กองทุนเงินเกษียณหรือเรียกกันในนามว่า “ซุปเปอร์” เป็นเงินส่วนหนึ่งของรายได้ของคุณที่เก็บไว้เป็นทุนเพื่อการเกษียณของคุณ การประกันเงินซุปเปอร์คือเงินที่คิดเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำจากรายได้ของคุณที่นายจ้างของคุณต้องจ่ายเข้ากองทุนเงินเกษียณของคุณ
อัตราการประกันเงินซุปเปอร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกรกฎาคม 2021
ผู้ใดที่มีรายได้มากกว่า $450 ดอลล่าร์ต่อเดือนก่อนหักภาษี สามารถรับเงินซุปเปอร์จากนายจ้างได้
แต่คุณราเชส บาฟซาร์ ที่ปรึกษาด้านการเงินของกลุ่มบริษัทฟอร์จูน เวลท์ ครีเอชั่นในเมลเบิร์นกังวลว่า ผู้อพยพใหม่ส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับระบบกองทุนเงินเกษียณเพียงเล็กน้อย
เงินซุปเปอร์ในออสเตรเลียเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน ผู้อพยพส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจ จริงๆ แล้วหากคุณทำงานในออสเตรเลีย ตามกฎหมายแล้วนายจ้างต้องจ่ายเงินซุปเปอร์ 9.5% จากเงินเดือนของคุณ จากนั้นจะเพิ่มเป็น 10% และจากนั้นจะเป็น 12% ภายในปีการเงิน 2026
นายบาฟซาร์กล่าวว่าหลายคนอาจมีกองทุนเงินเกษียณมากกว่าหนึ่ง ซึ่งตามที่กรมสรรพากรออสเตรเลียระบุ กรณีนี้มีอยู่ประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ถือกองทุนเงินเกษียณทั้งหมดในออสเตรเลีย
“สำหรับผู้อพยพส่วนมาก พวกเขาไม่คิดว่ากองทุนเงินเกษียณเป็นเครื่องมือในการลงทุน เพราะเมื่อไหร่ที่พวกเขาได้รับเลือกจากนายจ้าง พวกเขาก็รับมัน จากนั้นก็เปลี่ยนงาน พวกเขามีกองทุนเงินเกษียณหลายกองทุน บางคนมีสี่หรือห้ากองทุน และกลายเป็นว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูง เพราะพวกเขาถูกเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำ หลายคนมีเงินในกองทุนเหลือแค่ศูนย์ เพราะฉะนั้นเลือกแค่กองทุนเดียว และเมื่อไหร่ที่คุณเปลี่ยนงาน บอกนายจ้างของคุณว่านี่เป็นกองทุนซุปเปอร์ของฉัน”ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 หากลูกจ้างไม่เสนอบัญชีซุปเปอร์เมื่อเปลี่ยนงาน นายจ้างจะจ่ายเงินซุปเปอร์เข้าบัญชีซุปเปอร์ของลูกจ้างที่มีอยู่
ผู้อพยพควรศึกษาเรื่องเงินซุปเปอร์ Source: Helmilightrocket via Getty Image
คุณสามารถถอนเงินจากกองทุนเงินเกษียณของคุณเมื่อคุณปลดเกษียณ อายุครบ 65 ปี หรือด้วยเหตุผลของการขอความเห็นใจ เช่น ทุพพลภาพ การรักษาพยาบาล หรือกรณีที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรง
ข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินแห่งออสเตรเลียเผยว่า คนออสเตรเลีย 4.8 ล้านคนต้องนำเงินซุปเปอร์มาใช้ก่อนเวลาเนื่องจากประสบความลำบากในระหว่างการระบาดของไวรัสโคโรนา
หากคุณต้องถอนเงินออกจากกองทุนเงินเกษียณก่อนเวลา คุณโทนี เนกไลน์ ผู้บริหารกองทุนเงินเกษียณที่ได้รับอนุญาตในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แนะนำว่า การปันเงินเดือนเข้ากองทุนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างเงินออมได้อีกครั้ง
“สมมติว่าผมได้เงินเดือน $40,000 ดอลล่าร์ ผมสามารถบอกนายจ้างว่า คุณช่วยจ่ายเงินฉัน $37,000 ดอลล่าร์เป็นเงินเดือน และอีก $3,000 ดอลล่าร์ คุณช่วยจ่ายเข้ากองทุนเงินเกษียณให้ฉันเพิ่มเติมจากที่คุณต้องจ่ายได้ไหม”
หากคุณมีรายได้น้อย รัฐบาลมีโครงการร่วมจ่ายเงินซุปเปอร์สนับสนุนที่จะเพิ่มเงินออมในวัยเกษียณให้คุณ คุณเนกไลน์กล่าว
ในปีนี้ หากคุณมีรายได้น้อยกว่า $41,000 ดอลล่าร์ต่อปี และคุณปันเงิน $1,000 ดอลล่าร์หลังหักภาษีแล้วจากบัญชีธนาคารส่วนตัวของคุณเอง ตกอยู่ที่ประมาณ $20 ดอลล่าร์ต่ออาทิตย์ หากคุณปันเงินนั้น และคุณบอกสรรพากรว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณทำ สรรพากรจะจ่าย $500 ดอลล่าร์เข้ากองทุนซุปเปอร์ของคุณ
ธนบัติออสเตรเลีย Source: Paul Kane via Getty Images
“คุณขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเมื่อคุณเข้ามาในประเทศ มันสามารถช่วยให้คุณติดต่อกับกรมสรรพากรได้ คุณเข้าอินเทอร์เน็ตแล้วเชื่อมโยงบัญชีของกรมสรรพากรกับบัญชีมายกอฟ (MyGov) ด้วยวิธีนี้คุณสามารถบอกกรมสรรพากรได้ว่า คุณไม่คิดว่านายจ้างของคุณกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง กรมสรรพากรจะทำงานตรวจสอบอยู่เบื้องหลัง”
จากรายงานของสมาคมกองทุนเงินเกษียณแห่งออสเตรเลีย ปัจเจกบุคคลหรือคู่แต่งงานที่อายุประมาณ 65 ปีต้องต้องใช้งบประมาณ $28,179 ดอลล่าร์และ $40,739 ดอลล่าร์ ตามลำดับ เพื่อที่จะดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ หากพวกเขาจะเกษียณอายุวันนี้
แต่ตัวเลขของสำนักงานสถิติในปี 2017-2018 ระบุว่ายอดเงินกองทุนเกษียณเฉลี่ยสำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปอยู่ที่ $168,500 ดอลล่าร์สำหรับผู้ชาย และ $121,300 สำหรับผู้หญิง
แม้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะจ่ายเงินบำนาญสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 66 ปีขึ้นไปและอาศัยอยู่ในประเทศมานานกว่า 10 ปี คุณเบฟซาร์กล่าวว่าจำนวนเงินดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในระหว่างเกษียณ
“คุณต้องใส่เงินของคุณเองเพิ่ม มิฉะนั้นเงินซุปเปอร์ของคุณจะไม่พอกับรายจ่าย และมันเป็นโครงสร้างที่ช่วยประหยัดเงินภาษีมากๆ คุณจะถูกหักภาษีเพียง 15% เทียบกับอัตราภาษีซึ่งสูงถึง 47% หากคุณเป็นคนที่มีรายได้สูง สำหรับคนส่วนใหญ่จะจ่ายอยู่ที่ 34% ใช่ไหม กับเงินซุปเปอร์มันคือ 15% เงินออมเพิ่มเติมนี้สามารถช่วยออมเงินเพื่อการเกษียณของคุณได้เยอะมาก”
คุณฟาดมา ซาอูด ผู้จัดการฝ่ายบริหารธุรกิจของเครสเซสท์ เวลท์ (Crescent Wealth) กองทุนเงินเกษียณอิสลามแห่งเดียวในออสเตรเลีย
เธอสังเกตว่าแรงงานที่มาใหม่หลายคนปล่อยวางเรื่องกองทุนซุปเปอร์
การปล่อยผ่านในเรื่องนี้ หยั่งรากลึกในกลุ่มผู้หญิงหลายคนที่ต้องทำหน้าที่ดูแลบ้าน มากกว่าที่จะทำงานที่ได้รับค่าตอบแทน
ปัจจุบันนี้ผู้หญิงเกษียณอายุด้วยเงินในกองทุนเงินเกษียณที่น้อยกว่าผู้ชาย 47% และนี่อาจเป็นเพราะผู้หญิงต้องสละเวลาออกจากการทำงานเพื่อเลี้ยงดูบุตรมากกว่า และอีก 43% ของผู้หญิงทำงานแบบพาร์ทไทม์ ซึ่งทำให้มีเงินซุปเปอร์น้อยกว่า”
ผู้หญิงที่ต้องทำงานจากที่บ้านและดูแลบุตร Source: Brian Wangen via Unsplash
ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะนั่งเขียนว่า โอเค ฉันอยากได้อะไรจากเงินซุปเปอร์ของฉันบ้าง? จากนั้นไปหากองทุนที่ให้สิ่งเหล่านั้น และยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี
นางซาอูดกล่าวว่า ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมหลายคนหันมาลงทุนกับกองทุนเงินเกษียณของอิสลามด้วยการพิจารณาเหตุผลด้านจริยธรรม โดยเลือกลงทุนในอุตสาหกรรม เช่น การดูแลสุขภาพ การผลิต อสังหาริมทรัพย์ และพลังงานสีเขียว
“เราพบว่ามีครูที่ไม่ใช่คนอิสลามหลายคนเข้าร่วมกองทุนกับเรา เพราะพวกเขาเห็นถึงปัญหาเรื่องเครื่องดื่มมึนเมาและการพนัน ซึ่งเป็นปัญหาของเด็กนักเรียนในชั้นเรียนของพวกเขา”
คุณเนกไลน์กล่าวว่าไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร สิ่งสำคัญคือการออมเงินเพื่อใช้ในการเกษียณของคุณ และไม่ควรลดจำนวนที่คุณเก็บในวันนี้
“เงินของผมจะเพิ่มเป็นสองเท่าในทุกๆ 10 ปี ดังนั้นเงินหลายพันดอลล่าร์ที่ผมใส่ไปวันนี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่า $2,000 ดอลล่าร์ ในอีก 10 ปีจาก $2,000 ดอลล่าร์จะเป็น $4,000 ดอลล่าร์ และในอีก 10 ปีจะเพิ่มจาก $4,000 ดอลล่าร์เป็น $8,000 ดอลล่าร์”
นักวางแผนทางการเงินคุณราเชส เบฟซาร์ แนะนำให้ปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหนึ่งครั้งหรือไปที่เว็บไซต์ มันนี่ สมาร์ท (Money Smart) เพื่อศึกษาเรื่องกองทุนเงินบำนาญด้วยตัวเอง
ควรจริงจังกับเรื่องซุปเปอร์ มันคือส่วนหนึ่งของรายได้ของคุณ และหากคุณไม่เข้าใจ ปรึกษาที่ปรึกษาด้านการเงิน อย่าเพิกเฉยกับมัน เพราะการเพิกเฉยจะทำให้คุณต้องจ่ายในราคาสูงในที่สุด
คุณยังสามารถพูดคุยเรื่องข้อมูลการบริการทางการเงินกับเซอร์วิส ออสเตรเลีย ที่ 131 202 เพื่อรับข้อมูลทางการเงินในภาษาของคุณได้ฟรี
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่