ผู้หญิงแถวหน้าของชุมชนไทยในออสเตรเลีย: เอกอัครราชทูตไทยฯ กงสุลใหญ่ฯ และกงสุลกิตติมศักดิ์ กับวันสตรีสากล

BS cover-Interview-International women day.jpg

ผู้หญิงไทยในสายการทูตกับวันสตรีสากล Credit: Supplied, Pexels/Moose Photo

เอสบีเอส ไทย

View Podcast Series

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

ชุมชนไทยในออสเตรเลียมีเอกอัครราชทูตฯ กงสุลใหญ่ฯ และกงสุลกิตติมศักดิ์ที่เป็นผู้หญิงทั้ง 3 ท่าน เอสบีเอสไทยสอบถามถึงความสำคัญของวันสตรีสากล พร้อมสะท้อนปัญหาที่ผู้หญิงยังคงเผชิญในทุกวันนี้

กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

ในวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสตรีสากล วันที่รณรงค์ถึงความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรี ซึ่งมีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิสตรีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1909

ปัจจุบันยังเป็นวันที่เฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้หญิงอีกด้วย

สำหรับชุมชนไทยในออสเตรเลีย มีผู้หญิง 3 ท่านที่ทำงานเพื่อชุมชน นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นางเทสซา ซัลลิวัน กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเมลเบิร์น

เอสบีเอสไทยสอบถามทั้ง 3 ท่านถึงความสำคัญของวันสตรีสากลต่อผู้หญิงทั่วโลก โดยเอกอัครราชทูตไทยฯ กล่าวว่าเป็นโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้หญิงและสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาที่ผู้หญิงยังคงเผชิญ

Photo-H.E. Ms Arjaree Sriratanaban-01.jpg

นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลก์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา Credit: Supplied/Arjaree Sriratanaban

“วันสตรีสากลก็เป็นวันที่เป็นโอกาสสําคัญ ส่วนหนึ่งก็เป็นการเฉลิมฉลองความสําเร็จ บทบาทของผู้หญิงที่มีในด้านต่างๆ ในสังคม เป็นโอกาสสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ อุปสรรค ความท้าทายต่างๆ ที่ผู้หญิงเรายังเผชิญอยู่ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่จะทําให้ ผู้หญิงร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลง หรือว่าผลักดันนโยบาย ให้การสนับสนุนกันและกัน เพื่อที่จะส่งเสริมให้เกิดเรื่องของความเท่าเทียมเพิ่มมากขึ้น”

นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ Credit: Supplied/Hataya Khusakul

ด้านกงสุลใหญ่ฯ หัทยากล่าวว่าวันสตรีสากลเป็นวันที่สร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทและคุณค่าของผู้หญิงให้แก่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

“เป็นวันที่สร้างความตระหนักรู้ให้กับทั้งผู้หญิง ผู้ชาย แล้วก็คนในสังคมถึงคุณค่าและบทบาทของสตรี ตั้งแต่ยุคที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นโอกาสให้มองไปถึงในอนาคตในเรื่องของความเท่าเทียม เป็นโอกาสที่ทําให้ทุกคนหันมาร่วมกันคิด ร่วมกันผลักดัน เพื่อให้เกิดโอกาสที่มากขึ้น หรือสะท้อนถึงความสําคัญของสตรีในยุคปัจจุบันให้มากขึ้นค่ะ”

นางเทสซา ซัลลิวัน กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเมลเบิร์น Credit: Supplied

สำหรับกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ เทสซา วันสตรีสากลเป็นวันที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของผู้หญิงซึ่งมีจำนวนประชากรครึ่งหนึ่งของโลก

“วันสตรีสากลจึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของความจริงที่ว่าเรามีผู้หญิง 50% ของประชากรโลก และพวกเธอควรได้รับการยอมรับและเคารพจริงๆ และฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสที่เราจะสร้างความเป็นพี่น้องกันในระดับส่วนบุคคลด้วยสายสัมพันธ์ของการเป็นผู้หญิง และฉันคิดว่าผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าใจเส้นทางนั้น และฉันอยากเห็นวันสตรีสากลส่งเสริมผู้หญิงรุ่นต่อไปด้วย เช่น นักเรียนคนต่อไป เด็กผู้หญิงคนต่อไป ใช่แล้ว เด็กผู้หญิงคนต่อไปที่จะประสบความสำเร็จและก้าวไปข้างหน้า”

เมื่อถามถึงผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นแบบอย่าง เอกอัครราชทูตฯ อาจารีกล่าวว่าคือคุณแม่ ผู้หญิงท่านอื่นในที่ทำงาน รวมถึงผู้หญิงท่านอื่นที่ประสบความสำเร็จด้วย

กงสุลใหญ่ฯ หัทยากล่าวว่าเป็นนักการทูตหญิงท่านอื่นเช่นกัน

ในปัจจุบันมีนักการทูตสตรีขึ้นมามีบทบาทสำคัญในระดับเอกอัครราชทูตหรือระดับหัวหน้าหน่วยงานที่เป็นองค์กรระหว่างประเทศมากมาย ผู้หญิงเหล่านี้มีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศมาก เราเห็นบทบาทของผู้หญิงในแวดวงเดียวกันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน ในการที่จะก้าวต่อไปเสมอมา
กงสุลใหญ่ฯ หัทยากล่าว

และกงสุลกิตติมศักดิ์เทสซากล่าวว่าเป็นคุณย่าและคุณแม่ที่ทำทุกอย่างเพื่อคนรุ่นหลังเช่นเธอ

ทั้งนี้ การสำรวจสำมะโนประชากรออสเตรเลียระบุว่าผู้ย้ายถิ่นที่มีสัญชาติไทยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และปัญหาที่ผู้หญิงไทยต้องเผชิญในออสเตรเลียมักเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

เอกอัครราชทูตฯ อาจารีกล่าวว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้หญิงไทยเท่านั้น ผู้หญิงชาวออสเตรเลียเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน และอาจไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่เนื่องจากความกังวลเรื่องวีซ่า

ปัญหาส่วนหนึ่งก็อาจจะเกิดจากการที่อาจจะไม่กล้า หรือไม่อยากที่จะไปขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางการของออสเตรเลียเอง โดยเฉพาะกระทรวงกิจการภายใน (Home Affairs) ก็มีการดําเนินการดูแลในเรื่องนี้ มีสายด่วนให้แจ้งเหตุ มีหน่วยงานสนับสนุนช่วยเหลือ ความกังวลนึงที่เราคิดว่าทางผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคงอาจจะเพราะมีข้อกังวลเรื่องของวีซ่า
เอกอัครราชทูตฯ อาจารี ศรีรัตนบัลล์

ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงมักไม่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง Source: Pixabay / Diana Cibotari

กงสุลใหญ่ฯ หัทยากล่าวว่าภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเป็นความท้าทายที่อาจทำให้ผู้หญิงไทยเสียเปรียบและไม่กล้าออกจากความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรง

“สิ่งที่สถานกงสุลใหญ่ฯ องค์กรเอกชน หรือองค์กรอาสาฯ จะให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่องของกฎหมาย ที่พักชั่วคราว หรือว่าการดูแลสภาพจิตใจ ขอให้ผู้หญิงไทยที่ประสบปัญหาที่นี่ อย่าได้ลังเลใจ คุณสามารถขอรับความช่วยเหลือหรือขอรับคำแนะนำจากเราได้ตลอดค่ะ”

กด ▶ ฟังบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม