การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองออสเตรเลีย

Karrke Aboriginal Cultural Tour, Watarrka, NT

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมือง ที่เมืองวาตาร์กา มณฑลนอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี Credit: Archie Sartracom /Tourism Australia

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองออสเตรเลียมีหลายรูปแบบ ทั้งการสัมผัสธรรมชาติ หรือดื่มด่ำศิลปะที่มีความเชื่อมโยงกับดินแดนนี้มานับหมื่นปี ไม่ว่าคุณจะอยากสัมผัสประสบการณ์แบบใด คุณจะได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสนับสนุนชนพื้นเมืองออสเตรเลียด้วย


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

กระทรวงการท่องเที่ยวออสเตรเลียตระหนักถึงความต้องการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม

คุณนิโคล มิตเชลล์ ผู้บริหารดิสคัฟวอรี อะบอริจินอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ หรือ DAE ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชนพื้นเมืองกล่าวว่า นักท่องเที่ยวต้องการรู้เกี่ยวกับชนพื้นเมืองออสเตรเลียและดินแดนต่างๆ มากขึ้น

“ในปี 2023 เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 969,000 คนที่ต้องการเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองที่ออสเตรเลีย และเรายังเห็นนักท่องเที่ยวในประเทศที่ต้องการเที่ยวลักษณะนี้เพิ่มขึ้นถึง 22% นั่นหมายความว่ามีนักท่องเที่ยวในประเทศ 1.185 ล้านคนที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง”
Jarramali Rock Art Tour
ทัวร์ชมศิลปะบนโขดหินจาร์รามาลี Credit: The Edit Suite/Tourism Australia
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้มีชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสผู้เป็นเจ้าของเรื่องราว บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น

และทุกประสบการณ์การท่องเที่ยวนับเป็นสีสันของประเทศ

“เมื่อคุณไปเที่ยว คุณมักจะได้พบเจอผู้คนซึ่งเป็นความทรงจำที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกับไกด์ชนพื้นเมืองของเรา เพราะพวกเขามีประสบการณ์ตรง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำประสบการณ์เหล่านี้ คุณอาจจะเรียนศิลปะ หรือขี่รถเอวีบนเนินทรายที่วารามิ ทางตอนเหนือของซิดนีย์ และได้เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นเมืองด้วย”

จะมีวิธีไหนดีไปกว่าการได้สัมผัสดินแดนและวัฒนธรรมพื้นเมืองที่หลากหลายผ่านมุมมองของมัคคุเทศก์ชนพื้นเมือง

คุณวฮอน วอล์กเกอร์ ชายชาวคูคู ยาลันจิ เจ้าของกิจการวอล์กอเบาท์ คัลเชอร์ แอดเวนเชอร์ จากตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์กล่าว
ผมคิดว่าถ้าคุณอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นเมือง ควรเรียนรู้จากชนพื้นเมืองจะดีที่สุด เพื่อรับฟังเรื่องราวของพวกเขา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับดินแดนและท้องทะเลที่คุณมาถึงอย่างแท้จริง ไม่มีวิธีใดจะดีไปกว่าเรียนรู้จากผู้ที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สุด ที่เคยถือครองดินแดนนั้นมาตั้งแต่ยุคแรก
คุณวอล์กเกอร์กล่าว
tourismAustraliaN.jpg
นักท่องเที่ยวแสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมมากขึ้น
คุณวอล์กเกอร์พานักท่องเที่ยวไปทำความรู้จักกับป่าฝนเดนทรีอันงดงาม ที่มีอายุกว่า 135 ล้านปี บริเวณใกล้พอร์ต ดักลาส

เขายังเล่าถึงประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ประเพณี และทรัพยากรธรรมชาติของป่าฝนแห่งนี้ด้วย

“เราพานักท่องเที่ยวไปเดินดูระบบนิเวศที่แตกต่างจากบริเวณชายหาด ธรรมชาติของป่าชายเลนและป่าฝน เรายังให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารต่างๆ ในแถบนั้นด้วย และถ้าเรามีโอกาส เราจะทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ให้นักท่องเที่ยวชิม เพื่อให้พวกเขาได้ลองชิมอาหารท้องถิ่นนั้น”

การได้ลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นเมืองเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวยอดนิยมในปัจจุบัน อาหารป่ากำลังเป็นที่นิยม ด้วยรสชาติและวิธีทำอาหารที่มีเอกลักษณ์

คุณเรย์ลีน บราวน์ ผู้ร่วมก่อตั้งคังคัส แคน คุก ช่วยให้มณฑลนอร์เทิร์น เทอร์ริทอรีเป็นจุดหมายปลายทางของการชิมอาหารพื้นเมือง

เธอยังให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารท้องถิ่นแถบทะเลทรายแก่ผู้เดินป่าเส้นทางลาราพินตา เส้นทางเดินป่ายอดนิยมบริเวณตอนกลางของออสเตรเลียด้วย

“มีความสนใจอาหารเหล่านี้ว่าทำไมถึงมีประโยชน์กับเรามาก เราพบว่าเพราะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในแถบทะเลทรายนี้ ฉันคิดว่าอาหารเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแนะนำให้ผู้คนได้รู้จักดินแดนของเรา และหลายคนกระตือรือล้นที่จะลองชิมด้วย”
ggca-experiences-signature-aboriginal-experience-1.jpg
สนามกอล์ฟที่ให้สัมผัสประสบการณ์พื้นเมือง
การสำรวจผืนป่าอันสวยงามของออสเตรเลียไม่ได้มีเพียงแค่การเดินเท้าเท่านั้น คุณยังสามารถล่องเรือ บินชมทิวทัศน์ เที่ยวแบบซาฟารี พร้อมที่พักหลากหลาย ตั้งแต่การตั้งแคมป์ไปจนถึงการพักแบบหรูหรา

อุทยานแห่งชาติคาคาดูที่มณฑลนอร์เทิร์น เทอร์ริทอรี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่มีคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรรม รวมถึงมีศิลปะบนโขดหินอันตระการตา

ภูมิภาคคิมเบอร์ลีย์ ที่รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งน้ำตก ชายหาด สัตว์ป่า แหล่งเล่นน้ำ และศิลปะบนโขดหินเช่นกัน

การท่องเที่ยวที่มีมัคคุเทศก์ชนพื้นเมืองจะเผยถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังสร้างผลดีทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนท้องถิ่นด้วย

ศิลปะมารุกุเป็นศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนบริเวณตอนกลางของออสเตรเลีย ที่มีศิลปินท้องถิ่นกว่า 900 คน คุณนิโคล มิตเชลล์อธิบายว่าคนพื้นเมืองที่อยู่ในพื้นที่สามารถขายผลงานศิลปะ จัดเวิร์กชอป และจัดทัวร์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมได้

“พวกเขาสามารถหารายได้ผ่านงานศิลปะที่พวกเขาทำในแบบมารุกุ เวิร์คชอปการวาดแบบจุดสไตล์มารุกุที่มีชุมชนพื้นเมืองเข้าร่วม พวกเขาจัดเวิร์กชอปในภาษาพิทจันทจารา ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น และสามารถช่วยอนุรักษ์การใช้ภาษาถิ่นได้ด้วย”

ธุรกิจการท่องเที่ยวลักษณะนี้ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของวัฒนธรรมพื้นเมือง

คุณวอล์กเกอร์อธิบายว่าการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของเขาช่วยให้เขาส่งต่อความรู้เกี่ยวกับครอบครัวของเขาและประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมืองให้แก่นักท่องเที่ยว และยังช่วยให้เขาสืบสานสัมพันธ์ที่ยึดโยงเขากับดินแดนของเขาด้วย

“แทนที่จะต้องย้ายไปทำงานที่อื่น ผมสามารถอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวของผม ผู้คนเชื้อสายผม และสานสัมพันธ์กับดินแดน การได้แบ่งปันและให้ความรู้ผู้คนเกี่ยวกับมรดกที่สืบทอดมาเป็นวิธีที่ดีในการเลี้ยงชีพ และช่วยให้ผู้คนเคารพดินแดน ทะเล และทางน้ำที่พวกเขาไปเยี่ยมชมด้วย”
Selfie Aboriginal Woman
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยังมีในใจกลางเมืองด้วย เช่น การปีนสะพานฮาร์เบอร์ บริดจ์ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาวเบอร์ราวา ชนพื้นเมืองชาวอะบอริจิน Credit: davidf/Getty Images
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าวัฒนธรรมพื้นเมืองมีอยู่เฉพาะแถบห่างไกล แท้จริงแล้วคุณยังสามารถผ่านพบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเหล่านี้ในบริเวณใจกลางเมืองเช่นกัน

คุณไคล์ ไอวีย์ ชายชาวบันจาลัง เป็นผู้เล่าเรื่องราวของชนพื้นเมือง เขานำทางนักท่องเที่ยวปีนสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ซึ่งเป็นการปีนเขาแบบบูรูวาของชาวอะบอริจิน

“ผมนำกรุ๊ปปีนเขารีคอนซิเลชัน ไคลม ขณะที่เดินไปตามสะพาน ผมจะหยุดและชี้ถึงสิ่งที่มีเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของกองเรือชุดแรก ผมจะหยุดและชี้ไปที่ท่าเรือที่กองเรือมาถึง ดินแดนต่างๆ ที่เป็นสถานที่สำคัญของชนพื้นเมือง และแน่นอนจุดถ่ายรูปด้วย”

ระหว่างที่นำปืนเขา คุณไอวีย์จะอธิบายถึงการที่ชนพื้นเมืองออสเตรเลียได้อาศัยอยู่ที่นี่มากว่าหกหมื่นปี เขาจะเล่าเรื่องราวที่บรรพบุรุษของเขาอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้และดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หลังผู้อพยพย้ายถิ่นชาวยุโรปมาเยือน

คุณไอวีย์ยังภูมิใจที่ได้แบ่งปันความรู้ของเขา ซึ่งมีความหมายกับตัวเขาเองและกับชุมชนพื้นเมืองอีกกว่า 500 กลุ่มชุมชนของออสเตรเลียด้วย

“มันเป็นวิธีที่ดีในการย้ำเตือนความจำสำหรับผม มันทำให้ผมอยากทำต่อไปและค้นหาสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงการรวมกลุ่มคนได้มากขึ้น และเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้จำชื่อสิ่งไหนผิด มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ผมมีความสุขมากและรู้สึกโชคดีมากที่ได้ทำสิ่งนี้ ผมชอบการที่ได้ให้ความรู้ผู้คนเกี่ยวกับเรื่องของชนพื้นเมือง”
ที่เมืองเมลเบิร์น คุณสามารถเข้าร่วมการเดินบิลลารัง วิลัม วอล์ก ซึ่งเดินเลียบริมแม่น้ำยาร์รา เพื่อชมงานศิลปะของชาวอะบอริจิน คุณจะได้ฟังว่าดินแดนนี้เปลี่ยนไปอย่างไรตามกาลเวลา รวมถึงความสำคัญของดินแดนนี้ในการเป็นสถานที่รวมตัวกันของชาวคูลิน ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองท้องถิ่น

ที่รัฐแทสเมเนีย คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นำโดยชนพื้นเมืองนิปาลุนา การเดินที่มีการแสดงร่วมด้วยจะบอกเล่าเรื่องราวที่มืดมนและทรงพลังของชาวปาลาวาเป็นเวลา 90 นาที

คุณมิตเชลล์กล่าวว่า ประสบการณ์นี้ช่วยให้ความรู้ทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองและชนชาติอื่นด้วย

“มันเป็นแรงผลักดันในการปรองดองด้วย ผู้คนเรียนรู้และทำความเข้าใจวัฒนธรรมอันหลากหลายที่ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว ในแง่ของชุมชน คุณได้หลอมรวมและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เล่าเรื่องราวของพวกเขา ไกด์คนหนึ่งบอกกับฉันว่า ‘เราต้องแบ่งปันวัฒนธรรม เพื่อรักษาวัฒนธรรมไว้’
A tour guide walked through the safety precautions of hiking into Kata Tjuta near a tent
มัคคุเทศก์ให้ความรู้เรื่องข้อระวังในการเดินป่าไปยังคาตา จูตา แนวโขดหินอูลูรู Credit: alanlim97/Getty Images
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

อ่านหรือฟังเรื่องการตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียได้อีก


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share