ผู้บริโภคเผชิญชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าและขาดพนักงานให้บริการ

ผู้บริโภคเผชิญชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าและขาดพนักงานให้บริการ

ผู้บริโภคเผชิญชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าและขาดพนักงานให้บริการ Source: Pixabay

จากการที่ชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตแทบไม่มีเนื้อสัตว์ ผลไม้และผัก ผู้จัดจำหน่ายอาหารจึงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้ช่วยแก้ไขสถานการณ์


กดฟังรายงาน
LISTEN TO
Customers face empty shelves and missing staff image

ผู้บริโภคเผชิญชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าและขาดพนักงานให้บริการ

SBS Thai

13/01/202208:04
การขาดสินค้าบนชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเคยชินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เนื่องจากคนขับรถบรรทุกและพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตอาจป่วยด้วยโรคโควิด-19 หรือถูกระบุว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ทำให้เกิดแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทานสำหรับผู้ผลิต ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต

เฉพาะในอุตสาหกรรมนมเพียงอย่างเดียวนั้น ภาคส่วนนี้ต้องเผชิญกับการที่ลูกจ้างขาดงานมากถึงร้อยละ 40 ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่พุ่งสูงขึ้น

คุณแกรนต์ โครเทอร์ ประธานสหพันธ์ผลิตภัณฑ์นมแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า เรื่องนี้ผลกระทบต่อเกษตรกรและห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)

"กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือบางทีไม่มีการมารับนมไปจากฟาร์ม และเกษตรกรมีวัว 300 ตัวที่เขาจะต้องรีดนมในเช้าวันพรุ่งนี้ตอนตี 5 เขาจะทำอย่างไร เขาก็ต้องทิ้งนมไป" คุณโครเทอร์ กล่าว

คุณจีเนตต์ แบงค์ซี ผู้อำนวยการด้านร้านค้าของวูลเวิร์ตส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ (Woolworths Supermarkets) กล่าวว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานกำลังปรากฏขึ้นในร้านเช่นกัน

"ขณะนี้เรามีทีมกระจายสินค้าของเรากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และทีมพนักงานทำงานร้านของเรากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ที่ขาดงาน และนั่นคือสิ่งที่ส่งผลกระทบในร้านสำหรับลูกค้าของเรา ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวัน หากพวกเขามาที่ร้าน พวกเขาอาจเห็นชั้นวางผลิตภัณฑ์บางอย่างว่างเปล่า แน่นอนว่ามันมีผลกระทบมหาศาลต่อทีมงานที่มาทำงาน เรากำลังขาดพนักงาน แต่ลูกค้าของเรากำลังทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในขณะนี้คือ ซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นสำหรับพวกเขา และเราขอขอบคุณพวกเขาในเรื่องนี้" คุณแบงค์ซี ผู้บริหารของวูลเวิร์ตส์ กล่าว
และความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

นาย แอนโทนี อัลบานีซี ผู้นำฝ่ายค้านของสหพันธรัฐ กล่าวว่า เขาได้เห็นปัญหาของห่วงโซ่อุปทานการจัดหาวัคซีนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งวัคซีนที่มีกำหนดว่าจะถูกจัดส่งมาให้กลับไม่มี

"สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นในปีที่สามของการระบาดใหญ่ของโควิด ดังนั้นคนที่ทำงานอยู่จึงเสียสละอย่างเหลือเชื่อและได้ก้าวขึ้นมาทำงานที่ขาดไป การเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานถูกพักไว้และหันมาประนีประนอมและยกเลิกเงื่อนไขในระยะสั้นที่พวกเขาได้เคยเรียกร้อง เพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไป พวกเขาทำในส่วนของตนในการประนีประนอม รัฐบาลกลาง นำโดยสกอตต์ มอร์ริสัน ไม่ได้ทำส่วนของรัฐบาลในการประนีประนอม" ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน กล่าว

นายกรัฐมนตรีกำลังเจรจากับผู้นำในอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ ในขณะที่เขาพยายามแก้ปัญหาด้านการขาดแคลนพนักงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต

นาย สกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า การหยุดชะงักต่างๆ เหล่านี้ไม่น่าแปลกใจ

"เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากมายเช่นนั้นปรากฎขึ้นทุกวัน และคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงจุดสูงสุด นี่จะส่งผลกระทบที่ชัดเจนทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานของเรา นั่นคือสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากมายอย่างที่เราได้เห็น และแน่นอนว่าจะมีผลกระทบต่างๆ และเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องแก้ปัญหาไปตามสาเหตุในทั่วทุกอุตสาหกรรมเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่ง การดูแลสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ อย่างที่เรากำลังทำอยู่แล้ว" นายมอร์ริสัน กล่าว
ด้านสาธารณสุขนิวเซาธ์เวลส์ได้เริ่มการยกเว้นกักตัวแล้วสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็น ซึ่งเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โดยให้พวกเขากลับไปทำงานได้หากพวกเขาไม่มีอาการและถือว่าจำเป็นต่อบริการต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณจีเนตต์ แบงค์ซี ผู้อำนวยการด้านร้านค้าของวูลเวิร์ตส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ยินดีที่เกิดขึ้น

"เรายินดีกับการตัดสินใจของรัฐบาลและการยกเว้นกักตัวที่มีการประกาศไป ซึ่งจะช่วยเราอย่างต่อเนื่องในการทำให้แน่ใจได้ว่า เรามีผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นบนชั้นวางสินค้าเมื่อลูกค้ามาซื้อสินค้าในร้านของเรา" คุณแบงค์ซี กล่าว

ขณะนี้ รัฐบาลสหพันธรัฐเตรียมที่จะขยายการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยจะขยายจำนวนอุตสาหกรรมที่ลูกจ้างจะมีสิทธิ์ได้รับข้อกำหนดการกักตัวที่เข้มงวดน้อยกว่าปกติ

ทั้งนี้ ผลการตรวจเชื้อที่เป็นลบจากชุดตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็ว ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพนักงานที่จะกลับไปทำงานได้หลังการสัมผัสเชื้อ

ด้าน ประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ ฟิโอนา ซิมป์สัน ไม่พอใจเกี่ยวกับการขาดแคลนที่เรื้อรังสำหรับชุดตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็วสำหรับผู้ที่ต้องกักตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าเกษตรต้องทิ้งสินค้าและสูญเสียรายได้ และเธอกำลังสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีการเตรียมการเพิ่มเติมในระดับรัฐบาลกลาง

"ฉันคิดว่าผู้คนคงไม่คิดว่าเราจะเจอปัญหานี้อีกในตอนนี้ ฉันคิดว่าคนทั่วไปคงคิดว่าเราคงได้บทเรียนแล้ว และเราคงได้วางแผนเชิงกลยุทธ์ไว้แล้วขณะที่เราผ่านสถานการณ์เชื้อสายพันธุ์เดลตา และเรารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเบื้องหน้าจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นจึงน่าผิดหวังที่เราต้องมาอยู่ในสถานการณ์นี้อีกครั้ง ภายใต้ความกดดันที่รุนแรง” คุณ ฟิโอนา ซิมป์สันประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ กล่าว


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
 

 

 


Share