกของซิดนีย์ต้องทนกับอุณหภูมิที่ร้อนระอุซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมื่ออุณหภูมิยังคงเพิ่มสูงขึ้น ดร.ฟุงกังวลเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาความร้อนในแถบตะวันตกของซิดนีย์
เราไม่สามารถออกมาใช้ชิวิตที่เราเคยทำ เราต้องมาวิธีรับมือใหม่
“สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดคือการมุ่งเน้นไปที่ชุมชน เพราะชุมชนคือกลุ่มที่ต้องทนทุกข์” เธอกล่าว

“ด้วยการศึกษาและการเรียนรู้ในชุมชนมากขึ้น ผู้คนจะเข้าใจว่านี่คือปัญหาที่อาจฆ่าคุณหรือทำให้คุณป่วยได้”
LISTEN TO
Is immigration worsening the housing crisis? image

Is immigration worsening the housing crisis?

SBS English

15/07/202405:09

Share
Published 16 January 2025 4:42pm
By James Elliott
Presented by Wanvida Jiralertpaiboon
Source: SBS


Share this with family and friends


Recommended for you