ในช่วงปลายปี 2023 รัฐบาลอัลบานีซี เปิดเผยนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการปฏิรูประบบการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียและจะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญบางประการที่จะเริ่มต้นบังคับใช้ในปีใหม่นี้
นโยบายดังกล่าวเผยแพร่โดยรัฐมนตรีด้านกิจการภายในของออสเตรเลีย
แคลร์ โอนีล เมื่อต้นเดือนธันวาคม โดยได้มุ่งเน้นไปที่การย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะชั่วคราวและการศึกษาระหว่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
รัฐบาลวางแผนที่จะดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ตลอดปี 2024 รวมถึงข้อกำหนดภาษาอังกฤษที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับวีซ่านักเรียนและวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (graduate visa) ตลอดจนวีซ่าใหม่สำหรับผู้ที่มีทักษะที่เป็นที่ต้องการ
นอกจากนี้ ยังมีประกาศต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่กำหนดให้มีผลบังคับใช้ในปีนี้ เช่น วีซ่าใหม่สำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานในประเทศแถบแปซิฟิก
รัฐบาลได้กำหนดขอบเขตสำหรับการปฏิรูปในอนาคต รวมถึงการโยกย้ายแรงงานทักษะถาวร การย้ายถิ่นในระดับภูมิภาคและโครงการวีซ่าเวิร์ก แอนด์ ฮอลิเดย์ (Working Holiday Maker) ซึ่งรัฐบาลจะมีการหารือกันตลอดปี 2024
และตอนนี้ข้อสรุปที่เรารู้กี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้คือ
รัฐบาลได้เปิดเผยยกลยุทธ์การปฏิรูประบบการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย ซึ่งถูกมองว่า "ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์" จากการทบทวนครั้งใหญ่ Source: Getty / Mark Evans
รัฐบาลคาดหวังอะไรจากนโยบายการย้ายถิ่นฐานใหม่?
จำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานสุทธิ หรือ Net overseas migration (NOM) คือจำนวนผู้คนทั้งหมดที่เข้าและอยู่ในประเทศเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ลบด้วยจำนวนผู้ที่ออกไป NOM รวมถึงการเคลื่อนไหวเข้าและออกจากพลเมืองออสเตรเลีย
อ้างอิงจากการคาดการณ์ในรายงานงบประมาณกลางปีของรัฐบาล พบว่าสถิติของ NOM ในออสเตรเลียพุ่งสูงสุดในปี 2022-2023 ซึ่งอยู่ที่ 510,000 คน
การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มีสาเหตุหลักมาจากการกลับมาของนักเรียนต่างชาติและนักท่องเที่ยวภายหลังการผ่อนคลายข้อจำกัดในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
รัฐบาลเน้นย้ำว่าจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานสุทธิ ไม่เป็นไปเป้าหมายของนโยบายการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งในกลยุทธ์ใหม่มีเป้าหมายที่จะลดตัวเลขจาก 510,000 คน ให้เหลือระดับใกล้ก่อนโควิดที่ 375,000 คนในปีงบประมาณ 2023-24 และจากนั้นเหลือเป็น 250,000 คนในปี 2024-25
เป้าหมายของเราคือการทำให้การอพยพย้ายถิ่นกลับสู่ระดับที่ยั่งยืนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แคลร์ โอนีล
รัฐมนตรีด้านกิจการภายในของออสเตรเลีย แคลร์ โอนีล กล่าวว่ากลยุทธ์การย้ายถิ่นฐานของรัฐบาลคือ "แผนที่กล้าหาญเพื่อให้การย้ายถิ่นฐานกลับมาทำงานอีกครั้งสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคน" Source: AAP / Lukas Coch
เธอกล่าวว่าปัญหาโดยรวมประการหนึ่งคือการลด "การพำนักชั่วคราวแบบถาวร" ซึ่งเป็นก็คือการที่ผู้คนอาศัยอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่าชั่วคราวและเปลี่ยนวีซ่าเพื่ออยู่ต่อในประเทศ
“โดยรวมแล้ว กลยุทธ์นี้พยายามลดจำนวนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวระยะยาว และเพิ่มเส้นทางสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร ซึ่งฉันคิดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการทำงานร่วมกันทางสังคม”
“ฉันหวังว่ากลยุทธ์นี้ท้ายที่สุดแล้วจะช่วยให้ระบบการย้ายถิ่นฐานของแรงงานทักษะดีขึ้น การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่นถาวรมากกว่าการย้ายถิ่นชั่วคราว รวมถึงการปราบปรามการแสวงประโยชน์จากผู้อพยพ ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด”
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานและกลุ่มธุรกิจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีความสำคัญต่อการปรับปรุงสภาพการทำงานและส่งเสริมเศรษฐกิจ
เรื่องที่้กี่ยวข้อง
การเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าออสเตรเลีย ปีงบประมาณ 2023-24
วีซ่าใหม่สำหรับคนงานที่มีทักษะเป็นที่ต้องการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนเข้าเมือง เพอร์กินส์ กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้นคือวีซ่าประเภทที่มีนายจ้างสปอนเซอร์
รัฐบาลกำลังจะเปิดตัววีซ่าแรงงานทักษะชั่วคราวใหม่ที่มีระยะเวลา 4 ปี ซึ่งระบุว่าจะเปิดโอกาสให้คนงานเปลี่ยนนายจ้างได้มากขึ้น และสามารถเป็นเส้นทางสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร
เมื่อนโยบายดังกล่าวนำมาใช้แล้ว วีซ่า "ทักษะที่เป็นที่ต้องการ" จะมาแทนที่วีซ่าทักษะอาชีพที่ขาดแคลนชั่วคราว (Temporary skill shortage – TSS) ซับคลาส 482 ที่มีในปัจจุบัน ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถืออาศัยวีซ่าที่อยู่ในออสเตรเลียทำงานเต็มเวลาให้กับนายจ้างที่สปอนเซอร์มา
รัฐบาลคาดว่าการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมานี้จะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2024
วีซ่าทักษะแรงงานจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1 ทักษะเฉพาะทางที่ต้องการเร่งด่วนจากผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะสูง
โดยจะพิจารณาให้กับผู้ที่มีรายได้เริ่มแรกอย่างน้อย 135,000 ดอลลาร์จากงานใดๆ ยกเว้นงานช่างประเภทต่างๆ พนักงานควบคุมเครื่องจักร พนักงานขับรถ และคนงานรับจากทั่วไป
รัฐบาลจะมีระยะเวลาดำเนินการวีซ่าประเภทนี้โดยเฉลี่ยประมาณ 7 วัน
คุณ เพอร์กินส์ เห็นด้วยกับการให้การสนับสนุนวีซ่าที่สปอนเซอร์โดยนายจ้างเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางสำหรับการอยู่อาศัยถาวรมากขึ้น
เธอกล่าวว่าเวลาในการดำเนินการที่เร็วขึ้น "จะดึงดูดคนงานที่มีทักษะสูงได้มากขึ้น"
“เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนอื่นๆ ของโลก เราอาจสูญเสียแรงงานที่มีทักษะเพียงเพราะว่าวีซ่าที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ของเรามีการดำเนินการซับซ้อนและยาวนาน”
2 วีซ่าทักษะประเภทที่2 เป็นวีซ่าสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพที่ขาดแคลนชั่วคราวและมีงานอยู่ในรายชื่ออาชีพทักษะหลักฉบับใหม่ (a new Core Skills Occupation List ) โดยพิจารณาจากอาชีพและทักษะที่ออสเตรเลียขาดแคลน
ผู้ที่สมัครวีซ่านี้จะต้องมีรายได้เท่ากับเกณฑ์รายได้การย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะชั่วคราวเป็นอย่างน้อย (the Temporary Skilled Migration Income Threshold; TSMIT)
ในช่วงต้นปี 2023 รัฐบาลปรับเพิ่มรายได้ของ TSMIT จาก 53,900 ดอลลาร์เป็น 70,000 ดอลลาร์
รัฐบาลจะปรับฐานดัชนีรายได้นี้ทุกปีตามดัชนีราคาค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น
3 จะมีหารือเกี่ยวกับนโยบายควบคุมการย้ายถิ่นสำหรับเส้นทางวีซ่าประเภทที่ 3 คือ วีซ่าแรงงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำแต่มีทักษะแรงงานที่จำเป็น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มหารือในครึ่งแรกของปี 2024
ผลทดสอบภาษาอังกฤษที่ยากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในวีซ่านักเรียน
อ้างอิงจากนโยบายการย้ายถิ่น นักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาถือเป็นคนต่างชาติที่เป็นผู้อพยพ "ชั่วคราว" ที่มีจำนวนมากที่สุดของออสเตรเลีย และเป็นเป้าหมายหลักของการปฏิรูปนโยบายการย้ายถิ่นฐานของรัฐบาล
คุณ เพอร์กินส์กล่าวว่า
โดยรวมคือ รัฐบาล "พยายามเพิ่มระดับทักษะของนักเรียนที่จะมาที่นี่"
“ถ้าใครดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถเดินทางไปสู่เส้นทางผู้อยู่อาศัยถาวร รัฐบาลดูเหมือนจะพยายามกีดกันพวกเขาจากการมาเรียนที่ออสเตรเลีย”
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ได้มีการเพิ่มข้อกำหนดภาษาอังกฤษ
ตั้งแต่ต้นปีนี้ ผู้ที่ยื่นขอวีซ่านักเรียนจะต้องมีคะแนนไอเอลส์ (IELTS) 6.0 (เพิ่มขึ้นจาก 5.5) หรือการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เทียบเท่า เช่น PTE ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักเรียนต่างชาติที่เลือกออสเตรเลียเป็นจุดหมายปลายทางทางการศึกษา
คะแนนสอบที่จำเป็นสำหรับวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (graduate visa) จะเพิ่มขึ้นจาก 6.0 เป็น 6.5
รัฐบาลกล่าวว่าการดำเนินการนี้จะปรับปรุงคุณภาพประสบการณ์การศึกษาของนักเรียน และลดการแสวงหาประโยชน์จากสถานที่ทำงานที่อาจเกิดขึ้น
การทดสอบความตั้งใจมาศึกษาฉบับใหม่ (Genuine Student Test)
นโยบายการย้ายถิ่นฐานใหม่ของออสเตรเลียจะนำเสนอ "การทดสอบความตั้งใจมาศึกษาฉบับใหม่” สำหรับนักศึกษาต่างชาติทุกคน ซึ่งจะมาแทนที่ข้อกำหนดเดิม
นโยบายใหม่ระบุว่าสิ่งนี้จะ "จูงใจการสมัครจากนักเรียนที่ตั้งใจมาเรียน และไม่สนับสนุนนักเรียนที่ไม่ใช่นักเรียนที่มีความตั้งใจมาเรียนเป็นหลัก คือตั้งใจมาทำงานมากกว่าการเรียน"
คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 2567
รัฐบาลได้เคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนให้เกิดความน่าเชื่อถือของหน่วยวีซ่านักเรียนในกระทรวงด้านกิจการภายในของออสเตรเลีย เมื่อปลายปีที่แล้ว และจะดำเนินการตามมาตรการเพื่อ "ขจัดผู้ให้บริการที่ไม่สุจริต" ออกจากระบบภายในปีนี้
ลำดับความสำคัญในการดำเนินการขอวีซ่านักเรียน
รัฐบาลได้เปิดเผยลำดับความสำคัญในการดำเนินการใหม่สำหรับการยื่นขอวีซ่านักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน โดยอิงจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะกลั่นกรองสิ่งเหล่านั้นจาก "ผู้ให้บริการที่มีความเสี่ยงสูง"
สิ่งเหล่านี้ระบุไว้ในทิศทางของรัฐมนตรี โดยอิงตามระบบที่ได้รับการจัดอันดับของผู้ให้บริการการศึกษา และนำไปใช้กับใบสมัครทั้งหมดที่ยื่นในหรือตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม
การเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (graduate visa)
ตั้งแต่กลางปี 2024 รัฐบาลจะเดินหน้าใช้วีซ่าบัณฑิตชั่วคราว "เสริมสร้างและลดความซับซ้อน" การเปลี่ยนแปลงจะประกอบไปด้วย:
การจำกัดอายุสำหรับผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่า
ภายใต้การปรับปรุงใหม่ ผู้สมัครจะต้องมีอายุต่ำกว่า 35 ปี (ลดลงจากอายุปัจจุบันที่ 50)
ระยะเวลาวีซ่าลดลง
ระยะเวลาของวีซ่าบัณฑิตชั่วคราวในการขอครั้งแรกจะลดลงเหลือสองปีสำหรับระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทที่เป็นระบบการเข้าชั้นเรียน (Coursework) และสามปีสำหรับปริญญาโทในระบบการทำวิจัย (research)
นักเรียนในพื้นที่ภูมิภาคจะมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าครั้งที่สองเป็นเวลาหนึ่งถึงสองปีขึ้นอยู่กับสถานที่ของพวกเขา
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการลดจำนวนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวระยะยาวผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนเข้าเมือง ลียาห์ เพอร์กินส์
รัฐบาลได้ประกาศอะไรไปบ้างแล้ว?
ยุติสิทธิพิเศษช่วงสถานการณ์โควิด
ในเดือนกันยายน 2023 รัฐบาลได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการโควิดวีซ่า หรือ Pandemic Event Visa ซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2020 เพื่อให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวสามารถอยู่ในออสเตรเลียได้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อพรมแดนระหว่างประเทศถูกปิด
ไม่มีการเปิดให้ยื่นสมัครรับวีซ่าตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน และจะปิดรับสมัครทั้งหมดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้
กลยุทธ์ดังกล่าวระบุว่าการยกเลิกสิทธิพิเศษเกี่ยวกับโรคโควิด รวมถึงการยุติโควิดวีซ่า และชั่วโมงทำงานที่ไม่จำกัดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ จะช่วยทำให้จำนวนการย้ายถิ่นฐานเข้าใกล้ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด
วีซ่าใหม่สำหรับผู้อพยพจากประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific migrants)
วีซ่าใหม่สำหรับผู้อพยพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากประเทศในแปซิฟิกและติมอร์เลสเตก็จะเปิดตัวในปีนี้เช่นกัน
วีซ่า Pacific Engagement Visa (PEV) จะช่วยให้พลเมืองมากถึง 3,000 คนจากประเทศที่เข้าร่วม สามารถอพยพไปยังออสเตรเลียได้ในแต่ละปีในฐานะผู้อยู่อาศัยถาวร
กฎหมายที่ผ่านโดยวุฒิสภาในเดือนตุลาคมจะอนุญาตให้ใช้กระบวนการลงคะแนนเสียงเพื่อสุ่มเลือกผู้สมัครได้
หากประสบความสำเร็จ พวกเขาจะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงการมีงานทำในออสเตรเลียด้วย
ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง และรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศและมหาสมุทรแปซิฟิก แพ็ต คอนรอย กล่าวว่าโครงการนี้จะเริ่มในปี 2024 เมื่อข้อตกลงด้านกฎหมายและการบริหารที่เหลือทั้งหมดได้รับการอนุมัติ
อ่านเพิ่มเติม
ครบเครื่องเรื่อง Work and Holiday วีซ่า
การให้ความสำคัญสำหรับผู้สมัครวีซ่าคุ้มครอง (Protection Visa)
ในเดือนตุลาคม รัฐบาลยังได้ประกาศทุ่มงบมูลค่า 160 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเสริมสร้างระบบวีซ่าผู้ลี้ภัย
มีเพิ่มงบประมาณอีก 54 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างการประมวลผลคำร้องขอวีซ่าคุ้มครองแบบเรียลไทม์ "เพื่อช่วยทำลายรูปแบบธุรกิจของผู้ที่ละเมิดระบบ"
คุณ เพอร์กินส์ กล่าวว่าเราจะเห็นสิ่งนี้มากขึ้นในปี 2024
“มันจะมีความสำคัญมากขึ้น เมื่อเราเห็นผู้คนจำนวนมากขึ้นได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว และถูกปฏิเสธอย่างรวดเร็ว” เธอกล่าว
วาระสำคัญในแผนรับผู้ย้ายถิ่นฐานในปี 2024 จะเป็นอะไร
กลยุทธ์ดังกล่าวได้สรุปประเด็นต่างๆ ของการปฏิรูปในอนาคตซึ่งจำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือในปี2024
ซึ่งรวมถึงวิธีการควบคุมการย้ายถิ่นของแรงงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าซึ่งมีทักษะที่จำเป็น และวิธีการปรับเปลี่ยนการย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะถาวร
รัฐบาลวางแผนที่จะพิจารณาการย้ายถิ่นในภูมิภาคและโครงการวีซ่าท่องเที่ยวและทํางาน (Working Holiday Maker) เพื่อสนับสนุนภูมิภาคและแรงงานตามภูมิภาค เอกสารการอภิปรายในตอนท้ายมีกำหนดออกในต้นปีนี้
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำความเข้าใจคะแนนไอเอลส์แบบง่ายๆ พร้อมสิ่งที่คุณควรรู้
เรื่องราวที่น่าสนใจ
ปีใหม่แล้ว การเปลี่ยนแปลงก็มีมากมายเช่นกัน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้