ชาวรัฐวิกตอเรียเตรียมต้อนรับฤดูร้อนอัน “แสนวิเศษ” หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ครั้งใหญ่นับตั้งแต่เกิดภาวะโรคระบาด
ตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) รัฐวิกตอเรียยกเลิกมาตรการจำกัดเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผลอยู่ก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมด พร้อมกับที่ประชากรวัย 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเข้าใกล้ร้อยละ 90
วันศุกร์นี้ ชาววิกตอเรียที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสกลับไปเต้นในสถานบันเทิงได้แล้ว นอกจากนี้ยังยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้มาเยี่ยมบ้าน รวมทั้งยกเลิกมาตรการจำกัดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการร้านกาแฟ ผับบาร์ และร้านอาหาร (hospitality venues) โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่อเข้ารับบริการ
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ตอนนี้ผ่อนคลายกฎระเบียบ “เกือบทั้งหมด” ได้แล้วเนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของรัฐวิกตอเรียอยู่ในระดับสูง
“คุณจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ” นายแอนดรูส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.)
“รัฐวิกตอเรียไม่เหมือนท้องที่อื่นใดในประเทศ เราได้มาซึ่งเสรีภาพนี้แล้ว”ร้านค้าปลีกที่ไม่จัดอยู่ในประเภทกิจการจำเป็นสามารถเปิดประตูต้อนรับลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบแล้วได้ กล่าวคือ เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าใช้บริการร้านค้าเหล่านี้ เว้นแต่เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 12 ปี 2 เดือน หรือได้รับอนุญาตยกเว้นอย่างถูกต้อง
People are seen crossing Bourke Street Mall in Melbourne. Source: AAP
แม้ว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่อเข้าใช้บริการสถานประกอบการธุรกิจบริการ (hospitality venues) พนักงานยังต้องสวมหน้ากากเช่นเดิม
ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากในสถานที่ทำงาน เช่น สำนักงานต่าง ๆ แต่ยังต้องสวมหน้ากากในโรงเรียนประถมศึกษา สถานประกอบการด้านสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ หรืองานยุติธรรม
ทั้งนี้ ยังคงต้องสวมหน้ากากเมื่อใช้ขนส่งสาธารณะ บริการรถรับจ้าง (ride-share) หรือรถแท็กซี่ และต้องสวมหน้ากากต่อไปอีกระยะหนึ่งเมื่ออยู่ในห้างร้านค้าปลีก
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับบูสเตอร์ช็อตหลังพบเชื้อสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน
งานอีเวนต์ในร่มรองรับผู้ชมได้สูงสุด 30,000 คน โดยต้องขออนุญาตก่อนครั้งหนึ่งหากจำนวนเกินจากนี้
งานอีเวนต์กลางแจ้งรองรับผู้ร่วมงานเกิน 30,000 คนได้หากออกแผนความปลอดภัยในสถานการณ์โควิด (COVID-Safe plan) ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันคริกเก็ตวันบ็อกซิงเดย์ (Boxing Day Test) และการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพน (Australian Open) สามารถจัดได้โดยรองรับผู้ชมเต็มความจุหากได้รับอนุมัติแล้ว
ระเบียบด้านการกักโรคมีข้อเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ผู้มีผลตรวจโควิดเป็นบวกต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 10 วัน จากเดิม 14 วัน
ผู้ติดเชื้อมีหน้าที่ติดต่อคนที่ตนพบปะก่อนได้รับผลวินิจฉัย รวมถึงที่ทำงาน โรงเรียน หรือสถานดูแลเด็กเล็ก เนื่องจากฝ่ายงานสาธารณสุขของรัฐจะไม่บริหารจัดการติดต่อผู้สัมผัสโรคอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางการยังอาจกำหนดระยะเวลากักตัวตามแต่ละกรณี แต่จะไม่มีการเผยแพร่รายชื่อสถานที่เสี่ยงสัมผัสโรคแล้ว
ผู้สัมผัสใกล้ชิดนอกครัวเรือนของผู้ติดเชื้อที่ยืนยันผลแล้วยังคงต้องไปตรวจหาเชื้อและแยกตัวจากผู้อื่น (isolate) จนกว่าจะมีผลตรวจเป็นลบ แต่ไม่จำเป็นต้องกักตัวตามกำหนดระยะเวลา (self-quarantine)
ระยะแยกตัวจากผู้อื่นสำหรับผู้สัมผัสภายในบ้านเดียวกันที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7 วัน
นายเบน โควีย์ (Ben Cowie) รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่าจะมี “ระยะปรับตัว” ระหว่างที่ประชาชนเริ่มสร้างความคุ้นชินกับมาตรการใหม่นี้ พร้อมทั้งเตือนว่าไวรัสนี้จะยังคงติดต่อแพร่เชื้อต่อไป
“เราจะยังเห็นการติดต่อของเชื้อไวรัสเกิดขึ้นต่อไปในชุมชน เหตุการณ์ติดเชื้อกรณีสำคัญ ๆ จะยังคงเกิดขึ้น” นายโควีย์กล่าว
“แต่สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว พวกเขามีความเป็นไปได้น้อยกว่ามากที่จะป่วยหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาล ส่งไปแผนกผู้ป่วยหนัก หรือ...ถึงขั้นเสียชีวิต”
ขณะนี้ รัฐวิกตอเรียมีอัตราการฉีดวัคซีนครบสองโดสครอบคลุมร้อยละ 88 ของประชากรวัย 12 ปีขึ้นไป คาดว่าจะคืบหน้าถึงร้อยละ 90 ช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทางการวิกตอเรียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,007 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 12 รายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีผู้ป่วยโควิดรักษาตัวในโรงพยาบาล 337 คน อยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก 63 คน ใช้เครื่องช่วยหายใจ 34 คน และหายป่วยแล้ว 65 คน
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
แจงเหตุไทยตกขบวนไม่ได้สูตรยารักษาโควิดฟรีจากไฟเซอร์