LISTEN TO
เคล็ดลับสำหรับการย้ายไปอยู่ย่านชนบทแถบทะเลหรือบนหุบเขา
SBS Thai
01/03/202110:25
การย้ายไปอยู่ย่านชนบทแถบทะเลหรือบนหุบเขาเป็นความฝันของคนเกษียณอายุในออสเตรเลียที่มองหาวิถีชีวิตที่ช้าลงและผ่อนคลายในชุมชนแถบชายทะเลหรือชุมชนย่านชนบท ดูเหมือนว่าโควิด 19 ช่วยให้คนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิติของออสเตรเลียที่พบว่ามีการขาดทุนสุทธิครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในไตรมาสของเดือนกันยายนที่ผ่านมาในเมืองใหญ่ๆ ด้วยประชากรกว่า 11,000 คนที่ย้ายไปอยู่เมืองชนบท คุณอาจต้องทบทวนประเด็นต่อไปนี้หากคุณกำลังคิดว่าจะย้ายถิ่นฐาน
การย้ายไปอยู่แถบชนบทมักจะหมายถึงการอพยพครั้งใหญ่จากชุมชนที่คุณกำลังอาศัยอยู่ไปสู่ชุมชนที่เล็กลงใกล้แถบชายฝั่งทะเลหรือชุมชนในแถบที่ไกลออกไป
ของศูนย์ประชากรพบว่าผู้อพยพต่างชาติเอื้อต่อการเติบโตของประชากรในย่านชนบท 26% ในระหว่างปี ค.ศ. 1996-2016
ในบางเขต ผู้อพยพต่างชาติมีส่วนต่อการเติบโตของประชากรเกินกว่าครึ่งหนึ่งคุณแคโรไลน์ คาเมนรอน โค้ชสอนการย้ายถิ่นสู่แถบชายทะเลไม่ประหลาดใจที่ประชากรที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมจะร่วมสมทบกับการเคลื่อนไหวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
คู่รักเดินชมธรรมชาติในป่า Source: Getty Images
ไม่ว่าพวกเขาจะมาถึงเมื่อสามเดือนที่แล้ว สิบปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขามักจะอาศัยอยู่แถบชนบท เพราะราคาบ้านสามารถซื้อได้ และมีโอกาสในการทำงานและการดำเนินชีวิตที่หลากหลาย ดังนั้นเราจะเห็นชุมชนเล็กๆ ในชนบทมีเปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษมากกว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตัวเลขจากสำนักงานสถิติของออสเตรเลียเผยว่าเมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียประสบกับปัญหาการสูญเสียประชากรครั้งใหญ่สาเหตุจากการย้ายถิ่นฐานในประเทศในไตรมาสของเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้นเป็นผลจากโควิด 19
รัฐควีนส์แลนด์มีประชากรที่ย้ายถิ่นฐานภายในประเทศย้ายมา 7,200 คนในไตรมาสเดียวกัน ซึ่งมากกว่ารัฐและเขตแดนอื่น
นางเมลิสซา เชมบรี ตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ย่านซันไชน์ โคสต์ บริษัทเน็กซ์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป กล่าวว่าเธอได้รับการสอบถามเกี่ยวเรื่องอสังหาริมทรัพย์ย่านชายทะเลจำนวนมากเป็นปรากฎการณ์จากคนที่อยู่ในย่านตัวเมืองจากรัฐวิกตอเรีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ บริสเบน และชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาอยู่
ฉันคิดว่าหลายคนรู้ว่าเขาสามารถทำงานแบบทางไกลได้ หรือพวกเขาวางแผนที่จะย้ายมาหลายปีแล้ว และโควิดทำให้พวกเขาตัดสินใจทำมัน
เต่าที่ชายทะเล Source: Getty Images
คุณคาเมรอนเชื่อว่าการหาข้อมูลที่ละเอียดตั้งแต่แรกจะป้องกันความเสียใจจากการย้ายไปอยู่ในย่านที่ไม่ชอบ
แม้ว่าโควิด-19 อาจจำกัดความสามารถของคุณที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ที่คุณต้องการย้ายไปอยู่ เธอแนะนำว่าการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนด้วยวิธีการอื่นจะทำให้ทราบว่าชุมชนนั้นยินดีต้อนรับหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจโทรหรือพูดคุยกับหน่วยบริการลูกค้าที่เทศบาลท้องถิ่น หรือสอบถามกับศูนย์ข้อมูลผู้เยี่ยมชมและพูดว่า ‘เอาล่ะ เรากำลังคิดที่จะย้ายมาที่ชุมชนของคุณ และเราอยากพูดคุยกับคนท้องถิ่นที่รู้เรื่องนี้ดี คุณจะแนะนำให้ฉันโทรหาใครดี?'
สำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่ที่ไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษหรือมีความเชื่อเฉพาะกลุ่ม เธอแนะนำให้หาชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยที่มีวัฒนธรรมเดียวกันกับคุณ
ดังนั้นหากคุณพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง และคุณรู้สึกไม่มั่นใจ ฉันจะมองหาชุมชนที่มีคนพูดภาษาเดียวกับคุณและเข้าใจพื้นฐานด้านวัฒนธรรมของคุณอย่างแน่นอน
ดร.ฟาร์วาแดน ดาลิรี ประติมากรผู้ลี้ภัยจากอิหร่าน ลัทธิบาไฮ มาตั้งถิ่นฐานที่ทาวน์สวิลล์และมีความสุข หลังการเดินทางอพยพชั่วคราวและยาวไกลในอินเดีย เมลเบิร์น และแทสเมเนีย
ตอนนี้เขาตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทาวน์สวิลล์เพื่อช่วยผู้อพยพใหม่ตั้งถิ่นฐานในชุมชนที่เขารักดร.ดาริลี กล่าวว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีสำหรับคนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภาษาที่จะย้ายไปอยู่ในเมืองเล็กๆ บางเมืองต้องประสบปัญหาการขาดแคลนประชากรในปีที่ผ่านมา
ดร ฟาวาร์ดิน ดาลิริ กล่าวว่าผู้คนในแถบภูมิภาครู้จักกันและกัน Source: Favardin Daliri
ออสเตรเลียมีสิ่งดีๆ มากมาย เรามีสิ่งที่ดีที่สุดในโลกในในชุมชนของเรา ชุมชนที่มีเอกลักษณ์ และโอกาสในการทำกิจกรรมสันทนาการที่มีคุณค่าต่อชีวิตของคน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการจังหวะที่ช้าลง การทำงานที่น้อยลง และการเกษียณด้วย
จากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมลเบิร์นเป็นเวลาสองปีในการเริ่มต้นชีวิตของเขาในออสเตรเลีย ดร.ดาริลี เชื่อว่าการเชื่อมความสัมพันธ์กับชุมชนเล็กๆ นั้นทำได้ง่ายกว่า
การตั้งถิ่นฐานในบริเวณเหล่านั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับคนทื่เคยอาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลลส์หรือรัฐวิกตอเรีย เพราะผู้คนจะรู้จักคุณได้ง่าย คุณจะรู้จักพวกเขา คุณจะได้ยินคนพูด “สวัสดี สบายดีไหม?” คุณจะไม่ถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิงเหมือนในเมืองใหญ่ๆ ที่สันโดษ ฉันเคยอยู่ในเมลเบิร์นมาสองปี ฉันไม่รู้เลยว่าเพื่อนบ้านของฉันชื่ออะไร
คุณแคโรไลน์ คาเมรอนกล่าวว่าการเชื่อมความสัมพันธ์และการรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของเป็นส่วนสำคัญในการย้ายไปอยู่ย่านชนบท
มันมักเริ่มจากความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมกับชุมชนใหม่ของคุณ
ถ้าคุณมีภาษาอังกฤษที่พอใช้ แต่แค่คุณไม่มั่นใจ หนึ่งในสิ่งที่ดีของการย้ายไปอยู่ในชุมชนใหม่คือการพยายามที่จะมีส่วนร่วมกับชุมชนนั้นอย่างแท้จริง หาสิ่งที่คุณสนใจในที่ที่คุณสามารถทำงานอาสาสมัครได้ ความโดดเดี่ยวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหากคุณไม่พยายามออกจากบ้านให้ได้
หากคุณไม่สามารถหาคนที่จะแบ่งปันเรื่องวัฒนธรรมและภาษาด้วยได้ หาคนที่มีงานอดิเรกหรือมีความสนใจคล้ายคุณจะช่วยให้คุณตั้งตัวได้ง่ายขึ้น
หากคุณยอมรับคนอื่นในแบบที่เขาเป็น โดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานด้านวัฒนธรรมและภาษาของพวกเขา พวกเขาจะยินดีมากและจะยอมรับคุณในแบบที่คุณเป็น
พ่อแม่ของคุณเมลิสซา เชมบรี ตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นรุ่นที่สองของเชื้อชาติมัลทีส-ออสเตรเลียนที่อาศัยอยู่ในแม็กเคย์เกือบตลอดชีวิต
ถึงแม้ว่าครอบครัวจะอยู่ไกลกันเกือบ 900 กิโลเมตร นางเชมบรีกล่าวว่าพ่อแม่ของเธอลังเลที่จะตัดความสัมพันธ์จากชุมชนที่มั่นคงเพื่อที่จะย้ายมาอยู่ใกล้กับเธอที่มารูคีดอร์แต่การมาเยี่ยมครั้งล่าสุด พ่อและแม่ของเธอที่เกษียณแล้วได้มีเพื่อนใหม่เกือบ 40 คนภายในหนึ่งสัปดาห์
ผู้หญิงยืนชมทะเลที่หาดเบลส์ บีช (Bells Beach) Source: Getty Images
นางเชมบรีที่เป็นโค้ชเชื่อว่าการเชื่อมความสัมพันธ์กับคนมัลทีส-ออสเตรเลียนผ่านทางโซเชียล มีเดีย การเข้าร่วมกิจกรรมในท้องถิ่น และการเข้าร่วมกลุ่มทางสังคมที่คนมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน
มีหลายวิธีที่จะปรับให้เข้ากับชุมชน มันแค่ต้องใช้ความพยายามที่จะหาว่าความชอบของคุณคืออะไร และเข้าร่วมกลุ่มงานอดิเรกเหล่านั้น แค่เริ่มด้วยการเข้าร่วมกิจกรรม และคุณต้องเอาตัวคุณไปอยู่ตรงนั้น กล้าหาญไว้ คุยกับคนแปลกหน้าใหม่ๆ รางวัลมันอยู่ตรงนั้นถ้าคุณมีความกล้าที่จะทำมัน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้ท่านพลาดสถานการณ์ล่าสุด
นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับฟังข่าวสารล่าสุดเป็นภาษาไทยผ่านทางวิทยุออนไลน์ได้ที่แอปฯ SBS Radio
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
กฎหมายเก็บค่าแสดงเนื้อหาข่าวส่งผลต่อโลกโซเชียลอย่างไร