นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวต่อสื่อมวลชน กรณีมีผู้ชุมนุมต่อต้านร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายสาธารณสุขและสวัสดิภาพ ส่วนการบริหารจัดการการแพร่ระบาดใหญ่ หรือ Public Health and Wellbeing Amendment (Pandemic Management) โดยระบุว่าจะไม่มีการยุติการเสนอร่างกฎหมายนี้ แม้ผู้ชุมนุมจะปักหลักอยู่บริเวณขั้นบันไดบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภารัฐวิกตอเรีย มาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้
“ผมจะไม่ถูกขัดขวางจากงานที่ผมกำลังทำเพื่อให้ทุกครอบครัวปลอดภัย ผมไม่ต้องการให้พฤติกรรมที่น่าผิดหวัง น่ารังเกียจ และเป็นไปได้ว่าอาจเป็นอาชญากรรมของกลุ่มคนเพียงเล็กน้อย มาเบี่ยงเบนสิ่งที่ยอดเยี่ยมซึ่งชาวรัฐวิกตอเรียจำนวนมากได้ทำร่วมกัน” นายแอนดรูส์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้
“มันไม่ยุติธรรมเลยที่ม็อบกลุ่มเล็ก ๆ และน่าเกลียดนี้จะดึงความสนใจออกไปจากชาวรัฐวิกตอเรียมากกว่า 90% ที่ไปรับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว และกำลังจะได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ในเร็ว ๆ นี้”
การอภิปรายร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายสาธารณสุขและสวัสดิภาพ ส่วนการบริหารจัดการการแพร่ระบาดใหญ่ในสภาสูงของรัฐวิกตอเรีย เริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ไปจนถึงช่วงค่ำ
โดยร่างกฎหมายดังกล่าวได้จุดชนวนความไม่พอใจในกลุ่มต่อต้านการล็อกดาวน์ และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน โดยผู้ชุมนุมนับร้อยคนได้วางแผนที่จะตั้งแคมป์ปักหลักอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นอาคารรัฐสภารัฐวิกตอเรียตลอดการอภิปราย
มีการโพสต์วิดีโอลงในสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นภาพของผู้ชุมนุมกำลังรวมตัวกันอยู่รอบหลักประหารแขวนคอที่ทำขึ้นจากไม้ พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “อิสรภาพ (Freedom)”, “คนทรยศ (Traitor)”, “ฆ่าแดน แอนดรูส์ (Kill Dan Andrews)” และ “แขวนคอแดน แอนดรูส์ (Hang Dan Andrews)” พร้อมกับพยายามนำหัวของตุ๊กตาเป่าลมซึ่งแทนตัวของมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียคล้องในบ่วงเชือกเพื่อแขวนคอ
พฤหัสนี้อภิปรายต่อ
ล่าสุด การอภิปรายดังกล่าวได้ถูกระงับไปชั่วคราว ขณะที่คณะรัฐมนตรีกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับภาคธุรกิจที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แต่ก็คาดว่าจะดำเนินการอภิปรายต่อไปในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.)
สาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายสาธารณสุขและสวัสดิภาพ ส่วนการบริหารจัดการการแพร่ระบาดใหญ่นั้น คือการมอบอำนาจให้มุขมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย สามารถประกาศภาวะการระบาดใหญ่ รวมถึงประกาศใช้คำสั่งด้านสาธารณสุขได้ โดยคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจากสภา หลังรัฐบาลรัฐได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อรักษาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาอิสระ 3 คนการแก้ไขเพิ่มเติมนี้จะเป็นการชี้แจงอย่างกระจ่างว่า มุขมนตรีจะต้อง “มีพื้นฐานที่มีเหตุผล” ในการประกาศภาวะการแพร่ระบาดใหญ่ และการบังคับใช้คำสั่งตามลักษณะเฉพาะของการแพร่ระบาดใหญ่ “จะต้องมีเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านสาธารณสุข” ส่วนโทษปรับสูงสุดสำหรับผู้ที่ละเมิดคำสั่งด้านสาธารณสุขนั้นได้ถูกลดลงกึ่งหนึ่ง
Protesters outside Victorian State Parliament in Melbourne Source: AAP
ร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้กำหนดให้รัฐมนตรีสาธารณสุขจะต้องทำให้แน่ใจว่า การตัดสินใจใด ๆ ก็ตาม จะต้องเป็นไปตามกฎบัตรด้านสิทธิมนุษยชนและความรับผิดชอบของรัฐวิกตอเรีย
ขณะที่คำแนะนำเบื้องหลังคำสั่งต่าง ๆ ที่มีการบังคับใช้ จะต้องแจ้งต่อสาธารณะภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ จากเดิมซึ่งกำหนดไว้ที่ 14 วัน โดยคณะกรรมการพิจารณากฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา จะได้รับอำนาจในการพิจารณาคำสั่งต่าง ๆ ตั้งแต่มีการจัดทำขึ้น แทนที่จะเป็นการพิจารณาเมื่อเสนอเข้าสู่สภาแล้ว
นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้มีการปรึกษาหารือกับคณะทำงานด้านสาธารณสุข สิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
“กฎหมายใหม่ด้านการแพร่ระบาดใหญ่นี้ จะกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนสำหรับการจัดการการแพร่ระบาดใหญ่อย่างโรคโควิด-19 ขณะที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชาวรัฐวิกตอเรียเป็นอันดับแรก” นายโฟลีย์ กล่าว
โดยรัฐบาลรัฐวิกตอเรียยังคงต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจาก นายแอนดี เมดดิก (Andy Meddick) สส.พรรคยุติธรรมสัตว์ (Animal Justice Party) นางฟิโอนา แพทเทน (Fiona Pattern) สส.พรรครีซอน (Reason Party) และ นางซาแมนทา รัตนัม (Samantha Ratnam) สส.ผู้นำพรรคกรีนส์ (Greens Party) สาขารัฐวิกตอเรีย เพื่อให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาสู่กระบวนการนิติบัญญัติต่อไป
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ตัวเลขตกงานยังสูงในออสเตรเลีย