ประเด็นสำคัญ
- คุณสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตนเองหรือทางออนไลน์
- ธนาคารแบบออนไลน์จะให้บริการลูกค้าที่จำกัด แต่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง
- เปรียบเทียบราคาค่าธรรมเนียมหรือเงื่อนไขของบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียมรายเดือน
- บางธนาคารอนุญาตให้คุณสามารถเปิดบัญชีธนาคารล่วงหน้าก่อนเดินทางมาถึงออสเตรเลียได้
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ออสเตรเลียมีสถาบันการเงินกว่า 100 แห่ง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบในการเลือกธนาคารที่เหมาะกับคุณ
ซาราห์ เมกกินสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนบุคคลจาก Finder เว็บไซต์เปรียบเทียบด้านการเงินกล่าวว่า คุณไม่ต้องเป็นพลเมืองหรือผู้พำนักถาวรของออสเตรเลียเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร
“คุณไม่ต้องมีสถานะผู้พำนักถาวร คุณสามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ แม้ว่าคุณเป็นผู้ถือวีซ่าชั่วคราว ธนาคารจะยอมรับว่าคุณต้องมีบัญชีเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน และเพื่อรับรายได้ผ่านบัญชี แต่คุณไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ หากคุณไม่ได้ถือวีซ่าที่อนุญาติให้คุณอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย เช่น หากคุณถือวีซ่าท่องเที่ยว คุณไม่มีใบอนุญาตให้เรียนหรือทำงานในออสเตรเลีย การเปิดบัญชีธนาคารจะยุ่งยากมากกว่า”
'บิ๊กโฟร์' หรือ 4 ธนาคารยอดนิยมในออสเตรเลีย Source: AFP / PETER PARKS/AFP via Getty Images
ทั้งนี้ คำว่า ‘ธนาคาร’ มีความหมายรวมถึงธนาคาร สหกรณ์เครดิต และสหกรณ์ออมทรัพย์ด้วย
แอนดรูว์ แดดส์เวลล์จาก ASIC (คณะกรรมาธิการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุน) กล่าวว่า เว็บไซต์ Moneysmart มีข้อมูลเพื่อช่วยให้ตัดสินใจเรื่องการเงินได้
“ออสเตรเลียมีธนาคาร สหกรณ์เครดิต และสหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่ง แม้ว่าจะมีสถาบันการเงินมากมาย มีเพียง 4 ธนาคารที่ครองตลาด และมักเรียกกันว่า ‘บิ๊กโฟร์’ ได้แก่ ธนาคาร ANZ ธนาคารคอมมอนเวลท์ (Commonwealth) ธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย (NAB) และธนาคารเวสท์แพค (Westpac)”
สถาบันการเงินส่วนใหญ่มีบัญชีหลัก 2 ประเภท
"มีบัญชีธุรกรรมรายวัน ซึ่งเป็นบัญชีที่คุณใช้ทำธุรกรรมประจำวันของคุณ อาจเป็นบัญชีที่คุณใช้รับเงินเดือน เป็นบัญชีที่คุณใช้จ่าย เป็นบัญชีที่ถูกออกแบบมาให้เงินเข้า-ออก บัญชีประเภทที่สองคือบัญชีออมทรัพย์ และตอนนี้ดอกเบี้ยสูง บัญชีออมทรัพย์จึงเป็นบัญชีที่ดีสำหรับการเก็บออม"
ธนาคารมักเชื่อมบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกับบัญชีธนาคารของคุณ Credit: davidf/Getty Images
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบัญชีออมทรัพย์จะให้อัตราดอกเบี้ยสูง การแบ่งเงินบางส่วนจากบัญชีธุรกรรมมาเก็บออมในบัญชีออมทรัพย์นับเป็นความคิดที่ดี
“หากคุณมีบัญชีออมทรัพย์ คุณจะได้ดอกเบี้ยจากเงินออมในตอนที่คุณเริ่มเก็บ จากนั้นทบจากดอกเบี้ยที่คุณได้รับ คุณจึงจะได้รับดอกเบี้ยจากดอกเบี้ยของคุณ เช่น หากคุณมีเงินในบัญชีออมทรัพย์ $100 ที่มีอัตราดอกเบี้ย 4% คุณจะได้รับเงินทั้งหมด $104 สิ้นปี และจำนวนนั้นจะทบต้นทุกปีในบัญชีออมทรัพย์ของคุณ”
ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่คุณได้รับนับเป็นส่วนหนึ่งของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และคุณต้องแจ้งในรายการภาษีของคุณ
แล้วธนาคารประเภทใดที่เหมาะกับคุณ?
หากคุณชอบธนาคารที่มีสาขาหลายแห่ง ธนาคาร ‘บิ๊กโฟร์’ หรือธนาคารยอดนิยมอาจเป็นธนาคารที่เหมาะกับคุณ
หรือคุณอาจชอบทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์มากกว่า
ไม่กี่ปีทีผ่านมา เราเห็นธนาคารประเภท ‘นีโอ แบงก์’ หรือธนาคารดิจิทัลเพิ่มขึ้นหลายแห่ง ซึ่งธนาคารเหล่านี้ไม่มีสถานที่ให้คุณเข้าใช้บริการ แต่ให้การบริการที่ในระดับต่างๆ กัน บ่อยครั้งที่ธนาคารออนไลน์เหล่านี้จะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเมกกินสันกล่าว
การใช้สมาร์ทโฟนจ่ายเงินกับเครื่อง EFTPOS Credit: andresr/Getty Images
ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณควรตรวจสอบว่าธนาคารไหนที่อนุญาตให้คุณเพิ่มบัตรเครดิตในกระเป๋าสตางค์อัจฉริยะ (smartwallet) กูเกิลเพย์ (Google Pay) หรือแอปเปิล เพย์ (Apple Pay)
การเปิดบัญชีธนาคารสามารถทำได้ด้วยการไปที่สาขาของธนาคารที่คุณต้องการ หรือเข้าเว็บไซต์ของธนาคารแล้วทำตามคำแนะนำ
สิ่งสำคัญคือการยืนยันตัวตนของคุณ
“อาจมีกระบวนการกรอกข้อมูลเล็กน้อย แต่นั่นเป็นการป้องกันสำหรับคุณ ธนาคารต้องการหลักฐานว่าคุณเป็นใคร อาจต้องใช้หนังสือเดินทาง ใบสูติบัตร หรือบัตรเมดิแคร์ ปกติแล้วคุณต้องไปที่ธนาคารเพื่อพิสูจน์ว่าคุณเป็นใครด้วย บางธนาคารใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล”
เมื่อคุณเข้าสู่ระบบและใช้บริการธนาคารออนไลน์หรือทางแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ คุณสามารถเปิดบัญชีได้ในเวลาไม่กี่นาที
สำหรับผู้ที่เพิ่งมาถึงออสเตรเลีย เอกสารยืนยันตัวตนจะแตกต่างไปเล็กน้อย
มารีแองเจลา สตักนิติช่วยผู้อพยพทำธุรกรรมกับธนาคารมาหลายปี เธอกล่าวว่า
“หากคุณเพิ่งมาถึง คุณมีหนังสือเดินทาง มีวันที่เดินทางมาถึงในวีซ่า คุณจะต้องมีสำเนาวีซ่าของคุณเพื่อยืนยันว่าคุณอยู่ที่นี่อย่างถูกกฎหมาย อาจเป็นกระดาษหรืออีเมลยืนยันว่าคุณอยู่ที่นี่ด้วยวีซ่าทำงานและท่องเที่ยว หากคุณเป็นนักเรียน คุณจะสามารถเปิดบัญชีธนาคารสำหรับนักเรียนได้”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
'4 แบงก์ใหญ่' ตบเท้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลาง
อย่างไรก็ตาม หากคุณมาที่นี่เพื่อท่องเที่ยว คุณจะไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้
ผู้ที่เพิ่งมาถึงต้องลงทะเบียนรับหมายเลขผู้เสียภาษี (tax file number) กับสำนักงานภาษีแห่งออสเตรเลีย (Australian Taxation Office) และให้รายละเอียดนี้กับธนาคารภายใน 30 วันหลังเปิดบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับผู้ที่ไม่ได้พำนักในออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการโอนเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีในออสเตรเลีย เนื่องจากอาจมีค่าธรรมเนียม
“มีค่าธรรมเนียมสำหรับการแลกสกุลเงินสด ค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินต่างสกุลเงิน เรียกว่าการโอนเงินทางโทรเลขจากต่างประเทศเข้าบัญชีเป็นดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอัตราที่แตกต่างกัน หากคุณมีบัตรและคุณเบิกเงินสดจากบัตรของธนาคารต่างประเทศ จะมีอัตราแลกเปลี่ยนเช่นกัน”
เมกกินสันเสริมว่า หากคุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมกับบัญชีรายวัน คุณควรมองหาข้อเสนอที่ดี มีหลายธนาคารที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมส่วนนี้
“ไม่ควรต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกับการทำธุรกรรม เพราะจะเป็นกำไรให้กับธนาคาร บัญชีรายวันที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงมักให้คุณหักค่าธรรมเนียมได้ อาจมีค่าธรรมเนียม $10 ต่อเดือน แต่ตราบใดที่คุณตรงตามคุณลักษณะที่กำหนด คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียม คุณอาจต้องเพิ่มเงินออมหรืออาจไม่สามารถถอนเงินได้ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีของธนาคารที่คุณเลือกตรงตามความต้องการของคุณ”
หลายธนาคารอนุญาตให้คุณสามารถเปิดบัญชีธนาคารล่วงหน้าก่อนเดินทางมาออสเตรเลียได้ และให้คุณยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคาร เมื่อคุณมาถึง
นับเป็นอีกหนทางหนึ่งในการเปิดบัญชีธนาคารที่ออสเตรเลีย
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สแกมระบาดหนักในออสเตรเลีย ผู้คนสูญเงินไปกว่า 480 ล้านเหรียญ