โทรก่อนแล้วค่อยคิด : ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้ผู้หญิงใส่ใจกับภาวะหัวใจวาย

AMBULANCE VICTORIA STOCK

ภาพถ่ายรถพยาบาลจอดอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลรอยัลเมลเบิร์น ในเมืองเมลเบิร์น วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2024 (AAP Image/James Ross) Source: AAP / JAMES ROSS/AAPIMAGE

ผลสำรวจล่าสุดพบว่าประมาณหนึ่งในสามของคนที่มี อาการของภาวะหัวใจวายไม่ติดต่อเบอร์โทรฉุกเฉิน 000 ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าทุกนาทีมีค่า เมื่อคุณสงสัยว่าคุณเกิดภาวะหัวใจวาย และไม่ควรลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ


ฟังพอดคาสต์ในเรื่องอื่นๆ ของเราได้ที่นี่:  

เมื่อไม่นานนี้ ชาริน เฟรนช์ ล้มป่วย โดยไม่รู้สาเหตุ เธอเล่าว่า

"ฉันรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ชาที่แขน เจ็บกราม แน่นหน้าอก"

จนในที่สุด ครอบครัวของสามีเธอเป็นผู้เรียกรถพยาบาล เนื่องจากเธอไม่ตระหนักถึงความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น

ภายหลังชาริน เฟรนช์ คุณแม่ลูกสาม วัย 51 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหลอดเลือดหัวใจฉีกขาดเอง (SCAD) ซึ่งเป็นโรคหัวใจที่มักเกิดในผู้หญิง และสามารถเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

"ฉันไม่เคยรู้สึกมีอาการแบบนี้มาก่อน คิดแค่ว่าขอไปอาบน้ำเดี๋ยวก็คงดีขึ้น แต่พอเดินไปตามทางเดินห้องโถงซึ่งมีระยะทางแค่ 20 เมตร ฉันก็ล้มลงกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้" ในขณะนั้นทุกคนทุกคนออกไปดื่มกาแฟกันหมด ยกเว้นพ่อแม่สามี"


โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 34,000 คน ซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษ (British Medical Journal) ระบุว่าประมาณหนึ่งในสามของคนที่มีอาการจะไม่โทรแจ้ง Triple-0 แม้จะมีอาการของภาวะหัวใจวาย

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้หญิงอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังมีอาการหัวใจวาย เนื่องจากอาการอาจแตกต่างจากผู้ชาย

ดร.ลินดา วอร์รอล-คาร์เตอร์ ผู้อำนวยการองค์กร เฮอร์ ฮาร์ท (Her Heart) ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับอาการหัวใจวายในผู้หญิง

“โดยทั่วไป สื่อมักให้ความสำคัญกับภาวะหัวใจวายในผู้ชาย ขณะที่งานวิจัยพบว่าผู้หญิงมีอาการที่แตกต่างจากผู้ชายอย่างมาก ทำให้เกิดช่องว่างด้านความตระหนักรู้ ทั้งในสังคม ผู้หญิงเอง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์”

ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์มักนำเสนออาการหัวใจวายผ่านตัวละครชาย โดยฉากที่พบบ่อยคือการเจ็บแน่นหน้าอก ซึ่งเป็นภาพจำของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในสื่อ

อย่างไรก็ตาม ดร.ลินดา วอร์รอล-คาร์เตอร์ ระบุว่า อาการเจ็บหน้าอกไม่ได้เกิดขึ้นในผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีภาวะหัวใจวาย

“ผู้หญิงมากถึง 60% อาจไม่มีอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดว่าต้องเกิดขึ้นเสมอ"

งานวิจัยพบว่าผู้หญิงมักมีอาการปวดบริเวณกราม ร้าวไปถึงสะบัก รู้สึกหายใจไม่ออก เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง
ดร.ลินดา วอร์รอล-คาร์เตอร์ ผู้อำนวยการองค์กร Her Heart
ขณะเดียวกัน งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่แยกจากการวิจัยของมหาวิทยาลัย Monash พบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มลังเลที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อสงสัยว่าตนเองกำลังมีภาวะหัวใจวาย

ผลสำรวจเผยว่า 35% ของผู้ตอบแบบสอบถามหญิงระบุว่าไม่ต้องการเป็นภาระของหน่วยบริการฉุกเฉิน ขณะที่ในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้ชายอยู่ที่ 27%

ด้าน รองศาสตราจารย์แคทรีน อีสต์วูด นักปฏิบัติการฉุกเฉิน จากมหาวิทยาลัย Monash ระบุว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการศึกษาเลือกที่จะติดต่อแพทย์ประจำตัวแทนที่จะโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉิน

“พวกเธอต้องการความมั่นใจว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นภาวะหัวใจวายจริง ๆ และโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง พวกเธอมักคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดภาวะหัวใจวาย”

แต่เพศไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้บางคนลังเลที่จะโทรขอความช่วยเหลือ

รองศาสตราจารย์แคทรีน อีสต์วูด ระบุว่าจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Monash ยังพบอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

"เราพบว่าคนที่เกิดในต่างประเทศหรือพูดภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษที่บ้าน จะไม่ค่อยติดต่อหน่วยฉุกเฉิน ซึ่ง

ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง นี่คือโอกาสที่เราจะได้ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับเมื่อไหร่ที่พวกเขาควรติดต่อหน่วยฉุกเฉิน

ซึ่งรองศาสตราจารย์ อีสต์วูด กล่าวว่า หากคุณคิดว่าจะติดต่อหน่วยบริการเหตุฉุกเฉินให้โทรทันที

โทรก่อน ตัดสินใจทีหลัง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สะดวก นั่นคือหน้าที่ของเรา อย่าลังเล
รองศาสตราจารย์ แคทรีน อีสต์วูด มหาวิทยาลัย Monash

ผู้ที่เคยใช้บริการอย่าง ชาริน เฟรนช์ บอกว่าเห็นด้วยอย่างมาก

"ฉันนึกว่าฉันแค่ติดไวรัส แล้วต้องนอนพักผ่อน เลยเลี่ยงเจอผู้คนเพราะไม่อยากให้ไปติดใคร เมื่อตอนที่รู้ตัวว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดก็ล้มบนพื้นแล้วขยับตัวไม่ได้แล้ว"

แต่เธอบอกว่าเธอรู้สึกขอบคุณที่ได้รับการรักษาพยาบาลทันเวลา และมีโอกาสรอดชีวิต

"ฉันรู้สึกขอบคุณ ฉันรู้สึกว่าชีวิตนั้นมีค่า และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่พิเศษ" ชาริน เฟรนช์ ให้ข้อคิด

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ หรือ และ




Share

Recommended for you