ทำไมเหตุแทงที่โบสถ์ถูกระบุเป็นการ ‘ก่อการร้าย’ แต่เหตุการณ์บอนได จังก์ชันถึงไม่ใช่

ในช่วงเวลาสามวันมีเหตุการโจมตีด้วยมีดถึงสองครั้งในซิดนีย์ แต่มีเพียงที่เดียวเท่านั้นที่ได้รับการระบุว่าเป็น การก่อการร้าย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น นี่คือเหตุผล

A composite image of a church with Aramaic text on it next to a shopping centre with bouquets of flowers laid in front

(ซ้าย) โบสถ์คริสต์เดอะกู๊ดเชพเพิร์ด ทางตะวันตกของซิดนีย์ ซึ่งบาทหลวงรายหนึ่งถูกแทงเมื่อวันจันทร์ (ขวา) ผู้คนที่อนุสรณ์สถานด้านนอกห้างเวสต์ฟิลด์ บอนได จังก์ชัน ซึ่งมีชายคนหนึ่งใช้มีดกราดแทงกันเมื่อวันเสาร์ Source: AAP

การโจมตีด้วยมีดที่โบสถ์แห่งหนึ่งทางตะวันตกของซิดนีย์ถูกระบุว่าเป็น “การก่อการร้าย” ในขณะที่เหตุกราดแทงคนจำนวนมากที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเมื่อสุดสัปดาห์กลับไม่ใช่

วัยรุ่นชายอายุ 16 ปีถูกควบคุมตัวหลังเหตุโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ที่โบสถ์ Christ the Good Shepherd ในเมืองเวคลีย์ ซึ่งบาทหลวงมาร์ มารี เอ็มมานูเอล ถูกแทงระหว่างการถ่ายทอดสดการเทศน์

ตำรวจนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวกำลังถูกสอบสวนว่าเป็น “เหตุการณ์ก่อการร้าย”

แล้วมันแตกต่างอย่างไรจากเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ชายวัย 40 ปีแทงคนหลายคนที่ห้างสรรพสินค้าเวสต์ฟิลด์ บอนได จังก์ชัน ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 รายและบาดเจ็บอีกหลายคนก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ

การก่อการร้าย มีนิยามไว้อย่างไร?

เอมิลี คอร์เนอร์ รองศาสตราจารย์จากศูนย์วิจัยนโยบายสังคม มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า มีคำจำกัดความทางกฎหมายของการก่อการร้ายที่ใช้ในการตั้งข้อหาและดำเนินคดีกับประชาชนภายใต้กฎหมายก่อการร้าย

การก่อการร้ายในกฎหมายของเครือจักรภพ หมายถึง การกระทำหรือการข่มขู่ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อ "ส่งเสริมเหตุทางการเมือง อุดมการณ์ หรือศาสนา" และ "บีบบังคับหรือข่มขู่รัฐบาลออสเตรเลีย รัฐบาลต่างประเทศ หรือสาธารณะ"

พฤติกรรมที่จะจัดอยู่ในคำจำกัดความนี้ ก็เมื่อหาก "ก่อให้เกิดอันตรายทางกายภาพอย่างร้ายแรงต่อบุคคลหรือความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพย์สิน ทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือเป็นอันตรายต่อชีวิตของบุคคล สร้างความเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพและความปลอดภัยของสาธารณะ ขัดขวาง หรือทำลายอย่างร้ายแรงต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม หรือระบบการเงิน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามในวันอังคารที่ผ่านมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งสองนี้ ไมค์ เบอร์เจส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์กรข่าวกรองความมั่นคงแห่งออสเตรเลีย (ASIO) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "คำตอบง่ายๆ ก็คือให้เรียกมันว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย คุณต้องมีเบาะแส ข้อมูล หรือหลักฐานที่บ่งบอกถึงแรงจูงใจจริงๆ มีแรงจูงใจทางศาสนาหรืออุดมการณ์

 “ในกรณีนี้ ข้อมูลที่เรามีและที่ตำรวจมีสามารถบ่งชี้ว่าเป็นกรณีนั้นอย่างยิ่ง นั่นคือสาเหตุว่าทำไมจึงถูกเรียกว่าเป็นการก่อการร้าย”
ขณะที่ตำรวจกำลังสืบสวนการแทงมวลชนที่บอนได จังก์ชัน กำลังตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุ โจเอล คออูชี ได้รับแรงจูงใจจากความเกลียดชังผู้หญิงหรือไม่ โดยกล่าวว่า “ชัดเจน” ว่าเขามุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงในการโจมตี

ขณะเดียวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คาเรน เวบบ์ ผู้บัญชาการตำรวจนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่าวัยรุ่นรายนี้ถูกจับกุมหลังเหตุแทงที่โบสถ์ Christ the Good Shepherd ได้แสดงความคิดเห็นว่าการโจมตีดังกล่าวมีแรงจูงใจทางศาสนา

 เธอกล่าวว่า: "เราจะกล่าวหาว่า [เขา] เข้าโบสถ์ โดยใช้มีดเป็นอาวุธ และแทงบาทหลวงและนักบวช และคนอื่นๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
“เราเชื่อว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าเข้าข่ายในแง่ของลัทธิหัวรุนแรงที่มีแรงจูงใจทางศาสนา และแน่นอนว่าเป็นการข่มขู่สาธารณชนผ่านการกระทำของบุคคลนั้น

“โดยการเข้าไปในโบสถ์ ในขณะที่มีการถ่ายทอดสด เป็นการข่มขู่ไม่เพียงแต่นักบวชที่เข้าร่วม แต่ผู้ที่ดูออนไลน์ด้วย และต่อผู้คนที่โบสถ์”

 เบอร์เกสกล่าวว่าระดับภัยคุกคามก่อการร้ายในออสเตรเลียจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ปัจจุบันถูกตั้งไว้ในระดับ "เป็นไปได้"
A man with a cleanly shaved head wearing a blue suit and white shirt
ไมค์ เบอร์เจส ผู้อำนวยการใหญ่ของ ASIO กล่าวว่าระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในออสเตรเลียจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงภายหลังจาก "การกระทำของการก่อการร้าย" ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในซิดนีย์ Source: AAP / Mick Tsikas

'การกระทำของผู้ก่อการร้าย' และ 'การก่อการร้าย' มีความแตกต่างหรือไม่

ตอบสั้นๆ คือ ใช่

การก่อการร้ายเป็นคำกลางที่หมายถึงข้อหาก่อการร้าย ในขณะที่ "การกระทำของผู้ก่อการร้าย" เป็นความผิดเฉพาะ

“คุณสามารถถูกนิยามได้ว่าเป็นผู้กระทำความผิดโดยปราศจากการใช้ความรุนแรงเลย” คอร์เนอร์กล่าว

“คุณอาจถูกจับในข้อหาเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย คุณอาจถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานให้ทุนแก่ผู้กระทำผิดผู้ก่อการร้ายรายอื่นๆ คุณสามารถถูกตัดสินลงโทษภายใต้ประมวลกฎหมายการก่อการร้าย แม้กระทั่งการค้นหาเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายทางออนไลน์”
A police officer taking photos.
เจ้าหน้าที่นิติเวชของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่โบสถ์ Christ The Good Shepherd ในเมือง Wakeley นครซิดนีย์ เมื่อวันอังคาร Source: AAP / Bianca De Marchi
คอร์เนอร์กล่าวว่าประชาชนทั่วไปและนักวิจัยอาจตีความการก่อการร้ายแตกต่างจากที่กฎหมายตีความ

“โดยปกติ เวลาเราคิดถึงการก่อการร้าย มันคือการก่อให้เกิดความกลัวในประชาชนว่าเป็นหนทางหนึ่งของการสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหนึ่ง” เธอกล่าว

กฎหมายการก่อการร้ายในออสเตรเลียได้ขยายตัวและทวีคูณอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่เหตุโจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ในสหรัฐอเมริกา

ในเขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ต่างจากเขตอำนาจการปกครองอื่นๆ ของออสเตรเลีย โดยมีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายโดยเฉพาะมากกว่าคำจำกัดความทั่วไปของ "การกระทำของผู้ก่อการร้าย"

อำนาจตำรวจและเหตุการณ์ก่อการร้าย

การประกาศเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น "เหตุการณ์ก่อการร้าย" ทำให้ตำรวจสามารถใช้อำนาจพิเศษได้ภายใต้กฎหมายก่อการร้ายของรัฐนิวเซาท์เวลส์

กฎหมายให้อำนาจพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นภายใน 14 วันข้างหน้า หรือในการสอบสวนการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

ตำรวจอาจเรียกให้หยุดและตรวจค้นผู้คนยานพาหนะ เรียกร้องให้เปิดเผยตัวตนของบุคคล เข้าไปตรวจค้นสถานที่และยานพาหนะ หรือตั้งด่านตรวจ เช่น สิ่งกีดขวางบนถนนรอบๆ พื้นที่เป้าหมาย โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ


Share
Published 17 April 2024 12:44pm
By Madeleine Wedesweiler
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS


Share this with family and friends