เจสส์พบความเป็นไปได้ที่จะซื้อบ้านจากรายได้ของคนโสดนั้น ‘น่าใจหายอย่างยิ่ง’
เธอได้ไปร่วมการประมูลบ้านนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละครั้งก็รายล้อมไปด้วยคู่ครองและครอบครัว ซึ่งทำให้เธอตระหนักอย่างยิ่งว่า เธอไม่มี 'ตาข่ายนิรภัย' (safety net) หรือการรับประกันความปลอดภัยทางการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตตามลำพัง รวมทั้งสินเชื่อซื้อบ้าน
ข้าราชการวัย 36 ปีผู้นี้ มีรายได้กว่า 120,000 ดอลลาร์ต่อปี และแม้จะมีเงินเดือนสูงกว่าระดับเงินเดือนโดยเฉลี่ย แต่เธอกล่าวว่า ที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ (mortgage broker) บอกว่า ‘เธอต้องยอมเสียบางอย่าง’
“ฉันคิดว่า ความเป็นจริงคือคนโสดที่อายุน้อย ๆ ต้องเลือกระหว่างที่ที่พวกเขาจะอาศัยอยู่ จะใช้จ่ายเงินอย่างไร และสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาต้องการในชีวิต” เจสส์ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมลเบิร์น บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
“และถ้าเป็นบ้าน นั่นก็ดี คุณคิดแบบนั้นได้ แต่ถ้าการท่องเที่ยวสำคัญสำหรับคุณ หรือการเริ่มต้นครอบครัวตามลำพังสำคัญสำหรับคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณก็ไม่สามารถมีทุกอย่างได้”
“เขาบอกฉันว่า ฉันต้องเลือกและนั่นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก”
นั่นเป็นทางเลือกที่กำลังยากขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา (7 พ.ย.) เนื่องจากธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (หรือดอกเบี้ยนโยบาย) ให้สูงขึ้น 0.25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 4.35 เปอร์เซ็นต์
การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลกระทบสำหรับผู้คนที่มีสินเชื่อบ้าน โดยสำหรับเงินกู้ 590,000 ดอลลาร์ เงินที่ต้องชำระรายเดือนได้เพิ่มขึ้นราว 1,345 ดอลลาร์ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว จากข้อมูลของ ไฟน์เดอร์ (Finder) เว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงิน
สำหรับคนโสดอย่างเจสส์ ความฝันในการซื้อบ้านหลังแรกของพวกเขานั้นยิ่งไกลเกินเอื้อมออกไปอีก
อัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้ความสามารถในการกู้ยืม (borrowing capacity) ของเจสส์ลดลงราว 150,000 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น จึงทำให้เธอต้องนำความฝันที่จะเป็นเจ้าของบ้านเก็บพักเอาไว้ก่อน
ดังนั้น ยังเป็นไปได้อยู่ไหมที่คุณจะซื้อบ้านตามลำพังในออสเตรเลีย?
คุณต้องมีรายได้เท่าไหร่จึงจะซื้อบ้านสักหลังได้ในออสเตรเลีย?
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยไฟน์เดอร์ (Finder) หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันอังคาร ประมาณการว่าผู้คนในออสเตรเลียจำเป็นต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 182,000 ดอลลาร์ จึงจะมีเงินพอซื้อบ้านในราคามัธยฐานทั่วประเทศ
กราฟแสดงราคามัธยฐาน (median price) ของบ้านในนครหลวงต่าง ๆ ในออสเตรเลีย และรายได้รายปีที่จำเป็นต้องมีจึงจะซื้อบ้านราคาระดับนี้ได้ Source: SBS
ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย (Housing Affordability) มีมากที่สุดในเพิร์ทและดาร์วิน โดยรายได้ 116,125 ดอลลาร์ จะทำให้คุณสามารถซื้อบ้านในราคาเฉลี่ย 590,000 ดอลลาร์ได้ โดยคำนวณจากการที่ผู้ซื้อมีเงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์
ใครบ้างที่มีรายได้พอซื้อบ้าน?
รายงานเดือนกันยายนโดยกลุ่มวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ พร็อพ แทร็ก (PropTrack) วาดภาพที่น่ากลัวไม่แพ้กันสำหรับผู้คนในออสเตรเลียที่หวังจะเป็นเจ้าของบ้านหลังแรก
คุณ แองกัส มัวร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ พร็อพ แทร็ก บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า ความท้าทายด้านความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย (Housing Affordability) เลวร้ายที่สุดในรอบสามทศวรรษ
“ไม่ว่ารายได้ของคุณจะเป็นอย่างไร ก็ไม่เคยที่จะมีบ้านจำนวนแค่ไม่กี่หลังขนาดนี้ที่คุณมีเงินพอจะซื้อได้” คุณมัวร์กล่าว
กราฟแสดงราคามัธยฐาน (median price) ของยูนิตในนครหลวงต่าง ๆ ในออสเตรเลีย และรายได้รายปีที่ต้องมีจึงจะสามารถซื้อยูนิตในราคาระดับนี้ได้ Source: SBS
ครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีรายได้ 64,000 ดอลลาร์ต่อปี สามารถซื้อบ้านได้เพียง 3 เปอร์เซ็นต์
“ผมคิดว่านั่นชี้ให้เห็นว่า มันยากมากที่จะมีรายได้พอจะซื้อบ้านได้ในขณะนี้ และความสามารถในการซื้อหาที่อยู่อาศัยถูกกดดันอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราดอกเบี้ยอย่างที่เราได้เห็น” คุณมัวร์ กล่าว
ในขณะเดียวกัน ราคาบ้าน “ยังคงความสามารถฟื้นตัวกลับได้อย่างน่าทึ่ง" และเพิ่มขึ้น 4.9 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศ แม้อัตราดอกเบี้ยจะสูง โดยราคาบ้านในซิดนีย์เพิ่มขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์ และเพิร์ทเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในรอบปีที่ผ่านมา
คุณมัวร์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ย ราคาบ้านที่เป็นเช่นนี้จึง "แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด" และในขณะที่ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้น ความสามารถในการกู้ยืมของประชาชนจึงหดลง
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2022 ได้ลดความสามารถในการกู้ยืม (borrowing capacity) ลง 30 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 24 เดือน โดยการเติบโตของค่าจ้างยังคงตามไม่ทันการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ผู้ซื้อบ้านหลังแรกจะเข้าสู่ตลาดที่อยู่อาศัยได้อย่างไร?
รองศาสตราจารย์ เบ็น ฟิลลิปส์ จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (เอเอ็นยู) กล่าวว่า ในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก
“มันยังคงเป็นสมการที่ท้าทายสำหรับคนหนุ่มสาวและโดยเฉพาะคนโสด มันเป็นเรื่องที่ยากมานานแล้ว” รศ.ฟิลลิปส์ กล่าว
เขากล่าวว่าปัญหาอีกประการหนึ่งคือความแตกต่างด้านเงินดาวน์ แต่หากผู้คนสามารถสะสมเงินทุนมาได้หรือได้การสนับสนุนจากครอบครัวสำหรับเงินดาวน์ ก็จะมีทางเลือกอยู่บ้าง”
“สำหรับบางคน มันอาจจะต้องเป็นการลดความคาดหวังลง คุณอาจต้องย้ายออกไปอยู่ไกลหน่อย หรืออาจซื้อบ้านที่เป็นยูนิตหลังเล็กลง” รศ.ฟิลลิปส์ กล่าว
"หากคุณอยู่ในเมลเบิร์นหรือซิดนีย์ คำแนะนำที่จะเป็นประโยชน์คือ อย่าซื้อในระดับราคาสูงสุดของความสามารถในการกู้ยืมของคุณ แต่ให้ลดระดับราคาลงมา ผมคิดว่านั่นจะเป็นการลงทุนที่เหมาะสมหากคุณมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำได้"
แม้ว่าการเติบโตของค่าจ้างจะค่อย ๆ ชดเชยการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยบางส่วน แต่คุณมัวร์กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วออสเตรเลียจำเป็นต้องก่อสร้างบ้านเพิ่ม
“มีหลายสิ่งที่เราสามารถทำได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจำเป็นต้องก่อสร้างบ้านเพิ่มเติมในที่ที่ผู้คนต้องการอาศัยอยู่” คุณมัวร์กล่าว
“เหตุผลที่บ้านมีราคาแพงมากในออสเตรเลียก็เพราะว่ามีจำนวนไม่มากเท่าที่ผู้คนต้องการ การหาบ้านจึงยากมาก"
“ดังนั้นทางออกเดียวที่ยั่งยืนในระยะยาวสำหรับความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยคือการสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในที่ที่ผู้คนต้องการอยู่อาศัย”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทางออกผู้ติดคุกเงินกู้ซื้อบ้าน (Mortgage Prison)
