ไฟเซอร์ใกล้เข้ามาอีกขั้นที่จะเปิดตัววัคซีนใหม่ 2 ชนิดซึ่งมุ่งเป้าไปที่เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพออสเตรเลีย (ทีจีเอ) ได้ประกาศในวันนี้ (6 ก.ค.) ในการอนุมัติการพิจารณาชั่วคราว (provisional determination) ให้กับ ไฟเซอร์ ออสเตรเลีย สำหรับวัคซีนโคเมอร์เนตี โอมิครอน (Comirnaty Omicron) และโคเมอร์เนตี ไบวาเลนท์ (Comirnaty Bivalent)
ซึ่งหมายความว่า ไฟเซอร์จะสามารถยื่นขอทีจีเอเพื่อจดทะเบียนวัคซีนทั้ง 2 ชนิดเป็นการชั่วคราว (provisional approval) และขอการอนุมัติเพื่อนำวัคซีนดังกล่าวออกสู่ตลาดได้
“ในขั้นตอนการตัดสินใจ ทีจีเอได้พิจารณาหลักฐานของแผนจากไฟเซอร์ในการนำส่งข้อมูลทางคลินิกแบบครอบคลุม และความรุนแรงของการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19” หน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ วันนี้ (6 ก.พ.)
“ทีจีเอจะดำเนินการประเมินความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และคุณภาพของวัคซีนเหล่านี้อย่างเข้มงวดด้วยลำดับความสำคัญสูงสุด”
ขณะที่ออสเตรเลียยังคงเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น นายแอนโทนี อัลบานิซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกันจะพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่ก่อนที่จะมีการให้คำแนะนำสำหรับวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 4
“การแพร่ระบาดใหญ่ยังไม่จบลง ดังนั้น มุมมองของผมนั้นก็คือ (ออสเตรเลีย) จะต้องทำตามสิ่งที่เกิดขึ้นในส่วนอื่น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน และจะเปิดตัววัคซีนเข็มบูสเตอร์ในอนาคต” นายอัลบานิซี กล่าวในวันนี้ (6 ก.ค.)
“ผมขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ไปรับการฉีดหากมีสิทธิ์ และทำเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน”
คาดว่ากลุ่มที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งออสเตรเลีย (ATAGI) จะหารือในเรื่องประโยชน์ของการขยายสิทธิ์ในการรับวัคซีนเข็มที่ 4 ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้ (6 ก.ค.)
ทั้งนี้ วัคซีนโควิดเข็มที่ 4 มีให้สำหรับชาวออสเตรเลียที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และประชาชนในกลุ่มเปราะบาง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ยุติโครงการเงินช่วยลางานจากโควิด รมต.สธ.เตือนระวังโอมิครอนรอบใหม่
ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรียได้ขยายประกาศการแพร่ระบาดใหญ่ออกไปอีก 3 เดือน โดยประกาศดังกล่าวมีกำหนดสิ้นสุดลงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 12 ก.ค. แต่ได้รับการขยายออกไปจนถึงวันที่ 12 ต.ค.นี้เป็นอย่างน้อย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ระบุในแถลงการณ์ว่า โควิด-19 ยังคงเป็น “ความเสี่ยงที่รุนแรง” ต่อสาธารณสุขทั่วรัฐ พร้อมระบุอีกว่า มาตรการสาธารณสุขต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาวที่มีเหตุผลสมควรนั้นมีไว้เพื่อจะลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
นายแบรด แฮซเซิร์ด (Brad Hazzard) รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังได้เตือนอีกว่า ผู้ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดสนั้น “เสียสติ” ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังเตรียมรับกับการระบาดระลอก 3 ที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือน ก.ค. – ต้นเดือน ส.ค.นี้
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้น เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุย่อยโอมิครอนชนิด บี.เอ.4 และ บี.เอ.5 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเชื่อว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในรัฐและมณฑลต่าง ๆ กำลังพิจารณาอยู่อีกว่า จะกลับมาใช้มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้ออีกครั้งหรือไม่
พญ.เคอร์รี ชานท์ (Dr Kerry Chant) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ขอให้ประชาชนพิจารณาสวมใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่มิดชิดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียเพิ่มสูงกว่า 4,000 ราย นายแอนดรูส์ ได้ย้ำเตือนอยู่สม่ำเสมอว่าวัคซีนโควิด-19 ได้ผล แต่ก็ไม่ได้บอกกับประชาชนในรัฐวิกตอเรียให้สวมใส่หน้ากากอนามัยนอกเหนือจากพื้นที่ซึ่งมีมาตรการบังคับอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ สถานที่ด้านการแพทย์ สถานดูแลผู้สูงอายุ และระบบขนส่งสาธารณะ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 ก.ค.) มีผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ทั่วประเทศ 3,740 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในช่วงจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
มีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 36,000 รายทั่วประเทศ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกขณะที่ฤดูหนาวกำลังดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงสถานะการฉีดวัคซีนก่อนเข้าประเทศอีกต่อไป
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
สิทธิ์ของผู้เช่า หากเจ้าของบ้านจะขึ้นค่าเช่า