ถกประเด็นร้อน นโยบายจำกัดอายุเยาวชนที่ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย คุณเห็นด้วยหรือไม่?

Top 10 most followed footballers.

มีงานวิจัยพบว่าการใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการมีปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมการกินผิดปกติในเยาวชน Credit: thedrum

นโยบายจำกัดอายุเยาวชนที่ใช้โซเชียลมีเดียของรัฐบาลอัลบานีซีกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้วิธีเร่งด่วนแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่าการจำกัดอายุเด็กในการใช้โซเชียลมีเดียช่วยปกป้องเด็กๆ จากปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ แต่บางส่วนก็มีความเห็นว่าโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยเหลือเยาวชนในด้านต่างๆ



กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซี เสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อจำกัดอายุผู้เยาว์ที่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในออสเตรเลีย โดยจะใช้เทคโนโลยีล่าสุดเข้ามามีส่วนช่วยในนโยบายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี อัลบานีซีกล่าวว่า

"โซเชียลมีเดียสามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมได้ สิ่งที่เราทุกคน รวมถึงผมด้วย อยากเห็นก็คือการที่เด็กๆ วางอุปกรณ์สื่อสารลง แล้วออกไปเตะฟุตตี้ เล่นเน็ตบอล ไปว่ายน้ำ ตีเทนนิส ใช้เวลากับคนอื่นๆ ในชีวิตจริง"

และในขณะที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญตระหนักว่าแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ TikTok อาจมีการนำเสนอเรื่องราวที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคนหนุ่มสาวชาวออสเตรเลีย แต่บางคนก็ไม่มั่นใจนักว่า ข้อสนอของรัฐบาลจะสามารถปฏิบัติได้จริง

Girl concentrated on playing with stablet at sunset
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนสนับสนุนกฎหมายจำกัดอายุการใช้โซเชียลมีเดีย เพราะมีผลกระทบทางสุขภาพกายและจิตของเยาวชน ขณะที่ส่วนหนึ่งชี้นโยบายนี้ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ Source: Moment RF

ดร.ไรย์ ฟาธิง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของ Reset.Tech Australia กล่าวว่าอันตรายจากการใช้โซเชียลมีเดียนั้นมีอยู่จริง แต่การห้ามไม่ให้คนหนุ่มสาวเข้าถึงโซเชียลมีเดียนั้นไม่ใช่วิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนนี้ได้ง่ายๆ เช่นนั้น ดร. ฟาธิง อธิบายว่า
ถ้าดูตามหลักการแล้ว การปกป้องเด็กและเยาวชนนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีคำถามว่า นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือไม่และจะได้ผลจริงหรือเปล่า?
ดร.ไรย์ ฟาธิง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของ Reset.Tech Australia

ถ้าร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภา จะทำให้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่มีการบังคับใช้กฎหมายจำกัดอายุในการใช้โซเชียลมีเดีย


ก่อนหน้านี้ ก็มีความพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายนี้มาก่อนในหลายๆ แห่ง รวมถึงสหภาพยุโรป ปรากฎว่ามีความท้าทายในการใช้ข้อบังคับดังกล่าว

 ดร. ฟาร์ธิง กล่าวว่า บางคนอาจมองว่ามันเป็นจุดเริ่มต้น แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ดร. ฟาร์ธิงนั้น ไม่เชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยปกป้องเด็กๆ อย่างมีความหมาย

"เมื่อพิจารณาจากความยากลำบากในการดำเนินการใช้ข้อบังคับนี้ แล้วอาจจะจบที่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ฉันไม่คิดว่ามันจะสร้างความแตกต่างได้มากขนาดนั้น แม้ว่าจะใช้ข้อบังคับแบบครอบคลุมก็ตาม"

JULIE INMAN GRANT TV INTERVIEW
คุณ จูลี อินมาน แกรนท์ กรรมาธิการความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ของออสเตรเลียกล่าวในการไต่สวนของรัฐสภาเมื่อเดือนมิถุนายน Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

กรรมาธิการความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ของออสเตรเลีย  คุณ จูลี อินมาน แกรนท์ กล่าวในการไต่สวนของรัฐสภาเมื่อเดือนมิถุนายน ว่า เธอสนับสนุน นโยบายการจำกัดอายุการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้นี้ มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่

"eSafety ได้สนับสนุนเรื่องนี้มานาน ซึ่งเป็นนโยบายส่วนหนึ่งของชุดมาตรการเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาออนไลน์และพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พวกเขายังเด็กเกินไปที่จะเสพเนื้อหาเหล่านั้น แต่การใช้ข้อบังคับยังไม่พร้อม จนกว่าเราจะมีระบบการใช้จำกัดอายุที่มีประสิทธิภาพ เรายังจะเผชิญกับความท้าทายในการวัดผล การนำไปใช้ และบังคับใช้"


การทดลองใช้เทคโนโลยีที่มี มูลค่า 6.5 ล้านดอลลาร์ของรัฐบาลนี้ มีกำหนดสิ้นสุดสิ้นปีงบประมาณ 2024/2025 ซึ่งหมายความว่า ข้อบังคับทางกฎหมายจะไม่ถูกนำมาใช้ จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งระดับสหพันธรัฐในปีหน้า ซึ่งมีข่าวลือว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม

 นายกรัฐมนตรี อัลบานีซี ยังไม่ได้ระบุช่วงอายุที่เด็กสามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียได้ แต่มีความเป็นไปได้ว่า น่าจะอยู่ระหว่าง 14 ถึง 16 ปี

ดร.ไซมอน วิลค์ช นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์สและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรม การกินผิดปกติกล่าวว่า เขารู้สึกดีใจที่รัฐบาลมีนโยบายนี้ และเห็นด้วยที่จะเพิ่มช่วงการจำกัดอายุ จาก 13 เป็น 16 ปี

"ผมสนับสนุนการเพิ่มช่วงอายุการจำกัดการใช้โซเชียลมีเดีย เป็น 16 ปี ในฐานะนักจิตวิทยาคลินิกที่ให้การรักษาเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่ประสบปัญหาพฤติกรรมผิดปกติในการกิน มีงานวิจัยชี้ว่า ตั้งแต่โซเชียลมีเดียเข้ามามากขึ้น ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา คนมีพฤติกรรมผิดปกติในการกินมากขึ้น"

ข้อมูลที่ ดร.ไซมอน วิลค์ช อ้างถึงในที่นี้ มาจากรายงาน 'Paying the Price' ของ Deloitte ตั้งแต่ปี 2012 และ 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จำนวนเด็กอายุระหว่าง 10 ถึง 14 ปี ที่มีพฤติกรรมผิดปกติในการรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 200 ในออสเตรเลีย


นอกจากนี้ ดร. วิลคซ์ ยังพูดถึง งานวิจัย 50 ชิ้นใน 17 ประเทศ ในปี 2023 ที่ระบุว่าการใช้โซเชียลมีเดียนำไปสู่ "ความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร และการป่วยทางสุขภาพจิต "

ดร.วิลก์ชเสริมว่า ข้อบังคับดังกล่าวควรถูกนำมาใช้กับเยาวชนทุกคนในช่วงอายุ 16 ปี แบบเสมอภาค เพื่อลดแรงกดดันทางสังคม

"ข้อกังวลประการหนึ่งคือ ข้องกำหนดดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้ปกครองตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กับเด็กอายุ 14 และ 15 ปี ผู้ปกครองบางคนอาจจะไม่อยากให้บุตรหลานใชเโซเชียลมีเดีย ในขณะที่อีกหลายคนอนุญาตให้เด็กๆ ใช้ได้ ซึ่งมันอาจสร้างปัยหาความไม่เท่าเทียมที่โรงเรียนที่เด็กบางคนใช้ได้และบางคนใช้ไม่ได้ ดังนั้นการใช้ข้อบังคับกับเด็กทุกคนอย่างเสมอภาคน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด"

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งของเรื่องนี้ที่จะมองข้ามไปไม่ได้คือ ประโยชน์ของการใช้โซเชียลมีเดียกับเยาวชนในช่วงอายุนี้
 ดร. ฟาร์ธิง กล่าวว่าเมื่อคุณพูดคุยกับ กลุ่มเยาวชน คุณจะมองเห็นภาพที่กว้างมากขึ้น ในประเด็นนี้

"เมื่อคุณพูดคุยกับเด็กและเยาวชน พวกเขาพูดถึงแง่มุมต่างๆ ในโซเชียลมีเดียที่พวกเขาจะไม่เลียนแบบ พวกเขาพูดถึงด้านบวกของการใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะช่วยด้านการศึกษา ด้านสุขภาพจิต ต่างๆ แนวทางที่จะใช้ข้อบังคับจำกัดอายุเยาวชน้เพื่อไม่ให้เข้าถึงโซเชียลมีเดีย เป็นแนวทางที่ตื้นเขินและยังไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมที่สุด"

 คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


Share