เจ้าของบ้านในออสเตรเลียหลายคนโล่งอกไปหนึ่งเปลาะ เมื่อธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
อัตราดอกเบี้ยเงินสดลดลง 0.25 เปอร์เซ็นต์จาก 4.35 เปอร์เซ็นต์เป็น 4.1 เปอร์เซ็นต์ โดยธนาคาร ‘ยักษ์ใหญ่ 4 แห่ง’ ของออสเตรเลียได้แก่ CBA, Westpac, NAB และ ANZ ต่างพร้อมตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
แม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยผ่อนแรงให้กับผู้ถือจำนอง แต่อีกด้านหนึ่งสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีสินเชื่อประเภทอื่น ๆ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์อย่างไร?
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อบัญชีออมทรัพย์อย่างไร?
การตัดสินใจเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ RBA มักจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยประเภทบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารต่างๆ
เช่น หลังจากการประกาศดังกล่าวธนาคาร Westpac ได้ลดอัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์หลัก บัญชี E-Saver และ Life
รวมถึงบริษัทในเครือ เช่น St George และ Bank of Melbourne ปัจจุบันก็มีการลดดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์เช่นกัน
ส่วนธนาคาร Commonwealth Bank ลดดอกเบี้ยลงในบัญชี Goal Saver และ ลดดอกเบี้ย 0.2 เปอร์เซ็นต์ในบัญชี Netbank Saver
แซลลี ทินดอล์ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงิน Canstar กล่าวว่าผู้ที่มีบัญชีออมทรัพย์ที่เคยได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะมีรายได้ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยล่าสุด
การเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสดใดๆ ถือเป็นดาบสองคม เพราะมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และผู้ที่เสียประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงนี้แซลลี ทินดอล์ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงิน Canstar
"เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินสดเพิ่มสูงขึ้น ผู้กู้ยืมที่ใช้อัตราผันแปรจะรู้สึกถึงผลกระทบของการการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBA ทั้ง13 ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารตอบรับการปรับขึ้นเหล่านี้และส่งผ่านไปยังลูกค้า
"แต่ก็ยังมีผู้ที่ได้ประโยชน์คือผู้ที่มีเงินออมในธนาคาร ที่จะเห็นเงินออมของตนออกดอกผล"
อ่านเพิ่มเติม
ข่าวดี RBA ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี
แม้ว่าธนาคารส่วนใหญ่จะประกาศการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแบบอัตราแปรผันในทันทีที่มีการประกาศ แต่ธนาคารส่วนใหญ่ยังไม่มีการแจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกับบัญชีออมทรัพย์หรือไม่
คุณ ทินดอล์ คาดการณ์ว่าธนาคารส่วนใหญ่จะลดอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์
“ปกติแล้วธนาคารต่างๆ จะไม่รีบเร่งในการแจ้งข่าวร้าย เราคาดหวังว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงลบกับดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์” เธอกล่าว
เงินฝากประจำจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่?
คุณทินดอล์ กล่าวว่าในขณะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของเงินฝากระยะยาวและการจำนองที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่จะเชื่อมโยงกับการตัดสินใจของ RBA
อย่างไรก็ตามบัญชีทั้งสองประเภทนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันทีเพราะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ในลักษณะคงที่
คุณ แซลลี ทินดอล์ กล่าวว่าธนาคารต่างๆ มักจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบัญชีต่างๆ ก่อนการประกาศของ RBA
โดยธนาคารมากกว่า 20 แห่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่ RBA จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินสด
“สิ่งที่ธนาคารทำคือพิจารณาปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนในการซื้อเงินในตลาดขายส่งเพื่อช่วยจัดหาสินเชื่อบ้าน หรือการเปรียบเทียบกับรายได้ต่างๆ เช่นรายได้ครัวเรือนผ่านการฝากระยะยาว” เธอกล่าว
“พวกเขาพิจารณาถึงการแข่งขันระหว่างผู้ให้กู้ ความต้องการในหมู่ผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ และอัตราการจำนองที่ผันแปรที่อาจส่งผลในระยะเวลาอัตราดอกเบี้ยคงที่อย่างไร”
สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อรถยนต์ได้รับผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่?
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคลอาจได้รับผลกระทบจากการปรัลลดดอกเบี้ยของ RBA
อย่างไรก็ตามมันขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อทั้งในอัตราคงที่และแปรผัน
“สินเชื่อส่วนบุคคลรวมถึงสินเชื่อรถยนต์สามารถกู้ยืมโดยใช้ดอกเบี้ยอัตราผันแปรได้ และเราอาจเห็นว่าการจ่ายหนี้เหล่านี้ลดลงหลังจากการปรับลด RBA” ทินดอลล์กล่าว
“หากคุณมีสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อรถยนต์ในอัตราผันแปร คุณอาจจะลองติดต่อผู้ให้กู้ของคุณ ว่าพวกเขาจะปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ให้คุณหรือไม่”
นับตั้งแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2022 คุณ แซลี ทินดอล์ กล่าวว่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราผันแปรได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3.39 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของ RBA
การลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่อย่างไร?
คุณ ทินดอล์ กล่าวว่าผู้ถือจำนองที่มีเงินกู้ 500,000 ดอลลาร์จะชำระหนี้รายเดือนขั้นต่ำน้อยลง 77 ดอลลาร์
เธอกล่าวว่าแม้ว่าบางคนจะนำเงินส่วนนี้เพื่อการออมหรือเพิ่มการชำระหนี้จำนอง อย่างไรก็ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งเพราะทำให้ผู้คนใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น
“มีบางคนที่จะใช้เงินจำนวนนี้ที่มาจากการลดดอกเบี้ยทันทีเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินที่แบกไว้มาหลายเดือน และหลายๆ คนอาจจะสามาถจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคที่ซูเปอร์มาร์เก็ตได้คล่องตัวมากขึ้น”
แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่คุณ ทินดอลล์เตือนว่าอาจมีช่วงเวลาที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า หากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อกลับสูงขึ้นอีกครั้ง
เรายังไม่พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจดีแซลลี ทินดอล์ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงิน Canstar
“นี่คือสาเหตุที่ RBA บอกว่า อย่าคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามมาอีกในเร็ววันนี้ เพราะสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาต้องการคือการกระตุ้นเศรษฐกิจและงบประมาณครัวเรือนมากเกินไป แล้วจากนั้นอัตราเงินเฟ้อก็จะกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
สามารถติดตามเราได้ในช่องทางใหม่ทาง Instagram ที่
