‘มันเริ่มจากประจุไฟเพียงหย่อมเดียว’ ทางการเตือน เฝ้าระวังการเกิดไฟป่า

Members of the Sutherland Strike Force RFS contain a spot fire on a property in Colinton, NSW, Saturday, February 1, 2020.

"เราทราบดีว่าเพียงมีไฟป่าเกิดขึ้นหย่อมเดียวเท่านั้นก็สามารถเกิดไฟป่าได้ทั้งฤดู" สมาพันธ์นักดับเพลิงและบริการฉุกเฉินแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กล่าว Credit: AAP

ฤดูไฟป่าใกล้เข้ามาอีกครั้งที่ออสเตรเลีย ความน่ากลัวของเหตุไฟป่าแบล็ก ซัมเมอร์ เมื่อปี 2019 และปี 2020 ยังคงไม่จางหาย หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เร่งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามคำแจ้งเตือนเรื่องสภาพอากาศและภัยพิบัติในพื้นที่


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

แบล็ก ซัมเมอร์ หรือเหตุไฟป่ารุนแรงเมื่อปี 2019 และ 2020 ที่ออสเตรเลีย เป็นความทรงจำอันน่าสลดของประเทศ

เหตุนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 34 ราย รวมถึงนักดับเพลิง 7 ราย นับเป็นเหตุไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ประชาชนที่ประสบเหตุในพื้นที่หลายคนยังคงเผชิญความบอบช้ำทางจิตใจ

ร็อบบ เว็บบ์ จากสมาพันธ์นักดับเพลิงและบริการฉุกเฉินแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์หรือ AFAC กล่าวว่า

“ไม่มีอะไรสามารถบ่งชี้ได้ว่าเราจะมีไฟป่าแบบนั้นอีกหรือไม่ เหตุการณ์ครั้งนั้นแผ่วงกว้างได้รุนแรง รวดเร็ว และยาวนาน เราทราบดีว่าเพียงมีไฟป่าเกิดขึ้นหย่อมเดียวเท่านั้นก็สามารถเกิดไฟป่าได้ทั้งฤดู”
ด็อกเตอร์เกรแฮม ดไวเออร์ จากภาควิชาบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เป็นหนึ่งในทีมวิจัยร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ และมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ได้หารือกับสมาชิกหน่วยฉุกเฉิน 62 คน ตัวแทนหน่วยงานรัฐบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านไฟป่า

เขากล่าวว่าเหตุไฟไหม้ที่เกิดในท้องถิ่นสามารถสร้างความเสียหายและผลกระทบที่ร้ายแรงได้ ผลการวิจัยชี้ว่า ไฟป่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน ตามที่ผู้เชี่ยวชาญและประวัติศาสตร์ย้ำเตือน
เราต้องยอมรับว่าไฟป่าจะยังคงเกิดขึ้นแน่นอน ออสเตรเลียมีภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าสูง เนื่องจากมีพืชพรรณที่ติดไฟได้ง่ายและต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัด แห้งแล้ง และมีลมแรงบ่อยครั้ง
ดร. ดไวเออร์กล่าว
ขณะที่ฤดูร้อนใกล้เข้ามา ช่วงเวลานี้นับเป็นเวลาที่ดีที่ประชาชนในพื้นที่จะร่วมกันคิดว่าจะวางแผนและเตรียมตัวรับมือฤดูไฟป่าที่จะมาถึงได้อย่างไร

“สิ่งที่เราพบในการวิจัยของเราคือ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไฟป่ามีศักยภาพและความสามารถในการรับมือมากกว่าที่พวกเขาคิด ในแง่ของการวางแผน พวกเขาสามารถหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของหน่วยงานดับเพลิง และยังสามารถหาข้อมูลจากหน่วยฉุกเฉินท้องถิ่นและเทศบาลท้องถิ่นได้อีกด้วย”
Holsworthy bushfire
ไฟป่าในเมืองโฮลส์เวอธี Source: SBS
ดร. ดไวเออร์เน้นย้ำว่าระดับท้องถิ่นมักถูกมองข้าม

“เราพบว่าสื่อมักจะแสดงเรื่องราวดราม่าน่าสะเทือนใจจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่และกระทบเรื่องการเมือง แต่มักลืมไปว่าเหตุไฟไหม้ในระดับท้องถิ่นสามารถสร้างผลกระทบได้ร้ายแรงที่สุด”

เคทลิน มินนีย์ นักอุตุนิยมวิทยาจากกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ระบบการจัดอันดับไฟป่าที่กรมอุตุฯ ใช้อยู่ เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

“กรมอุตุนิยมวิทยาเป็นแหล่งข้อมูลอันดีเรื่องการเตือนภัย และเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งใช้ข้อมูลเรื่องไฟป่าในการพยากรณ์และแจ้งเตือนถึงความรุนแรงของสภาพอากาศเป็นประจำ ไม่เพียงแค่ไฟป่าเท่านั้น ยังรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายอื่นๆ ด้วย”
A handout photo issued by the Bureau of Meterology 28 March 2017.
ภาพการแจ้งเตือนสภาพอากาศเลวร้ายจากกรมอุตุนิยมวิทยา Source: AAP, EPA / AAP
มินนีย์กล่าวว่าเดือนพฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนขึ้นและฝนตกมากขึ้นทั่วประเทศ

“ในเดือนพฤศจิกายน เราคาดว่าอากาศจะร้อนขึ้นกว่าปกติทั่วออสเตรเลีย โดยจะมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ย และอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ย สำหรับปริมาณน้ำฝนในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะมีฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ยในรัฐควีนส์แลนด์และบริเวณตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่บริเวณส่วนใหญ่ในออสเตรเลียจะมีปริมาณฝนตามฤดูกาลในเดือนพฤศจิกายน”

มินนีย์กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือประชาชนควรตรวจสอบแผนการรับมือไฟป่าและแน่ใจว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้

“กรมอุตุนิยมวิทยาจะพยากรณ์อากาศและแจ้งเตือนสภาพอากาศที่รุนแรงเสมอ ควรทราบถึงหน่วยฉุกเฉินในท้องถิ่นด้วย หาข้อมูลคำแนะนำจากหน่วยงานเหล่านั้นเพื่อเตรียมตัว ตรวจสอบข้อมูลความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าอยู่เสมอ หน่วยดับเพลิงจะเริ่มแจ้งข้อมูลการคาดการณ์เกี่ยวกับไฟป่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน”
ไฟป่าในเมืองออร์บอสต์ (Orbost)
ไฟป่าในเมืองออร์บอสต์ Source: SBS, Supplied / SBS Thai
เว็บบ์จาก AFAC กล่าวว่า การสื่อสารหรือการแจ้งเตือนของออสเตรเลียในระดับท้องถิ่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะประชาชนในพื้นที่ต้องการทราบถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป

“ในฤดูใบไม้ผลิ เราจะหารือกับผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุตุวิทยา จากหน่วยดับเพลิงทั่วออสเตรเลีย เพื่อรวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสภาพอากาศที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้ ตั้งแต่สภาพของหญ้าและพุ่มไม้ รวมถึงแนวโน้มสภาพอากาศ ประมาณฝน และอุณหภูมิ ขณะนี้กรมอุตุฯ คาดว่าฤดูใบไม้ผลินี้จะเกิดไฟป่ามากกว่าปกติ ตั้งแต่มณฑลนอร์เทิร์น เทอริทอรี ไปยังรัฐควีนส์แลนด์ เนื่องจากระดับของหญ้าที่โตในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา มีปริมาณฝนที่ทำให้หญ้าโตได้ดีและจะกลายเป็นหญ้าแห้งในที่สุด”

ดร. ดไวเยอร์จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นย้ำถึงความสำคัญของการมีแผนรับมือไฟป่า ทั้งสำหรับรายบุคคลและสำหรับครอบครัว

หากมีผู้ใดที่อาศัยอยู่ลำพัง ควรหารือกับคนในพื้นที่และเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม การตระหนักรู้เป็นสิ่งจำเป็น เพราะหลายคนอาศัยอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า

“สิ่งสำคัญที่ควรจำคือ แม้ว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้สร้างบ้านในบางพื้นที่ เช่น พื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่าได้ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะปลอดภัย ไฟป่ามีผลกระทบร้ายแรงต่อบ้านเรือนทั้งในบริเวณชนบทและชานเมือง”
ดร. ดไวเยอร์กล่าวว่า การหนีออกจากพื้นที่ช้าเกินไปอาจหมายความว่าคุณอาจหนีไม่ทันไฟป่า การวางแผนและการเตรียมตัวเป็นกระบวนการสำคัญ ดังนั้นควรออกจากพื้นที่ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้

“การวางแผนและการเตรียมตัวสามารถทำได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ 3 ขั้นตอน ได้แก่ สิ่งที่ควรเตรียมก่อนเกิดไฟไหม้ สิ่งที่ควรทำระหว่างเกิดไฟไหม้ และวิธีรับมือหลังไฟไหม้”

ดร. ดไวเยอร์ขอร้องให้ประชาชนค้นคว้าข้อมูลออนไลน์อย่างละเอียด รวมถึงข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถพิจารณาความเสี่ยงจากไฟป่า และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าควรอยู่หรือควรออกจากบ้าน

มินนีย์จากกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าประชาชนควรเตรียมพร้อมรับสภาพอากาศเลวร้ายเสมอ
คลื่นความร้อนเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้หญ้าแห้งกลายเป็นเชื้อเพลิง และเพิ่มระดับความอันตรายของไฟป่า แม้ว่าจะยังไม่สามารถบอกได้ว่าฤดูร้อนนี้จะลงเอยเหมือนปี 2019 และ 2020 หรือไม่ เรายังคงไม่เห็นสภาพอากาศที่จะทำให้เกิดไฟป่าได้เหมือนตอนแบล็ก ซัมเมอร์ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น เรามีแนวโน้มที่จะเห็นสภาพอากาศสุดขั้วมากขึ้น สภาพอากาศที่เอื้อต่อการเกิดไฟป่า จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในแต่ละฤดูกาล
มินนีย์จากกรมอุตุนิยมวิทยากล่าว
มินนีย์เตือนให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบแอปพลิเคชันของกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยดับเพลิงในพื้นที่เสมอ เพื่อรับทราบข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสภาพอากาศ

เว็บบ์จาก AFAC กล่าวว่าหน่วยดับเพลิงและหน่วยฉุกเฉินทั่วออสเตรเลียเตรียมตัวในช่วงฤดูหนาวอย่างหนัก เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับชุมชน และให้ข้อมูลเรื่องการปกป้องบ้านเรือนของประชาชน

“สิ่งที่เปลี่ยนไปในออสเตรเลียช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือระดับความอันตรายของไฟป่าที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และเพื่อช่วยให้ประชาชนตัดสินใจได้ในช่วงฤดูร้อน”

หากคุณหรือบุคคลอื่นตกอยู่ในอันตราย โทรสายด่วนฉุกเฉิน 000

หากคุณเป็นผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อหน่วยบริการฉุกเฉิน (SES) โทร 132 500 หรือหน่วยฉุกเฉิน SES ในรัฐของคุณ


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share