กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. (เวลาของเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย) ในวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม เกิดเหตุขัดข้องทางไอทีครั้งใหญ่ทั่วโลก เมื่อระบบไมโครซอฟท์ (Microsoft) ระบบที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้ในการทำงานแสดงหน้าจอเป็นสีฟ้า พร้อมข้อความระบุว่าระบบขัดข้อง หรือที่เรียกกันว่า ‘จอฟ้าแห่งความตาย (blue screen of death)’
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกับหลายบริษัท รวมถึงธนาคาร สายการบิน และสื่อต่างๆ เป็นวงกว้าง นับเป็นเหตุระบบขัดข้องครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
คนไทยในไมโครซอฟต์แนะวิธีได้งานกับบริษัทเทคฯ ชั้นนำของโลก
ความโกลาหลในออสเตรเลีย
ที่ออสเตรเลีย มีรายงานเหตุขัดข้องที่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น Telstra สำนักข่าวอย่าง ABC และ SBS ธนาคาร NAB, ANZ , และ Bendigo Bank รวมถึงผู้ที่กำลังจับจ่ายใช้สอยที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต
“ระบบล่มทีไรก็จะมีเรื่องให้ปวดหัวทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีคนที่ต้องเดินทางหรือกำลังจับจ่าย ถ้าพวกเขากำลังหิว กำลังจะเดินทาง พวกเขาก็ต้องติดอยู่ในที่ตรงนั้น และต้องทนหิว”
ระบบขัดข้องนี้กระทบสนามบินต่างๆ ที่ออสเตรเลียเช่นกัน กระทบระบบของสายการบินทั้ง Qantas, Virgin และ Jetstar
หน้าจอแสดงไฟลท์ยกเลิก Source: AAP / AAP Image/Mick Tsikas
นั่งรอตั้งแต่บ่าย 3 ที่แอร์พอร์ต ที่บริสเบน พอประมาณสัก 5 โมง ไฟล์ทเริ่มขึ้นว่าแคนเซิล แต่คนก็มาเรื่อยๆ สนามบินก็แน่นขึ้นเรื่อยๆคุณนานา คนไทยที่ต้องติดอยู่ที่สนามบินเกือบ 6 ชั่วโมงกล่าว
จนเวลาประมาณ 20.30 น. เคาน์เตอร์สายการบินเริ่มปิดให้บริการ สุดท้ายคุณนานาตัดสินใจยกเลิกไฟล์ทและซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ แล้วหาที่พักระหว่างรอขึ้นเครื่องได้อีกครั้ง ซึ่งทางสายการบินดำเนินการคืนเงินให้เธอในภายหลัง พร้อมเงินช่วยเหลือค่าที่พักและอาหาร
โดยคุณนานาบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอต้องเผื่อใจกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเดินทาง
และข้อมูลการบินทั่วโลกจากซิเรียม (Cirium) ระบุว่าเหตุขัดข้องนี้ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินอย่างน้อย 5,000 เที่ยวบินทั่วโลก
สาเหตุของระบบขัดข้อง
สาเหตุของระบบขัดข้องครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดในระหว่างที่มีการอัปเดตซอฟท์แวร์ของ Microsoft โดยคราวด์สไตรค์ (CrowdStrike) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และการขัดข้องในครั้งนี้กระทบคอมพิวเตอร์นับล้านเครื่องทั่วโลก
จอคอมพิวเตอร์ที่มีโลโก้ไมโครซอฟท์ Source: AAP / BIANCA DE MARCHI/AAPIMAGE
CrowdStrike เค้า push update แล้วในตัวอัปเดตเนี่ยมีปัญหากับ Windows ก็เลยจอฟ้ากันหมดเลยคุณเอ คนไทยที่ทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในออสเตรเลียกล่าว
โดย CrowdStrike เป็นบริษัทที่ผลิตระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ตามบริษัทหรือธุรกิจต่างๆ มักใช้
อย่างไรก็ตาม เหตุขัดข้องครั้งนี้ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์
จอร์ช เคิร์ตซ์ (George Kurtz) ผู้บริหารระดับสูงของ CrowdStrike แถลงขอโทษออกสื่อในรายการ ยูเอส ทูเดย์ โชว์ ที่สหรัฐอเมริกา
“เราเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผลกระทบที่เราได้สร้างต่อลูกค้า ต่อผู้ที่กำลังเดินทาง ต่อผู้ใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ รวมถึงบริษัทของเราด้วย ระบบทำการอัปเดต และในการอัปเดตนั้นมีบัก (bug) อยู่ ทำให้ระบบปฏิบัติการของ Microsoft มีปัญหา เราทราบถึงปัญหาและแก้ไขอย่างรวดเร็ว ระบบกลับมาทำงานได้อีกครั้งด้วยการรีบูต ระบบต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานแล้ว และเรากำลังทำงานร่วมกับลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้แน่ใจว่าเราช่วยให้ระบบของพวกเขากลับมาทำงานได้อีกครั้ง”
สำหรับบางแห่งที่ยังไม่สามารถกู้คอมพิวเตอร์กลับมาได้ คุณเออธิบายว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นตัวแปร เช่น คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าระบบได้ หรือปัญหาอื่น
แผงวงจรคอมพิวเตอร์ Source: AAP
เตือนสแกมเมอร์ฉวยโอกาสนี้
ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์หลายแห่งกลับมาใช้งานได้ตามปกติ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แคลร์ โอนีล (Claire O’Neil) เตือนให้ระวังนักต้มตุ๋นที่ฉวยโอกาสจากความโกลาหลและความกังวลนี้
“มีการรายงานเหตุฟิชชิ่งหลายรายในขณะนี้ สิ่งที่เราได้ยินคือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เสียหายรายบุคคลที่ได้รับอีเมลจากผู้ที่แอบอ้างว่ามาจาก CrowdStrike หรือจาก Microsoft ติดต่อขอรายละเอียดบัญชีธนาคารเพื่อรีบูตระบบ โดยต้องจ่ายเงิน หรือใส่รายละเอียดส่วนตัวของคุณเพื่อให้ระบบสามารถกลับมาออนไลน์ได้อีกครั้ง ดิฉันขอให้ชาวออสเตรเลียทุกคนใช้ความระมัดระวังมากๆ ในช่วงเวลานี้ สแกมเมอร์พยายามจะใช้เหตุการณ์นี้เพื่อหลอกเอาเงินจากคุณหรือหลอกเอาข้อมูลจากคุณ”
*หมายเหตุ: ฟิชชิ่ง (phishing) คือการแอบอ้างว่ามาจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว
คุณเอแนะนำให้ตรวจสอบลิงค์หรือเอกสารที่แนบมาในอีเมลก่อนทุกครั้ง รวมถึงข้อความที่ส่งมาทาง SMS ด้วย
“เวลามีคนส่งอีเมลอะไรมา มันเกี่ยวกับเราจริงๆ หรือเปล่า พยายามอย่าดาวน์โหลดหรือคลิก attachment ที่เราไม่รู้ เพราะจะทำให้แฮคเกอร์จะสามารถเข้าคอมพิวเตอร์เราได้ เพราะแฮคเกอร์มีเทคนิคในการเข้ามาในคอมพิวเตอร์เราอยู่แล้ว เขาจะดึงข้อมูลเราไป”
คำแนะนำหนทางแก้ไขก่อนจะสาย
ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปค่าเสียหายจากเหตุขัดข้องในครั้งนี้ ศาสตราจารย์ริชาร์ด บัคแลนด์ (Richard Buckland) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (University of New South Wales) เตือนว่าเรื่องนี้เป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับทั้งฝ่ายธุรกิจเอกชนและรัฐบาล ถึงผลกระทบที่อาจกลายเป็นหายนะ หากเป็นการโจมตีทางไซเบอร์
“เรา (ออสเตรเลีย) เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เผชิญกับเหตุขัดข้องครั้งนี้ เราไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่น่ากังวลคือมันแสดงให้เห็นว่าระบบของเรามีช่องโหว่ เรามีระบบอีกมากมายที่ไม่ได้ตั้งค่าการสำรองข้อมูลไว้ เราวางใจว่าทุกอย่างจะทำงานได้ จากนี้ต่อไปในอนาคต สิ่งนี้จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เราจะเจอข้อผิดพลาดที่จะกระทบกับระบบ"
หวังว่าสิ่งที่เราจะเปลี่ยนได้คือผลกระทบต่างๆ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เราควรจะมีแผนสำรองไว้ศาสตราจารย์บัคแลนด์กล่าว
เหตุขัดข้องครั้งประวัติศาสตร์นี้ Microsoft ประเมินว่ามีคอมพิวเตอร์ราว 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลกที่ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงที่เกิดเหตุ เทียบเป็นประมาณ 1% ของผู้ใช้ระบบวินโดวส์ทั่วโลก
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้หุ้นของ Microsoft และ CrowdStrike ร่วงลงอย่างฉับพลัน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยหุ้นของ CrowdStrike Holdings ประสบการขาดทุนมากที่สุด ลดลงประมาณ 12% เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินการแย่ที่สุดในกลุ่ม S&P 500 และส่งให้หุ้นของกลุ่ม S&P 500 ลดลง 0.7%
หุ้นของ Microsoft ลดลงประมาณ 1% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงรั้งตำแหน่งบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก
กด ▶ ฟังพอดคาสต์เรื่องนี้ฉบับเต็ม
วาระ 'จอฟ้าแห่งความตาย' ความโกลาหลจากเหตุ Microsoft ขัดข้องที่ออสเตรเลีย
SBS Thai
22/07/202417:27
ค้นหาข้อมูลหรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับสแกมเมอร์เพิ่มเติมได้ที่ cyber.gov.au หรือโทร 1300 292 371
หรือที่ Scamwatch.gov.au
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียเจอเหตุจารกรรมข้อมูลเกือบ 13 ล้านคนจาก MediSecure