สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในออสเตรเลียกลับมาเลวร้ายอีกครั้ง หลังวันนี้ (12 ส.ค.) มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวน 21 รายในรัฐวิกตอเรีย และผู้ที่มีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกอีก 410 ราย
หน่วยงานด้านสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของรัฐวิกตอเรีย ได้เผยพร่ยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ทางทวิตเตอร์ของหน่วยงาน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในรัฐวิกตอเรียเพิ่มขึ้นเป็น 267 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมทุกประเทศในวันนี้อยู่ที่ 352 ราย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยรายละเอียดผู้เสียชีวิตในรัฐวิกตอเรียจากไวรัสโคโรนาที่เจ้าหน้าที่พบในวันนี้
- หญิง 2 ราย และชาย 1 ราย ในวัยราว 70 ปี
- หญิง 6 ราย และ ชาย 5 ราย ในวัยราว 80 ปี
- หญิง 1 ราย และชาย 5 ราย ในวัยราว 90 ปี
- และหญิงในวัยราว 100 ปี 1 ราย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบว่า ผู้เสียชีวิต 16 รายจากทั้งหมด มีความเชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุ
เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพรัฐวิกตอเรียได้เตือนว่า การเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ได้เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอยู่ภายในโรงพยาบาลในขณะนี้
ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพรัฐวิกตอเรีย ได้แถลงในการไต่สวนของรัฐสภารัฐวิกตอเรียว่า การเสียชีวิต 20 รายนั้น “เป็นจำนวนที่ค่อนข้างไม่รุนแรง” เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ ของโลก
จนถึงขณะนี้ มีชาวรัฐวิกตอเรียเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 662 ราย โดยมี 43 รายอยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต และมี 25 รายที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ทั่วรัฐวิกตอเรีย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังคงแสดงอาการสะสม 7,877 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ทราบที่มา 2,961 ราย และผู้ติดเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ 1,929 ราย แบ่งเป็นสถานดูแลเอกชน 1,923 ราย และในสถานดูแลของรัฐวิกตอเรีย 6 ราย
นายแอนดรูส์กล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการในสถานดูผู้พิการ ซึ่งแบ่งเป็นการติดเชื้อ 56 ราย ในสถานดูแลที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย และอีก 1 รายในสถานดูแลผู้พิการมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าภายในสถานดูแล 20 ราย และเจ้าหน้าที่ในสถานดูแล 61 รายได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา
มุขมนตรีรัฐวิกตเรียระบุว่า ได้มีข้อตกลงการรับมือสถานการณ์การติดเชื้อภายในสถานดูแลผู้พิการ ในลักษณะเดียวกับที่มีในสถานดูแลผู้สูงอายุ
“การติดเชื้อใด ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้มีความเสี่ยงนั้นน่ากังวล แต่ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่พึงระลึกว่า มันคือข้อตกลงที่มีความสำคัญ และสิ่งนั้นจะช่วยเรา และจะช่วยอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน” นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
นอกจากนี้ พบการติดเชื้อเกิดขึ้นในหมู่คนทำงานด้านสุขภาพในรัฐวิกตอเรีย 1,079 ราย โดยการสอบสวนหาเส้นทางการติดเชื้อของผู้ทำงานแนวหน้าด้านสุขภาพกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยรัฐบาลรัฐวิกตอเรียจะให้รายละเอียดการแพร่ระบาดในส่วนนี้ “อย่างครบถ้วน” ภายในสัปดาห์หน้า
นายแอนดรูส์ ได้กล่าวเสริมว่า จากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ พบว่าคนทำงานด้านสุขภาพส่วนมากได้รับเชื้อไวรัสโคโรนามาจากนอกสถานที่ทำงานจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (12 ส.ค.) เกิดขึ้นท่ามกลางการถกเถียงระหว่างรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย และรัฐบาลสหพันธรัฐ ในโครงการโรงแรมกักกันโรคของรัฐวิกตอเรียที่มีความล้มเหลว โดยมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า กองทัพออสเตรเลีย ไม่ได้อยู่บนข้อเสนอในการเป็นผู้ดูแลความปลอดภัย เมื่อโครงการโรงแรมกักกันโรคดังกล่าวได้เริ่มต้น
A healthcare worker conducts coronavirus screening inside a Melbourne hospital. Source: AAP
ขณะที่ นางลินดา เรโนวส์ (Linda Reynolds) รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า กองทัพออสเตรเลียได้มีการเสนอความช่วยเหลือให้รัฐวิกตอเรียในหลายโอกาส
ด้าน นายมาร์ติน พากูลา (Martin Pakula) รัฐมนตรีแรงงาน ซึ่งมีส่วนในการประสานงานในโครงการโรงแรมกักกันโรคดังกล่าว กำลังจะได้รับการไต่สวนภายในวันนี้ (12 ส.ค.)
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.
ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น
ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น
รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้ ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
'พิษโควิด-ไฟป่า' ถล่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวออสฯ คนตกงานอื้อ