เรียกร้องรัฐบาลเพิ่มงบ home care support เกรงผู้สูงอายุหลายหมื่นคนรอนาน

ANTHONY ALBANESE AGED CARE PRESSER

รมต.กระทรวงการคลัง จิม ชาลส์เมอร์ รมต.กระทรวงดูแลผู้สูงอายุ อนิกา เวลส์และนายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีซี แถลงโครงการปฎิรูปการดูแลผู้สูงอายุต่อสื่อมวลชน เมื่อวันอังคารที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา กรุงแคนเบอรา Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

ผู้สูงอายุชาวออสเตรเลียหลายหมื่นคน ต้องรอรัฐบาลอนุมัติความช่วยเหลือด้านการดูแลจากที่บ้าน หรือ home care support กว่าหนึ่งปี จึงจะได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

มีผู้สูงอายุชาวออสเตรเลีย มากกว่า 68,000 คน ที่ลงชื่อในโครงการ การดูแลจากที่บ้าน ต้องรอการสนับสนุนด้านนี้จากรัฐบาล หลังจากที่รัฐบาลกลางประกาศแผนการปฏิรูปการดูแลผู้สูงอายุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้คำมั่นว่าจะมีการปรับปรุงนโยบายการดูแลจากบ้าน ให้ผู้สูงอายุชาวออสเตรเลียได้เข้าถึงการช่วยเหลือนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนในเรื่องดังกล่าว ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณในโครงการนี้ให้เพียงพอต้องความต้องการ ของผู้สูงอายุที่ได้ลงชื่อไว้เป็นบำนวนมาก ภายในปีงบประมาณหน้า เพื่อป้องกันปัญหาแบบคอขวดที่จะเกิดขึ้น

ชุดโครงการดูแลจากบ้าน หรือ The home care packages จะประกอบไปด้วยการดูแล 4 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่ การดูแลแบบไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไปจนถึงการสนับสนุนงบประมาณราว 40,000 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับผู้ที่ต้องการ การดูแลจากที่บ้านทุกวัน.

รักษาการผู้อำนวยการของ Anglicare Australia ไมยี อาซีซี กล่าวว่าชุดโครงการ การดูแลจากที่บ้านอยู่ภายใต้ระบบปันส่วน ซึ่งต่างจาก Medicare หรือ National Disability Insurance Scheme ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้

"มันเหมือนกับว่า เราต้องขอความเมตตาจากรัฐบาล ว่าเมื่อไหร่จึงจะเริ่มโครงการนี้ พวกเขาอาจจะเริ่มทยอยให้งบประมาณทีละนิด เพื่อตอบสนองต่อคำแนะนำจากคณะกรรมธิการไต่สวน แต่เกรงว่าอาจจะเป็นแค่บางส่วน ทำให้มีผู้สูงอายุจำนวนมากยังรอการช่วยเหลือนี้อยู่ อีกเป็นระยะๆ "

Mental health hospice
ปัจจุบันมีผู้สูงอายุชาวออสเตรเลีย มากกว่า 68,000 คน ที่ลงชื่อในโครงการ home care support หรือการดูแลจากที่บ้าน Source: Supplied

ชาวออสเตรเลียสูงอายุ 68,109 คนที่รอการช่วยเหลือจากโครงการนี้ ซึ่งจากการรายงานของ 'Life on the Waitlist' ของ Anglicare พบว่า ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าของผู้ที่ลงรายชื่อรอความช่วยเหลือในเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ชุดโครงการ 'การดูแลจากบ้าน' มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ของรัฐบาล จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีหน้า และคาดว่าจะช่วยเหลือชาวออสเตรเลียสูงวัยประมาณ 1.4 ล้านคนที่ต้องการรับบริการดูแลจากที่บ้าน

โครงการนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการด้านการดูแลผู้สูงอายุเปิดเผยว่าในประเทศออสเตรเลีย ผู้คนสองในสามใช้บริการดูแลผู้สูงอายุจากที่บ้าน แต่งบประมาณการดูแลผู้สูงอายุส่วนใหญ่จัดสรรให้กับการดูแลผู้สูงอายุในสถานดูแลคนชรา


รัฐบาลกล่าวว่าโครงการการดูแลที่บ้านฉบับปรับปรุงใหม่จะให้การสนับสนุนการดูแลทางการแพทย์ เช่น การให้การพยาบาลหรือกิจกรรมบำบัด ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำความสะอาดหรือความช่วยเหลือในการเตรียมอาหาร ความช่วยเหลือในการอาบน้ำ การแต่งตัว หรือการให้ยา

 คุณ อาซีซี หวังว่ารัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือนี้ ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า

"อุปสรรคใหญ่คือเรื่องงบประมาณ ดังนั้นเราจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณในปีงบประมาณหน้า เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในภาคส่วนนี้ เพราะผู้สูงอายุบางคนรอนานกว่า 1 ปี เพื่อได้รับการช่วยเหลือ"

" จากรายงานของเราพบว่า การขาดการสนับสนุนตรงนี้ ทำให้ผู้สุงอายุต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อนเวลา และส่งผลให้พวกเขาต้องเข้าไปอยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุก่อนเวลาอันควร ซึ่งมีราคาแพงกว่าการดูแลจากที่บ้านมาก"

จริงๆ แล้วโครงการดูแลจากที่บ้านแบบใหม่ ถือเป็นการลงทุนที่ฉลาดเฉียบแหลม แต่มันอาจล้มเหลวได้หากมีผู้สูงอายุรอความช่วยเหลือนี้เป็นเวลานานและเป็นจำนวนมาก
รักษาการผู้อำนวยการของ Anglicare Australia ไมยี อาซีซี

ผลกระทบจากการรอความช่วยเหลือ

มีการเปิดเผยว่า มีผลกระทบที่น่าเศร้า ที่ผู้สูงอายุบางส่วนเสียชีวิตลงระหว่างรอความสนับสนุนของโครงการดูแลจากบ้าน

คณะกรรมาธิการด้านการดูแลผู้สูงอายุเปิดเผยว่า ในระหว่างปี 2018-2019 มีผู้เสียชีวิต 28,000 รายขณะที่ลงชื่อรอการช่วยเหลือนี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Council on the Aging Australia คอรี ไอร์แลม กล่าวว่าอยากให้ย่นระยะเวลาการรอ จาก3 เดือน เป็น 1 เดือน

"แม้ว่าผู้สูงอายุที่สมัครในโครงการนี้จะได้รับอนุมัติความช่วยเหลือแล้ว แต่พวกเขายังคงต้องรอ อีก 15 เดือน เพื่อที่จะได้รับการช่วยเหลือจากที่บ้านอย่างเป็นรูปธรรม ผู้สูงอายุที่ลงชื่อไว้ราว 10,000 คน ต่อปี บางครั้งก็ต้องเสียชีวิตลงระหว่างการอความช่วยเหลือดังกล่าว หรือต้องเข้าโรรงพยาบาล หรือสถานดูแลคนชรา เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงบริการจากที่บ้านได้ "

งบประมาณและการขาดแคลนแรงงาน

ผู้ให้บริการอย่าง Benetas ซึ่งดำเนินธุรกิจในภาคส่วนนี้มาเป็นเวลา 75 ปี กำลังเผชิญกับอุปสรรคในการตอบสนองความต้องการในชุมชน

ในความเป็นจริง จากรายงานเน้นย้ำว่าไม่มีผู้ให้บริการแม้แต่รายเดียว ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการดูแลจากบ้านของรัฐบาลในชุมชน

จากรายงาน ชี้ว่า โครงการนี้มีอุปสรรคหลัก คือ งบประมาณ ตามมาด้วย ตามมาด้วยการขาดแคลนแรงงาน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เบเนทาส Benetas ซานดรา ฮิลล์ อธิบายว่า

“เมื่อปีที่แล้ว ในเวลาเดียวกัน เรามีผู้สูงอายุที่ลงชื่อรอการบริการนี้ประมาณ 34,000 คน แต่ตอนนี้เรามี 68,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าใน 12 เดือน ซึ่งผู้ให้บริการรายอื่นก็เจอปัญหานี้เช่นเดียวกัน ในบางภูมิภาค เรางดรับการลงชื่อแล้ว หรือในบางพื้นที่เราสามารถให้บริการได้ แต่หาคนทำงานไม่ได้ เป็นต้น"

เธอเสริมว่าสำหรับผู้สูงอายุที่มาจากภูมิหลังที่หลากหลายทางวัฒนธรรมและภาษา การได้รับความช่วยเหลือนี้ อาจมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอุปสรรคด้านภาษาอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งของโครงสร้างปัญหาทั้งหมด

"ยังมีทัศนคติทางวัฒนธรรมต่อการบริการทั้งในสถานดูแลผู้สูงอายุและการดูแลที่บ้านด้วย เกี่ยวกับคนที่จะเข้ามาให้การดูแลที่้บ่าน ใครควรจะมาดูแล สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้วกับคนที่มีภูมิหลังมาจากชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรม และรวมถึงปัญหาในการเข้าถึงบริการดูแลที่บ้านก็เช่นกัน"


โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงการดูแลผู้สูงอายุ อนิกา เวลส์ เปิดเผยกับ SBS ว่ารัฐบาลกลางมีการเพิ่มงบประมาณกว่า 531.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาชุดความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 24,100 รายภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า ส่งผลให้มีจำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับความช่วยเหลือจากบ้านเพิ่มเป็น 300,000 ราย

คุณ เวลส์ เสริมว่าผู้ที่ได้รับการประเมินว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลจากที่บ้าน จะได้รับการช่วยเหลือ ภายในหนึ่งเดือน และโครงการ Support at Home จะย่นระยะเวลารอจากการประเมินสั้นลงเพื่อให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงการบริการเร็วขึ้น

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 




บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

 

Share