News in Brief

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงสู่ระดับเดียวกับช่วงโรคระบาด อะไรอยู่เบื้องหลังการร่วงลงครั้งนี้?

ภายใต้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจึงพลอยได้รับผลกระทบนี่ด้วย

AUSTRALIAN DOLLAR STOCK

ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี และอาจทำให้ต้นทุนของสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนบางรายการเพิ่มขึ้น Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากสองประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดศึกการค้า เพิ่มภาษีศุลกากรซึ่งกันและกัน ส่งผลให้ตลาดผันผวนอย่างหนัก

ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 โดยซื้อขายได้เพียง 60.5 เซ็นต์สหรัฐ

การร่วงลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ทั้งหมดเพิ่มอีก 34 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการตอบโต้การจัดเก็บภาษีที่คล้ายกันของสหรัฐฯ

เหตุใดดอลลาร์ออสเตรเลียจึงร่วงลง?

แรงสะเทือนจากจีน

ภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม

แต่ขณะนี้ ภาษีศุลกากรที่ขยายขึ้นของสหรัฐฯ ต่อประเทศพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างจีน กำลังทำให้สกุลเงินหยวนไม่มั่นคง

นักเศรษฐศาสตร์มหภาค เจเน็ต มุย กล่าวว่าจีนกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจระดับ "วิกฤต"

“จีนพยายามกระจายห่วงโซ่อุปทานใหม่ผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว” เธอกล่าวกับรอยเตอร์

โดยทั่วไปแล้ว ดอลลาร์ออสเตรเลียถือเป็นตัวแทนเงินหยวน เนื่องจากการส่งออกของเราขึ้นอยู่กับอำนาจซื้อของจีน

เกร็ก เจริโค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันออสเตรเลีย กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ว่า สกุลเงินทั้งสองเชื่อมโยงกัน ซึ่งหมายความว่าเมื่อเงินหยวนได้รับผลกระทบ ดอลลาร์ออสเตรเลียอาจได้รับผลกระทบ

ผลกระทบแบบซึมซาบ

“การที่โดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมายังสหรัฐฯ หมายความว่าหากสินค้าเหล่านั้นมีราคาเท่าเดิม มูลค่าของสกุลเงินจีนจะต้องลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย” เกร็ก เจริโค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันออสเตรเลีย

ผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างไร


เงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่อ่อนค่าทำให้สินค้าที่นำเข้ามีราคาแพงขึ้น ซึ่งอาจทำให้งบประมาณครัวเรือนตึงตัว

เจริโคกล่าวว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่สุดต่อราคาน้ำมัน ซึ่งขึ้นอยู่กับตลาดโลกโดยสิ้นเชิง

สินค้าในครัวเรือนที่นำเข้าอื่นๆ เช่น สินค้าที่ไม่จำเป็นบางรายการอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องค่าธรรมเนียม ค่าเช่า และค่าดูแลเด็ก

— รายงานเพิ่มเติมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ หรือ และ


Share
Published 5 April 2025 8:31pm
By Cameron Carr
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS


Share this with family and friends