ประเด็นสำคัญ
- ที่พักรวมเป็นที่พักอาศัยที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน มาอยู่อาศัยร่วมกัน
- ค่าครองชีพที่สูงขึ้นส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากต้องมองหาที่พักรวมเพื่ออยู่อาศัย
- การตรวจสอบทรัพย์สินและตัวตนของบุคคลที่ให้เช่าที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่สำคัญ
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพที่แย่ลงเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากขึ้นกำลังมองหาที่พักรวม
สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) ให้คำจำกัดความของที่พักรวมว่าเป็นที่พักอาศัยที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกันทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย และมีอายุ 15 ปีขึ้นไป มาอยู่อาศัยร่วมกัน
ผู้จัดการชุมชน Flatmates ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชี่ยวชาญในการเชื่อมโยงบุคคลที่กำลังมองหาที่พักรวม คุณ คลอเดีย คอนลีย์ อธิบายความหมายของที่พักรวมว่า
"แชร์เฮาส์หรือที่พักรวม เป็นบ้านที่มีคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันและไม่ได้เป็นคู่รัก อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันและร่วมกันจ่ายค่าเช่า หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวกับที่พักอาศัย เป็นต้น"
It's not only younger people who are seeking shared accommodation. Credit: Klaus Vedfelt/Getty Images
“ความเชื่อแบบเหมารวมว่ากลุ่มคนที่อยู่แบบแชร์เฮาส์คือคนหนุ่มสาวที่อายุต่ำกว่า 35 ปี แต่ในความเป็นจริงแล้วพบว่า ในปีที่ผ่านมา มีอัตราของสมาชิกคนหนุ่มสาวที่อาศัยในที่พักรวมประชากรลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ และขณะเดียวกันมีกลุ่มสมาชิกของเราที่มีอายุเกิน 55 ปีเพิ่มขึ้น10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเรามีเจ้าของบ้านที่เข้าสู่ตลาดโดยให้เช่า ห้องว่างในบ้านของพวกเขา เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าดอกเบี้ยบ้านที่เพิ่มขึ้น”
ความยากลำบากทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ชาวออสเตรเลียจำนวนมากต้องลดค่าใช้จ่ายลงและมองหาทางเลือกอื่นที่ประหยัดมากขึ้น คุณ คลาวเดีย เปิดเผย ว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ที่พักรวมได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ฉันคิดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยร่วมได้พุ่งสูงขึ้นมาก นั่นเป็นเพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้นและเนื่องจากวิกฤตค่าเช่า อย่างไรก็ตามการอาศัยในแชร์เฮาส์ หรือที่พักรวมก็ยังคงแพงสำหรับหลายๆ คนอย่างเห็นได้ชัด และมันก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนกับการเช่าเดี่ยวสักเท่าไหร่ แต่ข้อดีคือที่อยู่อาศับประเภทนี้ มีราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับการเช่าแบบเดิม”
ไม่เพียงแต่บุคคลที่ประสบปัญหาทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ย้ายถิ่นฐานหน้าใหม่ในออสเตรเลีย ที่ยังไม่มีประวัติการเช่าด้วย
Rising cost of living means that more people are seeking to share a house with others. Credit: Rafael Ben-Ari/Getty Images
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่ ยิ่งพวกเขาไม่มีประวัติการเช่า พวกเขาก็มีความท้าทายในการหาที่พักมากขึ้น และต้องมองหาที่พักรวมแทน”
คุณ เคนดัล กล่าวว่าอุปสงค์และอุปทานเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ที่พักรวมเป็นทางเลือกที่มีเป็นไปได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่พักในตลาดการเช่าที่มีการแข่งขันสูง
“ถ้าเราลงโฆษณาบ้านในตลาด ในช่วงสัปดาห์แรก มักจะมีคนส่งใบสมัครมามากถึง 40 ถึง 100 คน และนั่นทำให้ เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานหน้าใหม่ และรวมถึงคนที่ขายบ้านและย้ายไปเช่าบ้านแทน เพราะไม่มีความสามารถในการจ่ายค่าดอกเบี้ยได้”
Navigating the shared housing market can be challenging, especially with the increasing prevalence of scams targeting potential tenants.
การแชร์บ้านในตลาดบ้านเช่าแบบทั่วไป
สำหรับผู้เช่าที่เช่าบ้านอยู่แล้วสามารถปล่อยห้องที่เหลือให้เช่าเพื่อแบ่งเบาค่าเช่าบ้านทั้งหมดได้ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าของบ้านก่อน
“อาจมีผู้เช่าหลักหนึ่งรายหรือหลายรายก็ได้ ที่สำคัญพวกเขาจะต้องชำระค่าเช่าให้ตรงเวลา และนั่นคือเงื่อนไขของการเช่าช่วงหรือ sublet ผู้เช่าหลักจะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง และต้องเป็นคนสื่อสารกับเอเจนท์ของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ ”
เมื่อเจ้าของบ้านแชร์บ้านของตนเองในขณะที่ตนเองได้พักอาศัยในบ้านนั้นด้วย เจ้าของบ้านจะต้องรับผิดชอบในการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานทั้งหมด
"ที่อยู่อาศัยนั้น ควรมีห้องครัวแยก ห้องน้ำแยก และมีข้อกำหนดในการทำความสะอาด ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันเพื่อทำให้บ้านน่าอยู่"
การแก้ไขข้อพิพิพาท
การแก้ไขข้อพิพาทโดยทันทีถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาบรรยากาศของที่พักรวมให้สงบและน่าอยู่สำหรับผู้อยู่อาศัยทุกคน
คุณ คอนลีย์ แนะนำว่า ให้ผู้เช่าและเจ้าของบ้านทำสัญญาตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทใดๆที่อาจเกิดขึ้น
“แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายได้บันทึกทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระยะเวลาอาศัยในที่พักนี้ อัตราค่าเช่า ข้อตกลงเกี่ยวกับสิ่งของเสียหาย และให้ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงดังกล่าว”
Serious mature couple receive professional advice Credit: JohnnyGreig/Getty Images
มิจฉาชีพกับการมองหาที่พักรวม
การหาที่พักรวมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีมิจฉาชีพจ้องที่จะใช้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้
คุณ คอนลีย์ ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณอาจเจอการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ แต่มีข้อพึงระวังที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้
“หากมีคนส่งข้อความหาคุณทางออนไลน์และเสนออพาร์ทเมนท์เพนต์เฮาส์ที่ดูดีในเมลเบิร์นพร้อมวิวเมืองและเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ และทั้งหมดนี้ ราคา $200 ต่อสัปดาห์ มันฟังดูดีเกินจริง และนั่นอาจเป็นการหลอกลวง”
คุณคอนลี่ย์ แนะนำว่า คุณควรระมัดระวังมากขึ้น เมื่อต้องติดต่อกับบุคคลที่เสนอสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ใดๆ ที่ไม่มีการพบปะตัวต่อตัว
หากพวกเขาเลี่ยงพบคุณโดยใช้เหตุผลร้อยแปด นั่นอาจเป็นกลโกงและคุณต้องระวังคุณ คลอเดีย คอนลีย์ ผู้จัดการชุมชน Flatmates
คุณ คอนลีย์ ให้คำแนะนำอีกประการว่า มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องตรวจสอบทรัพย์สินและตัวตนของบุคคลที่คุณกำลังติดต่อด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่วางแผนจะย้ายมาอาศัยในออสเตรเลีย
“อาจเป็นเรื่องยากเพราะคุณต้องวางแผนจัดเตรียมที่อยู่อาศัยก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึงออสเตรเลีย แต่จากมุมมองของเรา การตรวจสอบให้แน่ใจ เป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อช่วยป้องกันการหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่อาจเกิดขึ้น”
คุณสามารถ Subscribe or follow พอดคาสต์ ของสารคดี Australia Explained สำหรับข้อมูลทีมีประโยชน์ในการอาศัยในออสเตรเลีย
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่