กดปุ่ม 🔊 ด้านบนเพื่อฟังพอดคาสต์นี้
ผู้หญิง 7 ใน 10 คนที่ถูกคู่ครองกดขี่ข่มเหง เลือกที่จะไม่เดินออกจากความสัมพันธ์นั้น แม้ว่าผู้หญิงบางคนจะประสบความรุนแรงอย่างน่าตกใจก็ตาม โดยสถิติดังกล่าวมาจากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย
จากการวิเคราะห์พบว่า ผู้หญิงในจำนวนนั้นครึ่งหนึ่งอยากเดินออกจากความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรง แต่รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถทำได้ เพราะบางคนไม่มีเงินพอที่จะก้าวออกมาตั้งต้นชีวิตตามลำพังได้
คุณเจน แมตส์ เป็นหนึ่งในผู้หญิงในออสเตรเลีย 1.6 ล้านคน ที่ประสบความรุนแรงในครอบครัว
"ความจริงแล้ว ฉันเคยถูกมีดจี้ที่คอของฉันเลยด้วยซ้ำในห้องครัว แล้วเขาก็บอกฉันว่า มันง่ายแค่ไหนที่จะปาดคอฉัน" คุณแมตส์ เล่าประสบการณ์
เช่นเดียวกับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจ เธอเริ่มถูกคู่ครองข่มเหงตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุน้อย โดยเกิดขึ้นหลังจากเธอให้กำเนิดลูกสาว
"เราอยู่ในสถานการณ์หนึ่ง ที่เราไม่ตระหนักว่ามันเลวร้ายแค่ไหน จนกว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์นั้น และตกอยู่ลึกเสียด้วย" คุณแมตส์ กล่าว
ในปี 2017 กว่า 1 ใน 4 ของผู้หญิง 1 ล้านคนถูกคู่ครองคนปัจจุบันข่มเหง
1 ใน 3 เดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นชั่วคราว เหตุผลที่พวกเธอกลับไปสู่ความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากบ้างก็ต้องการหาทางแก้ปัญหา หรือบ้างก็ยังคงรักคู่ครองของตนอยู่
ส่วนร้อยละ 70 ของผู้หญิงที่ไม่เดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่มีปัญหานั้น เกือบครึ่งอยากยุติความสัมพันธ์ แต่รู้สึกว่าตนไม่อยู่ในสถานะที่จะทำเช่นนั้นได้
คุณคาเรน วิลลิส จาก Rape and Domestic Violence Service Australia หรือบริการเกี่ยวกับปัญหาการข่มขืนและความรุนแรงในครอบครัวแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า มีผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่มีความสามารถทางการเงินพอที่จะออกจากความสัมพันธ์
"ใครที่เคยย้ายบ้านรู้ดีว่ามันมีค่าใช้จ่ายมากมายแค่ไหน ยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีก เมื่อต้องพยายามย้ายบ้าน ขณะที่คุณกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตของคุณ คุณไม่มีความช่วยเหลือจากใครเลย และขณะย้ายบ้าน คุณก็ต้องพยายามทำให้แน่ใจด้วยว่าตัวคุณเองจะปลอดภัย" คุณวิลลิส จาก Rape and Domestic Violence Service Australia ชี้ปัญหา
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ผู้หญิงยังคงตกเป็นเหยื่อความรุนแรง
ได้มีการสำรวจในหมู่ผู้ชายเช่นกัน แต่คุณวิลเลียม มิลน์ จากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย หรือเอบีเอส กล่าวว่า มีผู้ชายคิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 17 คนที่รายงานว่าถูกคู่ครองข่มเหง
"เราไม่สามารถเจาะลึกถึงรายละเอียดได้มากกว่านี้สำหรับผู้ชาย อย่างที่เราทำได้สำหรับผู้หญิง เนื่องจากสถิติที่เกิดขึ้นนั้นสูงกว่ามากในหมู่ผู้หญิง สถิติที่เกิดขึ้นกับผู้ชายนั้นต่ำกว่าที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก" คุณมิลน์ จากเอบีเอส เผย
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลได้จัดงบประมาณกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อลดปัญหาการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง
แต่เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงจากคู่ครองยังคงค่อนข้างทรงตัวเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องจากบรรดาผู้พิทักษ์สิทธิสตรีอย่างคุณ คาเรน วิลลิส ให้มีการดำเนินการมากกว่านี้ในเรื่องนี้
"ฉันอยากแนะนำอย่างยิ่งว่า เราไม่ได้จัดงบประมาณและพยายามอย่างเพียงพอในการป้องกันปัญหา ซึ่งแท้ที่จริงแล้วควรเป็นสิ่งที่เรามุ่งเน้น" คุณวิลลิส Rape and Domestic Violence Service Australia แสดงความเห็น
สำหรับคุณเจน แมตส์ การต่อสู้ของเธอยังไม่สิ้นสุดลง
"ฉันยังคงสร้างชีวิตใหม่อยู่ มันเป็นเวลา 6 ปีแล้วสำหรับฉัน" คุณแมตส์ กล่าว
หากคุณ หรือคนที่คุณรู้จักได้รับผลกระทบจากการข่มเหงทางเพศ หรือความรุนแรงในครอบครัว ให้โทรศัพท์ไปยัง 1800RESPECT ที่หมายเลข 1800 737 732 หรือไปยังเว็บไซต์ 1800respect.org.au
หากต้องการติดต่อสมาคมโดยคนไทยในออสเตรเลียที่สามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ สามารถติดต่อ สมาคมทิวา เมลเบิร์น สมาคมไทย-ออสซี พี่ช่วยน้อง ในควีนสแลนด์ หรือสวัสดิภาพสมาคม ในซิดนีย์ ผ่านเฟซบุ๊กของสมาคมเหล่านี้ หากอยู่ในรัฐวิกตอเรีย สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คนไทย ของอิน ทัช ซึ่งเป็นศูนย์หลากวัฒนธรรมเพื่อต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวได้ที่ หรือโทรศัพท์ 1800 755 988 ได้
สำหรับเหตุฉุกเฉิน โปรดโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
มรสุมชีวิตแม่บ้านเหยื่อความรุนแรง