สถาบัน Grattan ระบุว่า นักเรียนชาวออสเตรเลียกำลังตามไม่ทันในวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดวิชาหลักของหลักสูตรระดับชาติ
ข้อมูลจากรายงานนี้พบว่า ผลการสอบ NAPLAN ปี 2024 นักเรียน 1 ใน 3 มีผลการสอบคณิตศาสตร์ต่ำกว่าระดับที่ควรเป็น
และในจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมการสอบ NAPLAN มีนักเรียนที่ถูกประเมินว่าไม่ผ่านเกณฑ์อยู่หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นร้อยละ 36 ของนักเรียนหญิงที่เข้าสอบ ร้อยละ 43 ของนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนที่อยู่นอกเขตเมืองใหญ่
ร้อยละ 67 ของนักเรียนชาวพื้นเมือง (Indigenous) หรือนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก มีจำนวนร้อยละ 28 ที่คะแนนคณิตศาสตร์ไม่ผ่านเกณฑ์
เอมี เฮย์วูด รองผู้อำนวยการโครงการการศึกษาของสถาบัน Grattan กล่าวว่า ผลลัพธ์ของการประเมินเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อตัวนักเรียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอีกด้วย
"มันมีผลกระทบต่อตัวบุคคล เพราะคณิตศาสตร์เป็นทักษะสำคัญในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงในการประกอบอาชีพในอนาคตไม่เพียงเท่านั้น มันยังผลกระทบต่อสังคมของประเทศโดยรวมเช่นกัน"
"เมื่อเรามองไปที่ผลลัพธ์ของนักเรียนที่มีทักษะคณิตศาสตร์ต่ำ เราพบว่าพวกเขามักมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เช่น โอกาสในการได้งานหรือรายได้ที่น้อยกว่า"
ดังนั้นถ้าเรายังไม่สามารถยกระดับผลลัพธ์ทางการเรียนให้ได้มาตรฐาน หรือพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เต็มที่ สิ่งนี้จะส่งผลต่อการเติบโตในอนาคตของออสเตรเลียอย่างมากเอมี เฮย์วูด รองผู้อำนวยการโครงการการศึกษาของสถาบัน Grattan
คุณเฮย์วูดยังกล่าวว่า ปัจจุบันมีนักเรียนชาวออสเตรเลียไม่มากนักที่มีผลการเรียนคณิตศาสตร์ในระดับยอดเยี่ยม
รายงานนี้ยังได้นำผลการเรียนของนักเรียนออสเตรเลียไปเปรียบเทียบกับแนวโน้มในแบบทดสอบระดับนานาชาติที่ชื่อว่า International Mathematics and Science Study (TIMSS)
ในปี 2023 มีเพียงร้อยละ 13 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ "ยอดเยี่ยม" ในวิชาคณิตศาสตร์ และตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 11 สำหรับนักเรียนปีที่ 8 หรือ ม.2
แม้คะแนนเหล่านี้จะสูงกว่าค่ากลางในระดับนานาชาติซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7 แต่ก็ยังต่ำกว่าหลายประเทศ เช่น อังกฤษ และสิงคโปร์
ผลสำรวจที่ใช้ประกอบรายงานยังพบว่า ครูบางคนขาดความมั่นใจในการสอนคณิตศาสตร์ ทั้งในส่วนของตนเองและเพื่อนครูด้วยกัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่ คุณสตีเวน แคปป์ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมเชลซีไฮต์ส (Chelsea Heights Primary School) เห็นด้วยกับผลสำรวจดังกล่าวและเคยมีประสบการณ์ตรงด้วย
“มันมีความแตกต่างในระดับความมั่นใจในการสอนของครูในการสอนคณิตศาสตร์ รวมถึงความเข้าใจในลำดับเนื้อหาตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งในฐานะผู้นำของโรงเรียน มันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่เราต้องทำงานอย่างลงลึก และจริงจัง ร่วมกับครูบางคน รวมถึงจัดการฝึกอบรมให้พวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า รายงานฉบับนี้อาจยังไม่สะท้อนภาพรวมที่แท้จริงของครูระดับประถมศึกษา เนื่องจากสำรวจครูเพียงไม่ถึง 1,800 คน
คาเรน ยาเกอร์ ประธานสมาคมวิชาชีพครูแห่งออสเตรเลีย (Australian Professional Teachers Association) ก็เป็นหนึ่งในผู้แสดงความเห็นต่อประเด็นนี้
“มีครูที่ถูกสำรวจไม่ถึงร้อยละ 10 ของจำนวนครูทั้งหมด โดยเฉพาะในรัฐแทสมาเนียมีเพียงร้อยละ 2 และในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น”
คุณยาเกอร์ระบุว่า โรงเรียนและชุมชนการศึกษาในแต่ละพื้นที่ยังต้องการการสนับสนุนมากกว่านี้
“เราต้องกลับมามองความจริงที่ว่า ในพื้นที่ภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลีย มีการสนับสนุนเพียงพอสำหรับนักเรียนและครูแล้วหรือไม่? ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนครู และยังมีครูจำนวนไม่น้อยที่ต้องสอนคณิตศาสตร์ ที่ไม่ใช่สาขาที่ตัวเองเชี่ยวชาญ ซึ่งมันก้เป็นปัญหา
เอมี เฮย์วูด กล่าวเสริมว่า
“เราต้องการให้รัฐบาลของทุกรัฐและทุกเขตการปกครองนำข้อเสนอนี้ไปพิจารณา เพราะไม่เช่นนั้น เราก็เท่ากับกำลังยอมรับความล้มเหลวในวิชาคณิตศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป”
ด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการของรัฐบาลกลาง เจสัน แคลร์ ระบุว่า รัฐบาลกลางได้ทำข้อตกลงด้านงบประมาณฉบับใหม่ร่วมกับทุกรัฐและดินแดนแล้ว ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งก้าวไปสู่การได้รับงบประมาณอย่างเต็มที่และเป็นธรรม
เขายังเสริมว่า ข้อตกลงเหล่านี้มีการกำหนด “เป้าหมายที่ชัดเจน” เช่น การลดสัดส่วนของนักเรียนที่อยู่ในระดับ “ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ในการสอบ NAPLAN ลง ร้อยละ 20 ภายในปี 2030