17 ก.พ. ชาวรัฐวิกตอเรียเตรียมโล่งใจ หลัง นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ยืนยันว่า มาตรการล็อกดาวน์ฉุกเฉิน หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ ระยะเวลา 5 วัน จะสิ้นสุดลงในเวลาเที่ยงคืนนี้
นายแอนดรูส์ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเช้าวันนี้ หลังเจ้าหน้าที่ไม่พบการติดเชื้อในท้องถิ่นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการตรวจหาเชื้อจำนวน 40,000 ครั้ง ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
“ผมมีความยินดีที่จะประกาศว่า เซอร์กิตเบรกเกอร์ล็อกดาวน์ในครั้งนี้จะเป็นมาตรการที่สั้นกระชับ และมาตรการนี้จะสิ้นสุดลงในเวลาเที่ยงคืนนี้” นายแอนดรูส์ กล่าว
ขณะที่มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียได้ประกาศว่า มาตรการล็อกดาวน์จะสิ้นสุดลงในเที่ยงคืนนี้ แต่ก็มีมาตรการจำกัดห้ามบางอย่างที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้รัดกุมยิ่งขึ้น
“เซอร์กิตเบรกเกอร์นั้นได้ผล แต่สิ่งนี้ยังไม่จบลง ไวรัสยังไม่หายไปไหน ดังนั้น เราจึงยังคงต้องประกาศใช้มาตรการบางส่วน” นายแอนดรูส์ กล่าว
สิ่งที่ชาวรัฐวิกตอเรียทำได้ ตั้งแต่เวลา 24:00 น. ของคืนนี้
- ยกเลิก ข้อกำหนด4 เหตุผลในการออกจากบ้าน คือ ซื้ออาหารและของใช้ที่จำเป็น ไปทำงานหรือเรียน ให้หรือรับการดูแล และการออกกำลังกาย
- ยกเลิก ข้อกำหนดการเดินทางไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากที่พักอาศัย
- ร้านค้าและธุรกิจบริการ ได้รับอนุญาตให้เปิดได้อีกครั้ง โดยจำกัดความหนาแน่นของผู้รับบริการภายในร้าน
- ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติในที่ทำงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในอัตรา 50% ของความจุสถานประกอบการทั้งหมด
- การรวมกลุ่มทางศาสนา และศาสนาพิธี จะสามารถจัดได้ตามปกติ โดยมีกำหนดความหนาแน่นของผู้มาร่วมพิธี
- กีฬาและกิจกรรมนันทนาการ จะได้รับอนุญาตให้จัดได้อีกครั้ง โดยมีกำหนดความหนาแน่นของผู้มาร่วมกิจกรรม
- พิธีศพ จะสามารถกลับมาจัดได้อีกครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธี
- กิจกรรมสาธารณะ และงานรื่นเริงต่าง ๆ จะกลับมาจัดได้อีกครั้ง
- สถานศึกษา จะกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้อีกครั้ง
ข้อกำหนดที่ยังมีผลบังคับใช้ทั่วรัฐวิกตอเรีย
มาตรการจำกัดห้ามดังต่อไปนี้ จะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 27 ก.พ.
- จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ทั้งในและนอกสถานที่ เมื่อไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้
- การรวมกลุ่มในที่สาธารณะจะถูกจำกัดเหลือไม่เกิน 20 คน (ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ไม่เกิน 30 คน)
- มีผู้มาเยี่ยมบ้านได้ไม่เกิน 5 คน (ลดลงจากเดิมที่ไม่เกิน 15 คน)
ขณะที่กลุ่มก้อนการติดเชื้อในโรงแรมกักกันโรค ฮอลิเดย์ อินน์ จนถึงขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 19 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากประเทศอังกฤษ
ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา รัฐวิกตอเรียได้เข้าสู่มาตรการการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 3 เป็นการฉุกเฉิน หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยนายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ระบุในเวลานั้นว่า ไม่ทราบอย่างแน่ชัด ว่าการกระจายของไวรัสภายในชุมชนนั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้างแค่ไหน
โดยหลังจากมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์มีผลบังคับใช้ รัฐวิกตอเรียได้รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ด้วยจำนวนที่ลดลงในแต่ละวัน
นอกจากนี้ นายแอนดรูส์ ยังได้ปกป้องมาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “มีความจำเป็นอย่างมาก” เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อภายในชุมชน
“(การล็อกดาวน์) 5 วัน ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ยังดีกว่าเปิดโอกาสให้ไวรัสแพร่กระจาย จนกลายเป็นการล็อกดาวน์ 5 สัปดาห์ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านั้น” นายแอนดรูส์ กล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้อยู่บ้านและติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
วัคซีนแอสตราเซเนกาผ่านการรับรองในออสเตรเลียแล้ว