วิกตอเรีย
ชาวรัฐวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ ได้รับเสรีภาพมากขึ้น จากการประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดเพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในเช้าวันจันทร์วันนี้ (7 ธ.ค.) ก่อนช่วงเทศกาล
ในรัฐวิกตอเรีย ไม่มีข้อกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยภายในที่ทำงาน หรือที่ร้านกาแฟอีกต่อไป
แต่ประชาชนจะต้องพกหน้ากากอนามัยติดตัวไปด้วยตลอดเวลา และต้องสวมเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ เมื่อใช้บริการไรด์ แชริง (Ride-sharing บริการร่วมเดินทาง เช่น อูเบอร์) เมื่ออยู่ภายในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ภายในตัวอาคาร และในสถานที่ที่มีผู้คนคับคั่งนายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรี (Premier) ของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ประชาชนควรใช้วิจารณญาณของตนเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างทางกายภาพได้
People wearing face masks are seen waiting to board a flight to Sydney at Melbourne. Source: AAP
“หน้ากากอนามัยได้เป็นนโยบายรับประกันที่ยอดเยี่ยมมาตลอด และยังคงจะเป็นเช่นนั้นต่อไป” นายแอนดรูส์ กล่าว
ขณะนี้ ครัวเรือนต่างๆ ในเมลเบิร์นจะสามารถมีผู้มาเยือนได้ 30 คนต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 15 คนต่อวัน และขณะนี้จะไม่มีการจำกัดจำนวนครัวเรือนที่รวมตัวกันได้
การรวมกลุ่มกันภายนอกอาคารในสถานที่สาธารณะ จะสามารถทำได้ไม่เกิน 100 คนมีการยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานแต่งงาน งานศพ และกิจกรรมทางศาสนา แต่เปลี่ยนมาใช้ข้อจำกัดความหนาแน่น 1 คนต่อ 2 ตารางเมตร
People seen walking around and lining up for rides without wearing masks at Luna Park in Melbourne. Source: Sipa USA Alexander Bogatyrev / SOPA Image
มีการยกเลิกการจำกัดจำนวนลูกค้าสำหรับผับ ร้านกาแฟ และร้านอาหารเช่นกัน แต่ธุรกิจเหล่านั้นจะต้องทำตามกฎลูกค้า 1 คนต่อพื้นที่ 2 ตารางเมตร ลูกค้าจะไม่จำเป็นต้องนั่งที่โต๊ะเท่านั้นอีกต่อไป
นิวเซาท์เวลส์
ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ นายโดมินิก เปอร์รอตเทต รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่า ประชาชนกำลังมีความสุขกับ “วันแห่งเสรีภาพ”
กฎ 1 คนต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตรจะเปลี่ยนเป็น 1 คนต่อ 2 ตารางเมตร ยกเว้นฟิตเนสและไนต์คลับ
นอกจากนี้ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีการยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการสำหรับสถานที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม (hospitality venue) และไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานแต่งงานและงานศพ การยืนรับบริการภายในตัวอาคารในสถานที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ได้รับอนุญาตให้ทำได้ไนต์คลับกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยต้องมีผู้คนไม่เกิน 50 คนบนเวทีเต้นรำในแต่ละครั้ง
NSW Premier Gladys Berejiklian addresses media during a COVID-19 update in Sydney. Source: AAP
งานกิจกรรมที่มีการควบคุมดูแลผู้เข้าร่วมได้รับอนุญาตให้มีผู้ร่วมกิจกรรมได้ไม่เกิน 5,000 คน ขณะที่สนามกีฬาและโรงมหรสพกลางแจ้งจะสามารถกลับมารองรับผู้คนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ยังได้อนุญาตให้การรวมกลุ่มกันกลางแจ้ง รวมทั้งภายในสวนหลังบ้าน สามารถมีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 100 คน ทันเวลาสำหรับการฉลองเทศกาลคริสต์มาสพอดี
สถานการณ์โควิดล่าสุด
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เริ่มมีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่วันหลังลูกจ้างผู้หนึ่งของโรงแรมในซิดนีย์ที่กักตัวผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ พบว่าติดเชื้อโควิด ขณะที่ตอนนั้น นิวเซาท์เวลส์ไม่พบการติดเชื้อภายในชุมชนมา 26 วันติดกันแล้ว
แม้ทางการนิวเซาท์เวลส์จะยืนยันว่า หญิงคนดังกล่าวทำงานขณะอยู่ในภาวะที่แพร่เชื้อได้ แต่จากการเร่งตรวจเชื้อให้ผู้คนรอบข้าง ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อเพิ่มเติม ดังนั้น รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์จึงได้เดินหน้าผ่อนคลายข้อจำกัด
ขณะเดียวกัน ในรัฐวิกตอเรีย ผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบินหนึ่งจากซิดนีย์มายังเมลเบิร์น รวม 176 คนกำลังแยกตัวเพื่อกักโรค หลังจากนักเดินทางชาวเยอรมัน 2 คนไม่ได้เข้าสู่การกักตัว 14 วันที่ซิดนีย์ แต่เดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน VA838 ของสายการบินเวอร์จิน มาถึงเมลเบิร์นในวันเสาร์ที่ผ่านมา
บุคคลทั้งสอง ซึ่งได้แก่ หญิงชาวเยอรมันวัย 53 ปีและลูกชายวัย 15 ปี ไม่มีอาการป่วย และมีผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีด้านสุขภาพของรัฐวิกตอเรีย กล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
พนง.โรงแรม NSW ติดโควิดรายแรกในรอบเกือบเดือน