โดยเป็นส่วนหนึ่งของกฎด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น นายอเล็กซ์ ฮอว์ก (Alex Hawke) รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย ได้ประกาศข้อกำหนดด้านความประพฤติที่เคร่งครัดยิ่งขึ้น สำหรับการสมัครขอวีซ่า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองสามารถเดินทางเข้ามายังออสเตรเลียหรืออาศัยอยู่ทีนี่ได้ หากบุคคลนั้นต่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชนออสเตรเลีย
เนื้อหาสำคัญของเรื่อง
- ข้อกำหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในด้านความประพฤติสำหรับผู้สมัครขอวีซ่าและผู้ถือวีซ่าออสเตรเลีย
- นายอเล็กซ์ ฮอว์ก รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย กล่าวว่า กฎใหม่นี้จะช่วยปกป้องชุมชนออสเตรเลีย
- ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองที่กระทำความผิดร้ายแรงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าหรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลียได้ นายฮอว์ก กล่าว
คำสั่งจากรัฐมนตรีที่ลงนามในวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ตอกย้ำถึงจุดยืนของรัฐบาลออสเตรเลียที่จะไม่อดทนต่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ด้วยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องวีซ่า ให้พิจารณาเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง เมื่อพิจารณาใบสมัครขอวีซ่า
“การได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออสเตรเลียเป็นเอกสิทธิ์ และมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่จะต้องเคารพและยึดมั่นในกฎหมายของเรา” รัฐมนตรีฮอว์ก ระบุ“ความรุนแรงในครอบครัวและอาชญากรรมต่อสมาชิกที่เปราะบางในชุมชนไม่มีที่ว่างให้อยู่ได้ในออสเตรเลีย และเราจะไม่อดทนต่อสิ่งเหล่านี้” นายฮอว์ก เสริม
Immigration Minister Alex Hawke. Source: AAP
โดยส่วนหนึ่งของกฎใหม่เหล่านี้จะกำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับรูปแบบอื่นๆ ของพฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับได้ด้วย เช่น อาชญากรรมที่ไม่ใช่การใช้ความรุนแรงแต่มีความร้ายแรง รวมทั้ง การฉ้อโกง การกรรโชกทรัพย์ การกดขี่ข่มเหงแรงงานหรือบุคคลอื่นๆ และการทอดทิ้งบุคคลที่เปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ
“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่ชุมชนออสเตรเลียความคาดหวังจากผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง ซึ่งกระทำความผิดที่ร้ายแรง ว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามา หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย” รัฐมนตรีฮอว์ค กล่าว
อะไรคือข้อกำหนดด้านพฤติกรรม?
ภายใต้กฎหมายด้านการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองสามารถถูกปฏิเสธวีซ่าได้ หากพวกเขาไม่ผ่านตามเกณฑ์ข้อกำหนดด้านพฤติกรรมในขณะที่สมัครวีซ่า หรือถูกยกเลิกวีซ่าได้ หากพวกเขาล้มเหลวที่จะมี “ความประพฤติที่ดี” ต่อไป หลังได้รับอนุมัติวีซ่าแล้ว
Australian visa application form Source: Getty Images
ข้อกำหนดดังกล่าวใช้พิจารณาทั้งความประพฤติในอดีตและปัจจุบัน หากบุคคลใดที่เคยมีความประพฤติที่เป็นความผิดทางอาญา หรือมีความพัวพันกับความผิดทางอาญา หรือเป็นสมาชิกกลุ่มที่ผิดกฎหมายในอดีต นั่นอาจส่งผลกระทบต่อการสมัครขอวีซ่าหรือสถานะวีซ่าของบุคคลนั้นได้
คุณรันบีร์ ซิงห์ (Ranbir Singh) ตัวแทนดำเนินการด้านวีซ่าในเมลเบิร์น กล่าวโดยรวมเกี่ยวกับข้อกำหนดเหล่านี้ว่า ข้อกำหนดด้านความประพฤติใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องชุมชนจากผู้ที่ก่ออาชญากรรม และในบางกรณีบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่ประพฤติผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
“ข้อกำหนดใหม่ที่เข้มงวดนี้มีจุดมุ่งหมายโดยเฉพาะ เพื่อปกป้องการใช้ความรุนแรงในครอบครัวและการก่ออาชญากรรมต่อบุคคลที่เปราะบางในชุมชน” คุณซิงห์ กล่าว
“การตรวจสอบด้านความประพฤติเป็นข้อกำหนดที่ใช้บังคับตลอดมาสำหรับการออกวีซ่าส่วนใหญ่ และบ่อยครั้งนำไปสู่การยกเลิกวีซ่า ในกรณีที่ผู้สมัครไม่สามารถคงความประพฤติให้เป็นไปตามข้อกำหนดได้” นายซิงห์ เสริม
จากสถิติของรัฐบาล มีผู้ถูกยกเลิกวีซ่าอย่างน้อย 1,021 คนและใบสมัครขอวีซ่าอย่างน้อย 352 ใบถูกปฏิเสธ ด้วยเหตุผลด้านความประพฤติของผู้สมัครหรือผู้ถือวีซ่าในปีการเงิน 2019-2020
กฎใหม่นี้มีออกมาหลายเดือนหลังรัฐบาลสหพันธรัฐประกาศกฎหมายสำหรับ
ในการประกาศเรื่องนี้ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว รักษาการรัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐาน คือนายอลัน ทัดจ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงใหม่นี้จะช่วยปกป้องผู้ย้ายถิ่นฐานให้ปลอดภัยจากความรุนแรงในครอบครัว
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
หญิงเวียดนามถูกยกเลิกวีซ่าเพราะนำเนื้อหมูเข้าออสเตรเลีย
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
บริสเบนจะล็อกดาวน์ 3 วันเริ่มเย็นนี้