รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
รัฐบาลออสเตรเลียยืดโครงการวีซ่าซึงออกแบบไว้ให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ว่าจ้างชาวต่างชาติผู้มีทักษะสูงได้ง่ายดายขึ้นเนื่องจากมีจำนวนผู้ยื่นขอน้อยในช่วงปีแรก
รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง นายเดวิด โคลแมน ประกาศในวันนี้ว่าโครงการนำร่องเพื่อเสาะหาผู้มีความสามารถพิเศษจากทั่วโลกนั้นจะกลายเป็นโครงการถาวรส่วนหนึ่งของโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานสู่ประเทศออสเตรเลีย
ลูกจ้างทักษะสูงจากต่างประเทศนั้นนำทักษะที่ไม่เหมือนใครตลอดจนความรู้สู่ธุรกิจต่างๆ ของออสเตรเลีย ทำให้เกิดการสร้างงานเพิ่มมากขึ้นสำหรับชาวออสเตรเลีย
ในจำนวนธุรกิจ 23 รายซึ่งเข้าร่วม มีเพียงห้ารายเท่านั้นที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจซึ่งก่อตั้งมานานแล้วไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตโคลส์ หรือ(บริษัทเหมืองแร่)ริโอตินโตผู้เชี่ยวชาญกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง นายจอร์แดน ทิว หุ้นส่วน ณ สำนักงานกฎหมาย ฮันนานทิวลอว์เยอส์ กล่าวว่า มีความเข้าใจผิดอยู่เป็นอย่างมากเกี่ยวกับโครงการใหม่ดังกล่าว
Source: AAP
“มีคนถามผมตลอดเวลาว่า ‘คุณเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวีซ่าสตาร์ทอัพได้หรือไม่?’” เขากล่าวกับเอสบีเอสนิวส์
“มันถูกคิดว่าเป็นเช่นนั้น ว่ามันเป็นวีซ่าวิเศษสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ และมันก็ไม่ใช่เช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย”
ในเกือบทุกกรณี โครงการดังกล่าวไม่เหมาะสมกับลูกค้าในกลุ่มสตาร์ทอัพของเขาแต่อย่างใด
“มันเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาก และมีกระบวนการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้นมาที่คุณจำเป็นต้องทำ” คุณทิว กล่าว
สำนักงานรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้เข้าใช้วีซ่าดังกล่าวเป็นจำนวนเท่าไร แต่ก็เป็นที่เข้าใจว่าตัวเลขนั้นอยู่ในระดับต่ำ
เสียงเรียกร้องให้ลดค่าธรรมเนียม
แม้ว่าจะมีปัญหามาตั้งแต่แรก คุณทิวกล่าวว่าเขาสนับสนุนให้โครงการดังกล่าวนั้นดำเนินต่อไป แต่เรียกร้องให้มีการลดค่าธรรมเนียมการสมัครที่อาจถึง $10,000 ดอลลาร์ ให้ต่ำลง
“ธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นอาจไม่มีเงินมากขนาดนั้น และก็ต้องการที่จะใช้มันเพื่อพัฒนาธุรกิจของพวกเขา การจ่ายเงินก้อนโตเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมนั้นเป็นปราการอย่างหนึ่ง” เขากล่าว
ประธานของกลุ่มที่ปรึกษาสตาร์ทอัพ (Startup Advisory Panel) คุณอเล็กซ์ แมคคอลีย์ กล่าวว่าการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหม่ๆ
“เรามีความคาดหวังสูงสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ ในออสเตรเลีย และก็เห็นกับตาว่าโครงการดังกล่าวนั้นมีคุณค่าเพียงใด เราต้องการจะประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างรวดเร็ว แต่ในการที่จะทำเช่นนั้นเราจะเป็นจะต้องเข้าถึงผู้มีความสามารถพิเศษในโลกนี้” คุณแมคคอลีย์ กล่าว
“เราทราบจากช่วงนำร่อง ว่าวีซ่าเหล่านี้อาจสามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งความเติบโตนี้ก็จะกลับมาช่วยให้บริษัทสามารถว่าจ้างและฝึกฝนผู้คนในท้องที่เพื่อทำตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นได้”
โครงการดังกล่าวทำให้วิศวกรจรวดพุ่งมายังออสเตรเลีย
บริษัทจรวดสตาร์ทอัพในนครบริสเบน กิลมอร์สเปซเทคโนโลยีส์ (Gilmore Space Technologies) ได้ว่าจ้างวิศวกรจรวดจำนวนสี่คนผ่านโครงการดังกล่าว และยังวางแผนที่จะจ้างเพิ่มเติมอีก
“เราไม่มีกลุ่มทักษะในเรื่องการสร้างจรวดในประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นเราจึงต้องนำคนเหล่านี้เข้ามา ปรัชญาของเราก็คือเรานำพวกเขาเข้ามาเพื่อสอนชาวออสเตรเลีย” เจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด คุณอดัม กิลมอร์ กล่าวกับเอสบีเอสนิวส์
กลุ่มลูกจ้างอาวุโสดังกล่าวกำลังช่วยอบรมบัณฑิตจบใหม่จำนวน 25 คนของธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งดังกล่าว เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของการสร้างจรวดแม้ว่าจะใช้เวลาหกเดือนเพื่อให้งานเอกสารนั้นเสร็จสมบูรณ์และได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วม การเข้าโครงการนี้จะส่งผลให้ผู้ขอวีซ่าได้รับการพิจารณาก่อนผู้อื่น (fast-tracked)
Gilmour Space Technologies says it would not be possible to build its rockets without overseas rocket engineers. Source: Supplied: Gilmour Space Technologies
“เหตุผลที่เรื่องนี้มีความสำคัญก็คือ บุคคลชาวต่างชาติผู้มีความสามารถพิเศษขั้นสูงนั้นจะไม่มานั่งรอสองหรือสามเดือนเพื่อให้วีซ่าได้รับการอนุมัติ ในการจะตัดสินใจว่าพวกเขาจะมาทำงานกับคุณหรือไม่” คุณกิลมอร์กล่าว
“ไม่มีใครที่จะอดทนขนาดนั้น”
เรื่องราวเกี่ยวกับวีซ่าออสเตรเลียโดย เอสบีเอส ไทย
ผู้อพยพนับหมื่นเสี่ยงถูกเนรเทศจากแผนเปลี่ยนกฎวีซ่า
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
กว่าจะมีวันนี้ของทนายบุญจันทร์ แสนภูมี
เขาแนะว่าการลดจำนวนเอกสารที่จำเป็นในการเข้าร่วมโครงการจะช่วยสนับสนุนให้เจ้าของธุรกิจรายใหม่ๆ มาเข้าร่วมมากขึ้น โดยอ้างอิงจากขั้นตอนของประเทศสิงคโปร์ที่ทำทางออนไลน์
“นั่นเป็นมาตรฐานที่ออสเตรเลียควรจะทำตาม”