กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสวัสดิภาพของสัตว์ควบคุมโดยรัฐบาลของแต่ละรัฐและมณฑล
ด็อกเตอร์ซาราห์ ไซโท (Dr Sarah Zito) เจ้าหน้าที่อาวุโสของอาร์เอสพีซีเอหรือราชสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ (Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals – RSPCA) อธิบายว่าออสเตรเลียมีพระราชบัญญัติคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์หลายฉบับ
“รัฐและมณฑลต่างๆ มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่มีขอบเขตอำนาจแตกต่างไป ทุกบทกฎหมายมักห้ามทำร้ายสัตว์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ การทำร้ายจิตใจอาจเป็นการทำให้เครียดและกลัว ยังมีพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ที่มีขอบเขตทางกฎหมายในการระบุให้ผู้ที่ดูแลสัตว์มีหน้าที่ในการดูแลสัตว์ให้ดี”
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
การรับเลี้ยงสัตว์จากศูนย์พักพิงในออสเตรเลีย
ผู้ที่ดูแลสัตว์ได้แก่ เจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมายหรือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลหรือควบคุมสัตว์ เช่น เจ้าของโรงเพาะพันธุ์ (Breeding facility) หรือคอกสุนัข (Kennel) ดร.ไซโทกล่าว
“หน้าที่ดูแลหมายความว่าผู้รับผิดชอบสัตว์ตัวนั้นต้องมั่นใจว่าสัตว์ได้รับอาหารและน้ำเพียงพอ มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม และป้องกันหรือลดอันตรายที่อาจเกิดกับสัตว์ได้ นั่นได้แก่การให้การดูแลเพื่อการป้องกันที่เหมาะสม และเข้าถึงสัตวแพทย์อย่างรวดเร็วและเหมาะสมเมื่อจำเป็น คุณยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อให้สัตว์สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ และปฏิบัติต่อสัตว์ด้วยวิธีที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ และไม่ทำให้พวกมันเป็นอันตรายหรือเครียด”
หน้าที่ดูแลยังรวมถึงกรณีที่คุณดูแลสัตว์ของผู้อื่นในบ้านหรือรถของคุณด้วย
คุณลอรา เวย์แมน-โจนส์ (Laura Weyman-Jone) โฆษกของพีตาหรือองค์กรสำหรับการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (People for the Ethical Treatment of Animals – PETA) แห่งออสเตรเลีย กล่าวว่าการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ถือเป็นความผิดร้ายแรง
“นี่อาจเป็นผู้เพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง เช่น แมวและสุนัข ที่ไม่จัดหาอาหาร น้ำหรือยาที่เพียงพอ มีปัญหาที่คล้ายคลึงกันในหลายภาคส่วน ในวงการบันเทิง เช่น สุนัขเกรย์ฮาวนด์และการแข่งม้า การละเลยก็เป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน”
สุนัขพันธุ์เชาเชาในงานแสดงสุนัขของผู้เพาะพันธุ์ Source: AFP
“นี่คือธุรกิจที่เลี้ยงสุนัขและเพาะพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้พวกมันผลิตลูกสุนัข (มีฟาร์มเพาะพันธุ์ลูกแมวด้วย) เพื่อให้เจ้าของฟาร์มขายเพื่อทำกำไร พวกเขาอาจขายกันเอง ซึ่งมักเรียกว่า ‘ซื้อจากผู้เพาะพันธุ์ (Buying from a breeder)’ หรือขายให้แก่ร้านขายสัตว์เลี้ยง”
หลายคนคิดว่าฟาร์มเพาะลูกสุนัขและลูกแมวถูกห้ามในออสเตรเลีย แต่ผู้เพาะพันธุ์สามารถขอใบอนุญาตได้
สภาพความเป็นอยู่นั้นอาจโหดร้าย และสัตว์ที่เป็นพ่อหรือแม่พันธุ์เพื่อความสวยงามมักมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
บางรัฐกำลังออกกฎเพื่อจำกัดจำนวนสัตว์ที่จะผสมพันธุ์ในสถานเพาะพันธุ์สัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ รัฐวิกตอเรียเป็นรัฐที่นำร่องอยู่ในตอนนี้ มีสัตว์จำนวนมากถูกผสมพันธุ์เพื่อผลกำไร และถูกพรากไปจากแม่ของพวกมันตั้งแต่อายุยังน้อย การเพาะพันธุ์จะสร้างปัญหาให้แก่สัตว์และผู้ที่ซื้อสัตว์เหล่านั้นเวย์แมน-โจนส์กล่าว
การรับเลี้ยงสัตว์จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์มักจะดีกว่า สัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรงในศูนย์ช่วยเหลืออาจถูกทำการุณยฆาตได้ หากพวกเขาไม่มีใครรับเลี้ยง
คุณทารา วาร์ด (Tara Ward) ประธานทนายอาสาสมัครแห่งสำนักงานพิทักษ์สัตว์ (Animal Defenders Office) กล่าวว่า สัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียมีสถานะพิเศษทางกฎหมาย
“รัฐบาลมีอำนาจในการควบคุมสัตว์พื้นเมือง เพราะมิฉะนั้นจะไม่มีใครมีหน้าที่นี้ นั่นคือเหตุผลที่รัฐบาลสามารถกำหนดว่าเราจะปฏิบัติกับสัตว์ป่าและสัตว์เพื่อนเมืองอย่างไร นั่นไม่รวมกฎหมายคุ้มครองสัตว์ทั่วไปที่บังคับใช้กับสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแมวและสุนัข หรือจิงโจ้และนกในป่า”
การลักหรือทำร้ายสัตว์พื้นเมืองถือเป็นความผิดทางอาญา ยกเว้นว่าคุณจะมีใบอนุญาตที่ออกโดยรัฐบาล สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์บางชนิดจะได้รับการปกป้องมากกว่าสัตว์ทั่วไป
คุณวาร์ดกล่าวว่า คุณอาจเก็บสัตว์พื้นเมืองไว้เป็นสัตว์เลี้ยงได้ หากคุณมีใบอนุญาต ขึ้นอยู่กับรัฐและมณฑลที่คุณอยู่
คุณไม่สามารถนำสัตว์พื้นเมืองออกจากป่าและเก็บไว้เป็นสัตว์เลี้ยงได้ นั่นจะเป็นการทำผิดกฎหมายและเป็นความผิดทางอาญาในรัฐและมณฑลส่วนใหญ่ มีสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต นกหรือสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด เป็นต้นคุณวาร์ดกล่าว
หมีโคอาล่า Source: AAP
แต่คุณวาร์ดกล่าวว่า มีข้อยกเว้น
“รัฐและมณฑลส่วนใหญ่อนุญาตให้เคลื่อนย้ายสัตว์พื้นเมืองที่ได้รับบาดเจ็บหรือป่วย ซึ่งอาจพบในบริเวณหลังบ้านหรือเมื่อคุณอยู่ข้างนอก กรณีที่พบได้บ่อยคือสัตว์พื้นเมืองที่ถูกรถชน กฎหมายอนุญาตให้นำสัตว์ไปพบสัตวแพทย์หรือผู้ดูแลสัตว์ป่าได้”
การละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์มีบทลงโทษรุนแรง ได้แก่ โทษปรับและโทษจำคุก ด็อกเตอร์ไซโทกล่าว
บทลงโทษสำหรับการกระทำที่โหดร้ายและความประมาทนั้นแตกต่างไปในแต่ละรัฐ
“ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โทษจำคุกสูงสุดคือ 5 ปี รัฐควีนส์แลนด์ 7 ปี รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 5 ปี ยังมีค่าปรับที่ค่อนข้างแพงอีกด้วย เช่น ค่าปรับกว่า $200,000 ดอลล่าร์ต่อคนหรือกว่าหนึ่งล้านดอลล่าร์สำหรับบริษัท สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความผิดร้ายแรง บางครั้งเรียกว่าความผิดฐาน ‘การทารุณกรรมสัตว์อย่างรุนแรง’ เช่น การทุบตีสัตว์จนตายหรือการกระทำที่โหดเหี้ยม”
จิงโจ้ที่บัลดีฟส์ (Baldives) เวสเทิร์น ออสเตรเลีย Source: Flickr / Flickr/cazzjj
หากคุณพบเห็นผู้ที่ทำร้ายสัตว์ รวมถึงสัตว์ป่า คุณควรโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมักจะเป็น RSPCA ในเว็บไซต์ของเรา rspca.org.au คุณสามารถเลือก ‘ติดต่อ (Contact) และเลือก ‘รายงานการทารุณกรรม (Report Cruelty) ในแต่ละรัฐและมณฑลจะมีหน่วยงาน RSPCA ของตนเช่นกัน
เมื่อคุณรายงานการทำผิดกฎหมาย ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณจะถูกเก็บเป็นความลับ
หากคุณพบเห็นสัตว์ตกอยู่ในอันตราย เช่น ถูกขังอยู่ในรถที่ร้อนจัด คุณควรติดต่อตำรวจ คุณเวย์แมน-โจนส์กล่าว
รายงานสัตว์พื้นเมืองที่ป่วย บาดเจ็บ หรือกำพร้า ไปยังสายด่วนกู้ภัยสัตว์ป่าแห่งออสเตรเลีย (Wildlife Rescue Australia) ตลอด 24 ชั่วโมงย ที่หมายเลข 1300 596 457
“สิ่งสำคัญที่ควรทราบเกี่ยวกับสัตว์ป่าในออสเตรเลีย คือมีสัตว์ป่าหลายชนิดที่มีกระเป๋าหน้าท้อง หมายความว่าพวกมันมีลูกอยู่ในกระเป๋า หากคุณพบจิงโจ้ พอสซัม (Possum) หรือโคอาล่าถูกรถชน หากปลอดภัยที่จะหยุดรถ ควรตรวจดูว่ามีลูกของมันอยู่ในกระเป๋าหรือไม่ หากมี ควรโทรหาหน่วยกู้ภัยสัตว์ป่า”
เว็บไซต์ของ RSPCA รวบรวมกฎหมายคุ้มครองสัตว์และข้อมูลอื่นๆ จากทั่วออสเตรเลีย อ่านข้อมูลได้ที่ kb.rspca.org.au
...
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลออสฯ ทุ่มงบ 50 ล้านเหรียญช่วยหมีโคอาล่าไม่ให้สูญพันธุ์