ในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ (New Year's Eve) ที่กำลังจะถึงนี้ ที่นครซิดนีย์จะมีการเฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟที่ “ยิ่งใหญ่และสว่างไสวที่สุด” ตั้งแต่เคยมีมา
แต่ยังมีสิ่งที่มากกว่าการแสงสีที่สวยงาม โดยในปีนี้เทศบาลนครซิดนีย์ได้ประกาศว่า สภาผู้ลี้ภัยแห่งออสเตรเลียได้ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
ผู้จัดงานกล่าวว่า แกนหลักสำคัญของการจัดงานในปีนี้คือเรื่อง “ความเป็นหนึ่งเดียว”
นายจอร์จ นาจาเรียน (George Najarian) ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกล่าวว่า นี่เป็นโอการที่เราจะจินตนาการอนาคตที่ชาวออสเตรเลียทุกคนจะเปิดใจให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
"ขอให้เราอย่าได้ลืมว่าเราทุกคนเป็นมนุษย์ และเราทุกคนอาศัยในประเทศอันสวยงามบนโลกอันสวยงามใบนี้ และขอให้เราต้อนรับผู้ลี้ภัยและผู้คนที่หาที่พักพิง เพราะนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ" นายนาจาเรียนกล่าวกับเอสบีเอสนิวส์
นายนาจาเรียนและครอบครัวที่สืบทอดเชื้อสายชาวอาเมเนียเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ที่ประเทศเลบานอน ก่อนที่พวกเขาจะพบว่า ออสเตรเลียได้เปิดรับผู้อพยพชาวซีเรีย และชาวอิรัก 12,000 คน เมื่อปี 2015
พวกเขาได้รับวีซ่าโครงการด้านมนุษยธรรมของออสเตรเลีย และเดินทางมาถึงนครซิดนีย์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017

George Najarian fled the war in Aleppo, Syria, for Lebanon before finally settling in Australia. Source: SBS
“ผมแทบไม่เชื่อว่าผมได้มาอยู่ในประเทศที่ปลอดภัย นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่ผมรู้สึกเมื่อเดินทางมาถึงที่นี่” นายนาจาเรียนกล่าว
“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง มันไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือทางการเงิน (ของรัฐบาลออสเตรเลีย) มันเกี่ยวกับการทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาวออสเตรเลียที่สวยงามนี้”
กระแสเรียกร้องให้ยกเลิกเทศกาลวันขึ้นปีใหม่
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับเทศกาลมูลค่า $6.5 ล้านดอลลาร์นี้
ขณะที่มีเหตุไฟป่าเกิดขึ้นกว่า 100 จุดทั่วพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีการรณรงค์ทางออนไลน์ที่เรียกร้องให้ยกเลิกการแสดงพลุดอกไม้ไฟในนครซิดนีย์ปีนี้ ซึ่งมีการรวมรายชื่อแล้วหลายพันรายชื่อ
โดยในวันนี้ (4 ธ.ค.) นางโคลเวอร์ มัวร์ นายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ ได้ปฏิเสธที่จะยกเลิกการแสดงพลุดอกไม้ไฟ พร้อมให้คำมั่นว่าจะใช้โอกาสวันขึ้นปีใหม่นี้ระดมเงินเยียวยาผู้ประสบภัยแล้ง และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไฟป่า
“เราจะใช้โอกาสในกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้ ในการระดมเงินให้กับกองทุนบรรเทาและฟื้นฟูจากสาธารณภัยของกาชาดออสเตรเลีย” นางมัวร์ นายกเทศมนตรีนครซิดนีย์กล่าว

A haze hangs over Sydney due to out-of-control bushfires. Source: AAP
"เราขอให้ทุก ๆ ท่าน ที่มาเยี่ยมชมเมืองของเราในวันขึ้นปีใหม่นี้ รวมถึงผู้ที่รับชมจากทางบ้านร่วมบริจาคผ่านผู้ระดมทุนทางออนไลน์"
'ของขวัญจากเราที่มอบให้แก่โลกใบนี้'
เทศบาลนครซิดนีย์กล่าวว่า การแสดงแสง สี เสียง ในครั้งนี้ จะเป็นการแสดงที่ตระการตาที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของนครซิดนีย์เป็นของขวัญจากเราที่มอบให้แก่โลกใบนี้” นายมัวร์กล่าว
“มันคือการกล่าวต้อนรับสู่นครซิดนีย์ และการต้อนรับปี 2020 ไปยังประชาชนในท้องถิ่น ผู้เยี่ยมชม ผู้ย้ายถิ่น ผู้ลี้ภัย และสายตาผู้ชมจากทั่วโลกนับพันล้านคน”
นายฟอทูนาโต โฟตี (Fortunato Foti) ผู้กำกับการแสดงพลุดอกไม้ไฟในเทศกาลนี้กล่าวว่า เขาได้กำกับการแสดงพลุดอกไม้ไฟให้นครซิดนีย์มาตั้งแต่ปี 1997 และได้กล่าวว่า จะมีการใช้เทคนิคพลุดอกไม้ไฟกว่า 100,000 ชนิด ในการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

Sydney will welcome a new decade with a symphony of light, colour and sounds.
“การจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟในครั้งนี้จะมีสีสันที่แตกต่างกัน และเอฟเฟ็กต์สดใสตระการตา เพื่อเสริมแต่งและเติมเต็มประสบการณ์ในกิจกรรมพลุดอกไม้ไฟวันขึ้นปีใหม่ที่นครซิดนีย์ปีนี้” นายโฟตีกล่าว
“จะมีพลุที่จุดเป็นรูปดาวเปลี่ยนสีได้ จุดเป็นลวดลายกระจกแต้มสีที่สวยงาม ทิวพลุระยิบระยับ และพลุที่จุดเป็นรูปทรงเรขาคณิตแบบสองมิติ (pyrograms)
นายซิกกี ซีเกลอ (Ziggy Ziegler) นักออกแบบแสง กล่าวว่า ผู้เข้าชมงานในครั้งนี้จะตื่นตากับลำแสงที่ส่องสว่างไปบนท้องฟ้า ที่จะยิงลำแสงขึ้นไปจากยอดของสะพานฮาเบอร์ บริดจ์ (Harbour Bridge)
“เราคิดว่ามันจะสร้างแสงที่มีความสว่างระหว่าง 16–20 ล้านแรงเทียน ซึ่งจะเป็นลำแสงที่สว่างที่สุดในซีกโลกใต้” นายซีเกลอกล่าว

The lighting display will attempt to project the brightest beam in the southern hemisphere.
นายซีเกลออธิบายว่า ลำแสงดังกล่าวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของ “ผู้คนในออสเตรเลียที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

คาดเมืองใหญ่ในออสเตรเลียจะร้อนจัดถึง 50 องศา