ประเด็นสำคัญ
- เจฟฟ์ แคมป์เบลล์ (Geoff Campbell) ชายวัยเกษียณในรัฐควีนส์แลนด์ ตัดสินใจรูดบัตรเครดิตซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจตัดหญ้า จิมส์ โมววิง (Jim's Mowing) เพื่อรับจ้างตัดหญ้าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022
- เขากลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้ง หลังปัญหาการเงินส่งผลกระทบกับครอบครัว
- ข้อมูลจากแบบสำรวจพบว่า 16% ของผู้รับเงินบำนาญกลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้งหลังเกษียณอายุงาน
เจฟฟ์ แคมป์เบลล์ (Geoff Campbell) ในวัย 79 ปี ได้เริ่มรับจ้างตัดหญ้าทุกวันเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ท่ามกลางแรงกดดันจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
ประชาชนผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์คนนี้บอกว่า เขาใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ของ จิมส์ โมววิง (Jim’s Mowing) ในเดือนพฤษภาคม 2022 เพื่อเติมช่องว่างในตลาดบริการรับจ้างตัดหญ้าระหว่างเมืองแมคเคย์ (Mackay) และเมืองทาวน์สวิลล์ (Townsville) ในรัฐควีนส์แลนด์
คุณแคมป์เบลล์ไม่ใช่คนเดียวที่เจอเรื่องราวในลักษณะนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เกษียณอายุที่กลับมาทำงานอีกครั้งเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนมากเกิดจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงที่ส่งผลกระทบต่อกระเป๋าเงินของประชาชน
ข้อมูลจากแบบสำรวจโดยองค์กรผู้สูงอายุแห่งชาติออสเตรเลีย (National Seniors Australia) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 พบว่าผู้รับเงินบำนาญร้อยละ 16 กลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้งนับตั้งแต่เกษียณอายุงาน และร้อยละ 20 กำลังมีความคิดว่าจะกลับมาทำงาน
สำหรับในกลุ่มนี้ ร้อยละ 60 ระบุว่าพวกเขาเริ่มทำงานด้วยเหตุผลทางการเงิน ส่วนคำตอบที่พบบ่อยที่สุดหลังจากนั้นคือการทำให้ตนเองรู้สึกกระฉับกระเฉง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 15
จากแบบสำรวจขององค์กรผู้สูงอายุแห่งชาติออสเตรเลีย พบว่าผู้รับเงินบำนาญร้อยละ 16 กลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้งนับตั้งแต่เกษียณอายุงาน และร้อยละ 20 กำลังมีความคิดว่าจะกลับมาทำงาน Source: SBS
“เราขายฟาร์มของครอบครัวไป และนั่นก็ไม่ได้ผลดีอะไรเลย” คุณแคมป์เบลกล่าวกับเอสบีเอส นิวส์
“เรามีลูกสาวและลูกเขยอยู่ที่เพิร์ท และพวกเขาก็ได้ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขากำลังคิดว่าจะกลับมาอยู่กับเรา ... แล้วผมเองซึ่งพยายามที่จะเป็นฮีโร่จึงตัดสินใจที่จะซื้อแฟรนไชส์นี้ และดำเนินกิจการต่อไปโดยหวังว่าพวกเขาอาจจะรับช่วงต่อในอนาคต” คุณแคมป์เบลล์เล่า
เจฟฟ์ แคมป์เบลล์ เล่าว่า การตัดหญ้าในสนามหญ้า และได้คืนความภาคภูมิใจให้กับบ้านของผู้คน เป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง Source: Supplied
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ย้ำว่าเขารักการที่ทำให้ตนเองรู้สึกกระฉับกระเฉงผ่านการทำงานที่คุ้มค่า และกล่าวว่าธุรกิจของเขาซึ่งเพิ่งเติบโตจนมีพนักงาน 8 คน มีลูกค้ามาจองล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน
“ตอนสมัยยังเด็กผมทะเลาะกับครอบครัวหลายครั้งเรื่องการตัดหญ้า แต่ตอนนี้ผมรู้สึกสนุกที่ได้ใส่หมวกใบโตและนั่งขับรถตัดหญ้าอยู่ข้างนอกนั่น” คุณแคมป์เบลล์กล่าว
เขาบอกว่าเขาตั้งใจที่จะทำงานต่อไป “ตราบเท่าที่ยังทำได้ ในขณะที่ยังสนุกไปกับมัน”
ผู้สูงวัยในออสเตรเลียได้รับผลกระทบอย่างไรจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
จากแบบสำรวจโดยองค์กรผู้สูงอายุแห่งชาติออสเตรเลีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 พบผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ 90 จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจำนวน 5,700 คน รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการตามให้ทันกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยหนึ่งในนั้นพบ 1 ใน 4 ที่รู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
เอียน เฮนช์กี (Ian Henschke) ประธานบริหารองค์กรผู้สูงอายุแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ ว่าจำนวนผู้สูงอายุในออสเตรเลียที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น “อย่างรุนแรง” คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า
"เราทราบดีว่า สำหรับประชาชนออสเตรเลียราวหนึ่งล้านคน เงินบำนาญเป็นแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียวของพวกเขา" คุณเฮนช์กีกล่าว
"มันลำบากมากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และการเช่าอาศัยก็ลำบากอย่างยิ่ง และมันยากยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้ที่อยู่ตัวคนเดียว"
คุณเฮนช์กี กล่าวว่า ผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ผู้ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนขนาดใหญ่ และผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 50 ปีที่ไม่สามารถเข้าถึงเงินสะสมหลังเกษียณ (เงินซูเปอร์) มีแนวโน้มที่จะประสบความยากลำบากเป็นพิเศษ
เขาเสริมอีกว่าเมื่อผู้มีเงินบำนาญพยายามที่จะกลับไปทำงานหลังจากเกษียณ พวกเขาอาจถูกเก็บภาษีอย่างหนัก
"เรามีระบบประกันสังคมที่ซับซ้อนมากในออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าหากคุณทำงาน คุณจะถูกลงโทษหากคุณกำลังรับเงินบำนาญและทำงานอยู่ ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่กำหนด"
คุณจะหาเงินได้เท่าใดภายในโครงการ Work Bonus Scheme
ในโครงการ Work Bonus Scheme ของรัฐบาลสหพันธรัฐ ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุรับเงินบำนาญสามารถมีรายได้ไม่เกิน 11,800 ดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2022 ถึง 31 ธ.ค. 2023 โดยหลังจากนั้นผู้รับเงินบำนาญจะสามารถมีรายได้ไม่เกิน 7,800 ดอลลาร์
หากผู้รับเงินบำนาญมีรายได้เกินกำหนดของโครงการ Work Bonus Scheme เงินบำนาญของพวกเขาจะลดลงร้อยละ 50 ในทุก ๆ 1 ดอลลาร์ของรายได้ที่เกินกำหนดมา
แพทริเซีย สแปร์โรว์ (Patricia Sparrow) ประธานบริหารของ Council on the Ageing (COTA) กล่าวว่า เกือบร้อยละ 20 ของผู้ชาย และร้อยละ 11 ของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปยังคงอยู่ในตลาดแรงงาน
"ความคิดที่ว่าผู้คนอาจถูกบีบให้ออกจากงานเพราะเหตุผลทางการเงินล้วน ๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล" คุณสแปร์โรว์กล่าว
"ผู้คนสมควรที่จะได้ใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างสุขสบายเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น"
"มันสำคัญมากเช่นกันที่หากชาวออสเตรเลียสูงวัยต้องการทำงานต่อไป หรือกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกครั้ง พวกเขาควรจะทำได้ แต่น่าเสียดายที่บ่อยครั้งเกินไปที่เราเห็นการเหยียดอายุที่ฝังรากลึกและอุปสรรคอื่นๆ เข้ามาขวางทาง"
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจ จาก เอสบีเอส ไทย
เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส จากไม่มีงานจนมีร้านเค้กชื่อดังในเมลเบิร์น